3 เกมแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ทำให้เราได้เห็นเชลซีจมอยู่ในอันดับที่ 12 โดยมีคะแนนอยู่ 4 คะแนนจาก 3 เกมแรกของพวกเขา ในช่วง 3 เกมแรกนั้นพวกเขายิงได้ 3 ประตูโดยมีเพียงประตูเดียวที่มาจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ ในแง่ของการสร้างโอกาส เชลซีมีอัตราในการสร้างโอกาสทำประตู (ต่อประตู) อยู่ที่ 4.1 ตามสถิติของ FotMob ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นอันดับที่ 10 ในลีก

จนถึงตอนนี้ เชลซีมีนักเตะที่ทำประตูอยู่ 3 คนในฤดูกาลนี้และในทั้ง 3 คนนั้นก็ไม่มีกองหน้าเลยแม้แต่คนเดียว รีซ เจมส์และจอร์จินโญ่เป็นชื่อที่เราคุ้นหูในเรื่องของการทำประตูให้กับเชลซี คูลิดู คูลิบาลี่เป็นอีกคนที่ทำประตูได้ในการลงสนามให้กับเชลซีในบ้านของพวกเขาในฤดูกาลนี้

เกมที่ออกไปเยือนลีดส์ ยูไนเต็ดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เชลซีพ่ายให้กับลูกทีมของเจสซี่ มาร์ชด้วยสกอร์ 3-0 ถือเป็นฟอร์มที่พวกเขาโดนคู่แข่งกดดันตลอดและไม่สามารถหาทางตอบโต้ได้เลยหลังจากที่ออกสตาร์ทเกมได้ดี ซึ่งพวกเขาได้ราฮีม สเตอร์ลิงส่งบอลเข้าไปกองอยู่ก้นตาข่ายได้แต่ก็ไม่ได้ประตูเพราะล้ำหน้า

เมื่อจบเกมการแข่งขัน เชลซีมีโอกาสยิงทั้งหมด 14 ครั้งและมีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นที่เข้ากรอบ โดยทีมสิงโตน้ำเงินครามอัตราในการสร้างโอกาสทำประตู (xG/Expected goals) ได้เพียง 0.88 ประตูเท่านั้น เมื่อเทียบกับลีดส์ที่ยิงตรงกรอบ 6 ครั้งและมีอัตราในการสร้างโอกาสทำประตู (xG/Expected goals) ถึง 2.22 ประตู น่าจะพอสรุปได้ว่าเชลซีไม่สามารถสร้างโอกาสที่จะแจ้งได้มากเท่าที่ควร แม้ว่าจะมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงถึง 61% ก็ตาม

ศูนย์หน้าที่พร้อมใจกันตีนบอดของเชลซี – หรือการไม่มีศูนย์หน้าที่แท้จริง

สิ่งสำคัญที่สุดคือกองหน้าของเชลซีไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งมากพอ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สิงห์บลูส์กำจัดทั้งโรเมลู ลูกากูและติโม แวร์เนอร์ออกจากสโมสร นักเตะทั้ง 2 คนนั้นถือเป็นนักเตะส่วนเกินของแผนการเล่นของโธมัส ทูเคิ่ลสำหรับฤดูกาลใหม่และได้มอบหน้าที่ศูนย์หน้าตัวหลักให้กับไค ฮาเวิร์ตซ์

ดาวยิงทีมชาติเยอรมันรายนี้ยังทำประตูไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้ และโดยภาพรวมเขาก็ไม่ได้ผลงานดีนัก เขาอาจจะเล่นได้ดีบ้างเป็นครั้งคราว อย่างเช่นในช่วง 45 นาทีในเกมกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ซึ่งในเกมนั้นเขาก็พลาดโอกาสทองในการพาทีมของเขาขึ้นนำอีกด้วย

ฮาเวิร์ตซ์ยิงไป 13 ประตูจาก 45 เกมเมื่อฤดูกาลที่แล้วและจบฤดูกาลด้วยการเป็นดาวซัลโวร่วมกับโรเมลู ลูกากูที่ตอนนี้ถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับอินเตอร์ มิลานและเมสัน เมานท์ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมันอาจจะเหมาะกับแทคติคระบบของทูเคิ่ล แต่ผลงานในตำแหน่งที่เขาลงเล่นนั้นยังแย่มากและเมื่อคุณมองดูฟอร์มของลูกากูและแวร์เนอร์ที่ยิงรวมกันได้ถึง 23 ประตูจากทุกเกมที่ลงสนามให้กับเชลซีเมื่อฤดูกาลที่แล้วนั้นไม่ได้อยู่กับสโมสรแล้ว ความกดดันในการให้เขาเป็นแกนนำของศูนย์หน้าตัวหลักนั้นก็เพิ่มมากขึ้น

เชลซีไม่มีกองหน้าที่ยิงประตูระดับ 20 ประตูนับตั้งแต่ที่ดิเอโก้ คอสต้าย้ายออกจากสโมสรในปี 2017 และพวกเขาทุ่มเงินกว่า 150 ล้านปอนด์เพื่อพยายามหาดาวยิงมาแทนที่เขา ทั้งอัลวาโร่ โมราต้าและโรเมลู ลูกากูต่างก็เป็นการซื้อตัวด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสรที่กลับไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่พวกเขาต้องการด้วยหลาย ๆ เหตุผลที่แตกต่างกัน

การไม่มีกองหน้าตัวเป้านั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อพวกเขาในการคว้าแชมป์ในอดีต เนื่องจากพวกเขาเป็นแชมป์รายการสโมสรโลกเช่นเดียวกับแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อสองฤดูกาลที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลที่แล้วพวกเขาแพ้ในเกมนัดชิงชนะเลิศรายการฟุตบอลถ้วยในประเทศให้กับลิเวอร์พูลด้วยการดวลจุดโทษถึง 2 รายการเนื่องจากไม่สามารถส่งลูกบอลเข้าไปกองอยู่ก้นตาข่ายของลิเวอร์พูลได้ในเวลา 120 นาที

เชลซีของโธมัส ทูเคิ่ลเป็นทีมที่สร้างมาเพื่อเข้าสู่รอบลึก ๆ ในรายการต่าง ๆ แต่พวกเขาไม่มีดาวยิงที่จะทำประตูในช่วงเวลาที่สำคัญและพาพวกเขาก้าวเข้าไปคว้าแชมป์ได้ เพื่อย่นระยะห่างของช่องว่างระหว่างพวกเขาเองกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาจำเป็นจะต้องเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งกองหน้าหรือจะยอมเสี่ยงที่จะตามหลังต่อไป การเซ็นสัญญาคว้าตัวกาเบรียล เชซุสของอาร์เซน่อลนั้นทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ดีขึ้นและจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ดูดีกว่าเชลซีมากโขเลยทีเดียว

ฮาเวิร์ตซ์ไม่ดีพอที่จะเล่นเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าจริง ๆ

ฮาเวิร์ตซ์นั้นอาจจะเป็นนักเตะที่ทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยมในอนาคต แต่จนถึงตอนนี้ ฟอร์มของเขานั้นทำให้เราได้เห็นว่าเขาเป็นเพียงแค่นักเตะที่ธรรมดาเอามาก ๆ ถ้านับจากตำแหน่งหน้าเป้า อย่างน้อยที่สุด เชลซีต้องการตัวเลือกในระยะสั้น กองหน้าที่เคยพิสูจน์ตัวเองมาแล้วที่จะเข้ามาและทำประตูตามที่พวกเขาต้องการ ในขณะที่ฮาเวิร์ตซ์ยังคงต้องพัฒนากันต่อไป

ในส่วนของตัวเลือกในแนวรุกที่นอกเหนือจากฮาเวิร์ตซ์นั้นก็ไม่ได้ดีมากไปกว่าตัวเขาซักเท่าไหร่เลย เมสัน เมานท์จะต้องระเบิดฟอร์มให้ได้อีกครั้งในเรื่องของการทำประตูและแอสซิสต์ มากกว่า 13 ประตูและ 16 แอสซิสต์ที่เขาทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

นักเตะใหม่อย่างราฮีม สเตอร์ลิ่งนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกและจนถึงตอนนี้ เขาก็เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดของพวกเขาใน 3 เกมแรกของฤดูกาล แต่เขาก็ยังส่งบอลผ่านเส้นประตูไม่ได้อยู่ดี นอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะที่มีฟอร์มที่แย่ลงที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาเนื่องจากการที่เขาขาดโอกาสในการลงสนาม แต่สถิติของเขาก็ยังดีอยู่เพราะว่าเขาอยู่ในทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั่นเอง

อาร์มันโด้ โบรยาเป็นกองหน้าดาวรุ่งที่มีความสามารถ แต่เขามีโอกาสได้ลงสนามเพียง 15 นาทีในเกมลีกในฤดูกาลนี้จากม้านั่งสำรอง การปล่อยเขาให้ไปเล่นที่เซาแธมป์ตันแบบยืมตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้วนั้นถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ 9 ประตูจาก 38 เกมนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขากลับมาสู่ทีมในฐานะองหน้าตัวเลือกแรกของโธมัส ทูเคิ่ล คริสเตียน พูลิซิชยิงไป 8 ประตูให้กับเชลซีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ถือว่าเป็นนักเตะคนสำคัญในขณะที่ฮาคิม ซิเยคและคัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอยก็มีโอกาสที่จะถูกปล่อยตัวออกจากสโมสร

ในแง่ของการคว้าตัวดาวยิงที่เคยพิสูจน์ตัวเองมาแล้วนั้น เชลซีกำลังพยายามอย่างเต็มที่และจะต้องเร่งมือในตลาดซื้อขายเพื่อเซ็นสัญญาคว้าตัวกองหน้าคนใหม่และอาจจะมีปีกอีก 1 รายก่อนที่ตลาดซื้อขายจะปิดตัวในวันที่ 31 สิงหาคมนี้

ดาวยิงคนไหนบ้างที่เชลซียังพอมีโอกาสที่จะคว้าตัวเข้ามาร่วมทีมได้?

กองหน้าหลายคนต่างตกเป็นข่าวกับการย้ายมาร่วมทีมเชลซีในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ความสนใจในตัวของปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยองนั้นดูเหมือนจะชัดเจนที่สุด ดาวยิงวัย 33 ปีนั้นเปิดกว้างสำหรับโอกาสในการย้ายมาเชลซีและได้ตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับทางสโมสรแห่งลอนดอนเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องค่าตัวระหว่างสิงห์บลูส์กับบาร์เซโลน่าได้ ฝ่ายยักษ์ใหญ่แห่งลาลีก้านั้นต้องการ 30 ล้านยูโรเพื่อเป็นค่าตัวของดาวยิงทีมชาติกาบอง

โอบาเมยองเป็นกองหน้าที่พิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกมาแล้วและจะเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งถึงแม้ว่าจะเป็นนักเตะในโปรเจ็คระยะสั้นของเชลซีที่มีความทะเยอทะยานในการทำประตู เขายิงได้ 11 ประตูจากการเป็นตัวจริง 13 นัดในลาลีก้าให้กับบาร์เซโลน่าและตลอดช่วงเวลาที่เขาลงสนามให้กับทีมคู่แข่งร่วมเมืองอย่างอาร์เซน่อล เขาจัดไป 92 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 163 นัด

นอกจากนี้ยังมีข่าวเชื่อมโยงถึงปีกของเอฟเวอร์ตันอย่างแอนโทนี่ กอร์ดอนอีกด้วย ซึ่งถือเป็นการเซ็นสัญญาที่มุ่งเป้าไปที่ความสำเร็จในระยะยาว เป็นดีลที่มีรายงานว่ามีค่าตัวอยู่ที่ 60 ล้านปอนด์ (50 ล้านปอนด์บวกแอดออนอีก 10 ล้านปอนด์) เชลซีมั่นใจว่าพวกเขาจะบรรลุข้อตกลงได้และมีรายงานระบุว่าตัวนักเตะเองต่างก็ต้องการย้ายไปร่วมทีมเชลซีด้วยเช่นกัน

สำหรับสิ่งที่เหล่าสิงห์บลูส์ต้องการในตอนนี้ โอบาเมยองคือดีลที่พวกเขาจำเป็นจะต้องจัดการให้เสร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อเสริมทัพและยกระดับไค ฮาเวิร์ตซ์เพราะดาวยิงทีมชาติเยอรมันไม่สามารถเป็นแกนนำในแดนหน้าได้หากเชลซีนั้นต้องการที่จะประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก

อ่าน:  ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์: ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้
Leave A Reply