ข่าวลือการซื้อตัวที่ใหญ่ที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์นี้คือข่าวลือของแฟรงกี้ เดอ ยอง ห้องเครื่องของบาร์เซโลนา

เป็นที่รู้กันว่าผู้จัดการทีมป้ายแดงของสโมสรอย่างเอริค เทน ฮากกำลังมองหาโอกาสในการกลับมาร่วมงานกับมิดฟิลด์วัย 25 ปีอีกครั้ง และตั้งใจที่จะปั้นให้เขาเป็นนักเตะตัวสำคัญในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโฉมใหม่ที่เขากำลังสร้างทีมไว้เพื่อลุยศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022/23

ในครั้งแรกที่พวกเขาร่วมงานกันนั้น พวกเขาได้ทิ้งผลงานอันยอดเยี่ยมในการสร้างทีมอาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัมที่โดดเด่นในช่วงยุค 2010s ก่อนที่เดอ ยองจะย้ายไปแดนกระทิงดุเพื่อลงเล่นให้กับสโมสรในฝันของเขาอย่างบาร์เซโลนา

ตอนนี้ เส้นทางอาชีพลูกหนังของพวกเขานั้นกำลังอยู่ในเส้นทางที่แตกต่างกัน เดอ ยองกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มสะดุดเหมือนกับต้นสังกัดของเขา ในขณะที่เทน ฮากกำลังย้ายมากุมบังเหียนของปิศาจแดง แต่เราก็ยังคงต้องรอดูว่ามันจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง เมื่อลองมองไปข้างหน้า การกลับมาร่วมงานกันอาจจะเป็นการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน แต่อย่างไรก็ตาม การที่       เดอ ยองคอยปฏิเสธและปิดโอกาสในการพูดถึงเรื่องของการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเทน ฮากก็ควรที่จะเริ่มเปลี่ยนโฟกัสไปที่นักเตะตัวอื่นแทน

และแน่นอนว่าพวกเขามีตัวแทนที่ยอดเยี่ยมรอไว้แล้ว – ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในลิสต์รายชื่อที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการตัวมานานกว่ากองกลางชาวดัตช์แมนซะอีก – นั่นก็คือวิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ กองกลางตัวสำคัญของเลสเตอร์ ซิตี้

เรื่องราวของเอ็นดิดี้และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ในอดีต กองกลางจอมตัดเกมชาวไนจีเรียมีข่าวการย้ายตัวเชื่อมโยงกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและมีนักวิจารณ์บางคนที่แนะนำตัวนักเตะคนนี้ให้กับสโมสร – รวมถึงนักเตะชื่อดังจากคลาส ออฟ 1992 – ได้โน้มน้าวให้นักเตะย้ายไปร่วมทีม

แกรี่ เนวิลล์ นักวิจารณ์ที่โด่งดังที่สุดในบรรดานักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเคยแนะนำเอาไว้เมื่อปี 2021 นอกเหนือจากดาวยิงของทีมจิ้งจอกสยามอย่างเจมี่ วาร์ดี้แล้ว เนวิลล์ยังพูดถึงเอ็นดิดี้ว่าเป็นนักเตะที่หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าตัวเขามาได้ พวกเขาจะได้ประโยชน์จากมิดฟิลด์ชาวไนจีเรียอย่างแน่นอน

เมื่อช่วงต้นเดือน ผู้สื่อข่าวจากสกาย สปอร์ตส์อย่างคริส ฮามิลล์ได้ให้เหตุผลทางสถิติไว้ว่าทำไมเอ็นดิดี้ถึงควรจะเป็นตัวเลือกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับรายการฟุตบอล เดลี่ เขาบอกว่า “วิลเฟร็ด (เอ็นดิดี้) ของเลสเตอร์นั้นเป็นนักเตะที่มีทุกอย่างที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังมองหาอยู่และเนื่องจากสัญญาของเขากับเลสเตอร์เหลืออยู่อีกเพียง 2 ปี มันก็มีแนวโน้มที่ค่าตัวของเขาจะลดลงเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่น่าดึงดูดใจที่เกี่ยวพันกับตัวเขาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา”

“และในขณะที่เขาพลาดการลงสนามในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของฤดูกาลด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า แต่ถ้าหากเขาไร้ซึ่งอาการบาดเจ็บ เขาก็ยังถือเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในลีกอย่างแน่นอน ด้วยค่าเฉลี่ยการเข้าสกัดบอลมากถึง 6.5 ครั้งต่อเกมและยังอยู่ในอันดับที่ 7 ของมิดฟิลด์ในเรื่องการเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศอีกด้วย”

นอกเหนือจากเหล่าบรรดานักวิจารณ์ที่ออกมาโน้มน้าวให้เอ็นดิดี้ย้ายมาร่วมทีมอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 20 สมัย ยังมีรายงานออกมาจากสื่ออีกด้วยว่าทางสโมสรได้พิจารณาการคว้าตัวเขาในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แฟนบอลของเหล่าปีศาจแดงก็ชื่นชอบในตัวเอ็นดิดี้พอสมควร จากการที่มีชื่อของเขาอยู่ในโซเชี่ยล มีเดียและเว็บบอร์ดของแฟนบอลในฐานะนักเตะที่ทางสโมสรจำเป็นจะต้องจับตามอง

เพราะงั้นแล้วทำไมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึงไม่พิจารณาในการคว้าตัวกองกลางจากเลสเตอร์ ซิตี้ซักทีล่ะ?

เลสเตอร์ตั้งค่าหัว: ค่าตัวของเอ็นดิดี้สูงถึง 50 ล้านปอนด์

ค่าตัวถือเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึงไม่เดินเรื่องในการคว้าตัวนักเตะคนที่แน่นอนว่าเหมาะกับสไตล์การเล่นของพวกเขานั้นไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้นที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามันจะกลายมาเป็นเหตุผลหลักที่ว่าทำไมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึงไม่ดำเนินการคว้าตัวกองกลางจากไนจีเรีย

ในปี 2018 เอ็นดิดี้ – นักเตะที่ย้ายมาอยู่ในถิ่นคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยมได้เพียงปีเดียว ก็ได้เซ็นสัญญาต่อกับทางจิ้งจอกสยามไปอีก  6 ปี ซึ่งทำให้เขาจะอยู่กับสโมสรไปจนถึงปี 2024 ดังนั้นค่าตัวที่ทางเลสเตอร์ต้องการนั้นถือว่าเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลในมุมของพวกเขา เพราะนักเตะยังมีสัญญาระยะยาวกับสโมสร แต่แน่นอนว่าทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่ได้เห็นเขาเป็นนักเตะระดับ 50 ล้านปอนด์ เช่นกัน

ดังนั้น จึงพูดได้ว่าปิศาจแดงนั้นไม่ได้เห็นเขาเป็นนักเตะตัวหลักในการคว้าตัวเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเคยพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกมาแล้วก็ตาม มันอาจจะถือเป็นอีกดีลที่ไม่ปังของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่แอสตัน วิลล่าของ  สตีเว่น เจอร์ราร์ดนั้นพร้อมที่จะคว้าตัวมิดฟิลด์วัย 25 ปีด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสร รวมถึงเอ็นดีดี้ก็ยังมีข่าวเชื่อมโยงกับยักษ์ใหญ่จากแดนกระทิงดุอย่างเรอัล มาดริดอีกด้วย แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะซื้อตัวเอ็นดิดี้แล้ว หลังจากที่พวกเขาทุ่มเงินไปกว่า 100 ล้านปอนด์กับออเรลียง ชูอาเมนี่ กองกลางดาวรุ่งจากโมนาโกไปก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากเดอ ยองที่ค่าตัวอยู่ระหว่าง 70 ถึง 80 ล้านปอนด์จากบาร์เซโลนาที่กำลังมีปัญหาด้านการเงินแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังตกเป็นข่าวกับมิดฟิลด์ตัวอื่นที่อาจมีราคาสูงกว่าเอ็นดิดี้เช่นดีแคลน ไรซ์จากเวสต์แฮม ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม เอ็นดิดี้จะให้ความคุ้มค่ามากกว่ากับเงินที่พวกเขาต้องเสียไปเนื่องจากปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาคือนักเตะที่เชี่ยวชาญในการชะลอเกมรุกของคู่แข่งนั่นเอง

เอ็นดิดี้ vs เดอ ยอง

การเปรียบเทียบกันของทั้งสองจะแสดงให้เห็นว่าทำไมการเซ็นสัญญาซื้อตัวเดอ ยองนั้นจะเป็นเพียงการคว้าตัวนักเตะบิ๊กเนม  แต่จะไม่ได้สร้างอิมแพคอะไรเลยกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชุดปัจจุบัน

เดอ ยองเป็นมิดฟิลด์ที่โดดเด่น มีความสามารถรอบด้านและความแข็งแกร่งในการครองบอลที่ยอดเยี่ยม การเลี้ยงบอลและการเล่นในที่แคบของเขาก็ทำให้คู่แข่งต้องพบกับความยากลำบากในการไล่ตามและแย่งบอลจากเขาในแดนกลาง เขายังถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ลำเลียงบอลได้ที่ดีที่สุดในโลกและยังวิ่งพล่านไปทั่วสนามในทุกๆ เกมอีกด้วย เขายังมีการอ่านเกมได้ดี ซึ่งช่วยให้เขาสามารถมองเห็นช่องการจ่ายบอลในแต่ละโซนได้ในขณะที่เขาครองบอลจากในแดนของตัวเองไปถึงแดนของฝ่ายตรงข้าม

ประสิทธิภาพของเอ็นดิดี้ในการเข้าสกัดบอล, การเพรสซิ่ง, การสกรีนเกมรับและการเซ็ตเกมขึ้นมาใหม่นั้นก็โดดเด่นกว่าใคร ๆ ในวงการฟุตบอลเหมือนกัน เขาเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งในการยืนตำแหน่งมากที่สุดอีกด้วยและนี่คือสิ่งที่เดอ ยองยังมีไม่พอ มิดฟิลด์ชาวดัตช์มักจะต้องวิ่งเพื่อไปเข้าสกัด แต่เอ็นดิดี้แทบจะอยู่ได้ตรงตำแหน่งและไม่ต้องวิ่งมากนัก เพื่อจะมาสกัดบอล

นี่ทำให้เขาสามารถเซ็ตเกมใหม่หลังจากที่เขาแย่งบอลมาได้เร็วกว่าเดอ ยอง เขาเลือกการจ่ายบอลช่องที่ดีที่สุดและเพื่อนร่วมทีมของเขาก็กลับไปอยู่ในแดนของฝ่ายตรงข้ามแล้ว นี่จะเป็นประโยชน์ต่อบรูโน่ แฟร์นันเดสและเฟร็ดเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับปีกตัวจี๊ดอย่างเจดอน ซานโช่ที่ชอบลงมาล้วงบอลลึกจนถึงแดนของตัวเอง

สรุป

มิดฟิลด์ทั้งสองคนนั้นมีประสิทธิภาพที่ชัดเจนและมันเป็นไปได้ที่เทน ฮากต้องการจะสร้างทีมอาแจ็กซ์ของเขาอีกครั้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดซึ่งทำให้การไล่ล่าตัวเดอ ยองของเขานั้นถือว่าเป็นอะไรที่สมเหตุสมผล

แต่ด้วยเวลาที่ไม่เคยอยู่ข้างพวกเขาและการที่โมเมนตัมของพวกเขาที่ตกลงต่ำมากในตอนนี้ เอ็นดิดี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า      ด้วยการที่เขามีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว มันน่าจะเป็นสิ่งที่จอมแทคติกชาวดัตช์วัย 52 ปี อยากได้ในตัวนักเตะของเขาอย่างแน่นอน

อ่าน:  บทวิจารณ์พรีเมียร์ลีก: เราได้เรียนรู้อะไรในปี 2024/25 บ้าง?
Leave A Reply