สารบัญ
- บทนำ – ตลาดซื้อขายช่วงเดือนมกราคม
- สโมสรในพรีเมียร์ลีกที่จ้องจะซื้อนักเตะเพิ่ม
- สโมสรในพรีเมียร์ลีกที่เล็งจะขายนักเตะออก
- นักเตะเป้าหมายในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ
นักเตะ เป้าหมายที่มีสิทธิ์โดนซื้อตัวในช่วงตลาดซื้อขายนี้
บทนำ
เหล่าสโมสรฟุตบอลจะได้พักหายใจในช่วงนี้และรับชมฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกนั้นจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาว และนี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตารางการแข่งขันในช่วงกลางฤดูกาลและยังมีส่วนที่อาจจะทำให้แผนการของแต่ละสโมสรในพรีเมียร์ลีกนั้นเปลี่ยนแปลงไปอีกเช่นกัน
จากการที่ฟุตบอลโลกเตะกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงธันวาคม ตลาดซื้อขายในช่วงเดือนมกราคม 2023 นั้นมีสิทธิ์ที่จะเป็นตลาดซื้อขายในช่วงฤดูหนาวที่ยุ่งวุ่นวายมากที่สุดตลอดกาลเลยล่ะ
พวกเขาจะมาดูกันว่าแต่ละทีมในพรีเมียร์ลีกจะทำอะไรกันบ้างหลังจากจบทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์
สโมสรในพรีเมียร์ลีกที่จ้องจะซื้อนักเตะเพิ่ม
ช่องว่างทางด้านการเงินระหว่างสโมสรในพรีเมียร์ลีกและสโมสรอื่น ๆ ใน 5 ลีกใหญ่นั้นยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและในช่วงตลาดซื้อขายฤดูร้อนที่ผ่านมานั้นก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงช่องว่างนั้น สถิติการซื้อตัวรวมกันของพรีเมียร์ลีกในช่วงซัมเมอร์นั้นอยู่ที่ 2.237 พันล้านยูโร ในขณะที่อันดับที่สองคือเซเรีย อาจากอิตาลีซึ่งใช้เงินไปเพียง 749.2 ล้านยูโรเท่านั้น คิดเป็นส่วนต่างมากถึง 1.5 พันล้านยูโรเลยทีเดียว นั่นถือเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่ไม่มีทีท่าจะขยับเข้าใกล้กันได้เลยในเร็ว ๆ นี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรีเมียร์ลีกนั้นดึงดูดเหล่านักเตะที่ดีที่สุดจ่ากทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากแต่ละสโมสรนั้นมีเงินมากพอที่จะจ่ายให้เหล่านักเตะได้ ซึ่งมากกว่าทุก ๆ ที่ ๆ พวกเขาจะหาได้แล้วในโลก เมื่อรวมถึงความจริงที่ว่าเหล่าทีมกลางตารางก็ยังมีเงินพอที่จะคว้าตัวผู้จัดการทีมระดับแชมเปี้ยนส์ลีกมาได้นั้น มันก็กลายเป็นเรื่องยากที่จะต้านทานเรื่องเงินได้
แน่นอนว่ามันจะต้องมีปัญหาในช่วงฟุตบอลโลกสำหรับเหล่านักเตะที่ดีที่สุดเนื่องจากแต่ละทีมก็จะพยายามไต่เต้าให้ได้อันดับที่ดีกว่าเดิมในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่หนักหน่วง เหล่านักเตะดาวรุ่งที่อยู่ในเรดาร์ของเหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่นั้นก็จะจับตาดูในตอนที่พวกเขาลงเล่นให้กับทีมชาติในเวทีฟุตบอลโลกอีกเช่นกัน
ฟุตบอลโลกนั้นอาจจะทำให้ทีมเหล่านี้ได้เจอกับนักเตะใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและอยู่นอกเรดาร์ของพวกเขามาตลอด หรือกลับกันอาจจะลดทอนความสนใจของพวกเขาในตัวของนักเตะบางคนลง เพราะโชว์ฟอร์มในฟุตบอลโลกไม่ได้ตามที่สโมสรคาดหวังเอาไว้และเลิกไล่ล่าคว้าตัวพวกเขาไป ส่วนเหล่าตัวนักเตะบางรายเองก็รู้ตัวดีว่ามันไม่ใช่แค่การโชว์ฟอร์มให้ดีเพื่อชาติของพวกเขาเท่านั้น แต่มันคือความหวังในการโชว์ฟอร์ม เพื่อที่จะได้ย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกเพื่อโกยเงินอีกด้วย
เหล่าสโมสรบนหัวตารางและกลางตารางของพรีเมียร์ลีกนั้นจะมองหาการซื้อนักเตะด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน โดยหลักแล้ว เป้าหมายคือเพื่อประสบความสำเร็จในสนาม แต่สำหรับสโมสรกลางตารางแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะเป็นฝ่ายที่ต้องขายนักเตะออกไปนั้น พวกเขาจะมองหาโอกาสในการคว้าตัวนักเตะที่ยังไม่โด่งดังมากนักมากกว่า เพื่อที่จะคว้าตัวนักเตะได้ในราคาถูกโดยถือเป็นการลงทุนสำหรับอนาคตไปในตัว
สโมสรกลางตารางทีมอื่น ๆ จะมองหาโอกาสในการคว้าตัวนักเตะที่จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพของทีมในระยะยาวและช่วยให้พวกเขาขยับขึ้นไปเป็นทีม “บิ๊กซิกส์”
ทีมหัวตารางหรืออีกชื่อที่เรียกว่า “บิ๊กซิกส์” นั้นโดยปกติแล้ว พวกเขาจะจับตาดูเหล่านักเตะมากพรสวรรค์ เหล่านักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์อย่างฟุตบอลโลกนั้นจะดึงดูดเหล่าสโมสรมากมายพร้อมกับค่าตัวอีกมหาศาลเลยล่ะ
นักเตะเหล่านี้ถือเป็นนักเตะที่จะย้ายมาสโมสรใหญ่เพื่อก้าวขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ด้วยการที่ฤดูกาลจะกลับมาเตะทันทีหลังจากจบทัวร์นาเมนต์นี้ พวกเขาก็คาดหวังว่าจะสร้างอิมแพ็คให้กับทีมใหม่ได้ทันทีอีกเช่นกัน
แต่คงจะไม่ใช่ทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีกที่จะมองหาโอกาสในการคว้าตัวนักเตะหลังจากจบฟุตบอลโลก เพราะสุดท้ายแล้วฟุตบอลโลกนั้นก็เป็นเพียงทัวร์นาเมนต์สั้น ๆ และฟอร์มที่ดีในช่วงเพียง 5-6 เกมนั้นก็ไม่ได้การันตีถึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวนักเตะเอง
แน่นอนว่าบางทีมจะประวิงเวลาและรอจนถึงในช่วงซัมเมอร์ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจ อย่างไรก็ดี พวกเขาจะต้องเดินเกมอย่างระมัดระวัง เพราะมีความเป็นไปได้ที่นักเตะเป้าหมายของพวกเขาที่อาจจะมีสิทธิ์โดนทีมอื่นฉกตัดหน้าไปเช่นกัน
สโมสรในพรีเมียร์ลีกที่เล็งจะขายนักเตะออก
เหล่าสโมสรที่จะขายนักเตะในลีก (และนอกเหนือจากนั้น) จะหวังให้เหล่านักเตะของพวกเขานั้นโชว์ฟอร์มได้ดีในทัวร์นาเมนต์นี้ ยิ่งนักเตะของพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ดีมากเท่าไหร่ พวกเขาจะยิ่งปั่นราคาได้มากขึ้นเท่านั้นและปล่อยในราคาที่สูงที่สุดได้
หากมีบางทีมตัดสินใจที่จะไม่ซื้อตัวในช่วงตลาดซื้อขายช่วงเดือนมกราคมและนักเตะเหล่านั้นกลับโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล มูลค่าของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังคำคมที่ว่า “มูลค่าในอดีตไม่ใช่มูลค่าในปัจจุบัน”
หากพวกเขาดูไบรท์ตันเป็นตัวอย่าง พวกเขามีมอยเซส ไซเซโด้, คาโอรุ มิโตมะและอเล็กซิส แม็คอลิสเตอร์ที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลก
นักเตะ 3 คนนี้มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับทีมนกนางนวลก่อนลงเล่นในฟุตบอลโลกและหากใครคนใดคนหนึ่งสามารถโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้นั้น มันจะเป็นการทำกำไรอย่างมหาศาลให้กับทั้งตัวนักเตะและสโมสรอย่างแน่นอน
แต่ทีมไหนจะกลายเป็นทีมที่แอคทีฟมากที่สุดในตลาดซื้อขายนี้กัน และพวกเขาจะเสริมทัพอย่างไรบ้าง?
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังจากที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่สโมสรไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาจจะรู้สึกกดดันให้ต้องทำอะไรซักอย่างบ้างในตลาดซื้อขายครั้งนี้ เนื่องจากสโมสรหวังที่จะยกเลิกสัญญาของเขาและแถมยังเตรียมจะฟ้องซุปตาร์ชาวโปรตุเกสอีกด้วย จากรายงานหลาย ๆ แห่ง
คำถามก็คือว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะคว้ากองหน้าสำรองคนใหม่หรือไม่ พวกเขามีทางเลือกหนึ่งคือดึงตัวมาร์กซิยาลคืนจากสัญญายืมตัวหรือพวกเขาจะเลือกอีกวิธี นั่นก็คือหาทางคว้าตัวกองหน้าคนใหม่ป้ายแดงในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเอามาก ๆ เรื่องนี้มันก็ยากที่จะพูดแทนสโมสร แต่ความเป็นจริงก็คือว่าทางปิศาจแดงนั้นพร้อมและจำเป็นจะต้องเสริมทัพแน่นอน หากโรนัลโด้ย้ายออกจากทีม
อีกตำแหน่งที่พวกเขาจำเป็นจะต้องเสริมทัพนั่นก็คือแบ็คขวา ดิเอโก้ ดาโลต์มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและทีมก็ต้องการให้เขาโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไป เนื่องจากอาร่อน วาน บิสซาก้าและแบรนดอน วิลเลี่ยมนั้นยังโชว์ฟอร์มไม่เข้าตาผู้จัดการทีม
ในเกมนัดสุดท้ายก่อนเบรคฟุตบอลโลกกับฟูแล่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไทเรลล์ มาลาเซียลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายแถมยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ควรอีกด้วย
นักเตะเป้าหมายในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาจจะเล็งเป้าไปที่กองหน้าของนาโปลีอย่างวิคเตอร์ โอซิมเฮน ตอนนี้ เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในยุโรป แต่มันเป็นเรื่องยากเอามาก ๆ ที่นาโปลีจะยอมปล่อยตัวเขาออกจากทีมในช่วงเดือนมกราคม โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าพวกเขายังคงเป็นจ่าฝูงในเซเรีย อา
อีกตัวเลือกหนึ่งอาจจะเป็นดาวยิงของลีลล์อย่างโจนาธาน เดวิด ดาวยิงมากความสามารถชาวแคนาดานั้นจะเป็นกองหน้าอีกคนที่หลายทีมยักษ์ใหญ่หมายปอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเฝ้าจับตาดูฟอร์มของเขาในฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างใกล้ชิดเลยล่ะ
ส่วนโคดี้ กัํกโปของพีเอสวี ไอน์โฮเฟ่นก็ถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของพวกเขาเช่นกัน หลังจากที่เกือบจะคว้าตัวดาวยิงชาวดัตช์มาร่วมทีมได้แล้วในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ปิศาจแดงอาจจะหันกลับไปให้ความสนใจในตัวเขาพร้อมกับค่าเหนื่อยก้อนโต
อาร์เซน่อล
พลพรรคปืนใหญ่ครองตำแหน่งจ่าฝูงก่อนเข้าสู่ช่วงพักเบรคฟุตบอลโลกพร้อมกับช่องว่างทิ้งห่างรองจ่าฝูงถึง 5 แต้มและกลายมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัว แต่พวกเขากลับมีขนาดทีมที่ค่อนข้างเล็กเอามาก ๆ
ซึ่งมันก็อาจจะพูดได้ว่า เพราะการที่ทีมชุดนี้มีขนาดเล็กนั้นช่วยให้พวกเขามีความคงเส้นคงวาและโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด แต่เมื่อคำนึงถึงฤดูกาลที่ยาวนานแล้วล่ะก็ มันจะมีปัญหามากมายเกิดขึ้นและหนึ่งในนั้นคืออาการบาดเจ็บที่คอยรบกวนตัวนักเตะอยู่ตลอดเวลา
ปัจจุบัน พวกเขายังลงเล่นอยู่ใน 3 รายการและขาดตัวสำรองที่ดีพอในหลาย ๆ ตำแหน่งหลัก ๆ ของทีม หากนักเตะตัวสำคัญของพวกเขาอย่างโธมัส ปาร์เตย์หรือกรานิต ชาก้าได้รับบาดเจ็บแล้วล่ะก็ นักเตะตัวสำรองของพวกเขามีคุณภาพไม่เพียงพอเลยที่จะทดแทนในตำแหน่งนั้น ๆ ได้
ตำแหน่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเขาจำเป็นจะต้องเสริมก็คือแดนกลาง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ถือเป็นกำลังเสริมที่พอใช้ได้ แต่อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้านั้นยังไม่ได้โชว์ฟอร์มได้ดีพอเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ดีพอในฤดูกาลนี้ บางทีพวกเขาอาจจะจำเป็นต้องเสริมในส่วนอื่นอีกด้วย โดยเฉพาะในตำแหน่งแบ็คซ้าย
นักเตะเป้าหมายที่มีสิทธิ์โดนซื้อตัวในช่วงตลาดซื้อขายนี้
ยูริ ติเลอมองส์ของเลสเตอร์ ซิตี้นั้นตกเป็นข่าวที่จะย้ายไปอาร์เซน่อลในช่วงที่ผ่านมาและมันอาจจะเกิดขึ้นจริงได้ในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้ มิดฟิลด์มากความสามารถรายนี้จะเข้ามาช่วยเพิ่มการแข่งขันแย่งตำแหน่งมิดฟิลด์ภายในทีม และราคาของเขาจะถูกลงเป็นอย่างมากในช่วงตลาดฤดูหนาวนี้เนื่องจากเขามีสิทธิ์ที่จะย้ายตัวแบบไร้ค่าตัวในตลาดซัมเมอร์ที่จะถึงนี้
เซอร์เกจ์ มิลินโควิช ซาวิชของลาซิโอ้ก็มีข่าวที่จะย้ายออกจากอิตาลีมาหลายปีแล้ว เนื่องจากอาร์เซน่อลนั้นต้องการกำลังเสริมในแดนกลาง เขาอาจจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้
นอกจากนี้ ปีกวัย 21 ปีอย่างมิคาอิลโล่ มุนไดค์ที่มีข่าวเชื่อมโยงว่าจะย้ายออกจากชัคตาร์ โดเน็ตก์ หนึ่งในทีมที่ให้ความสนใจเขานั้นก็คืออาร์เซน่อลนี่แหละประธานสโมสรชัคตาร์อย่างคาร์โลล นิโคลินี่นั้นออกมายืนยันถึงความสนใจในตัวเขาจากทีมยักษ์ใหญ่เรียบร้อยแล้วและเขาจะไม่ถูกปล่อยตัวในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้อย่างแน่นอนพร้อมกับอธิบายว่าเขาคือนักเตะระดับ “ปรากฏการณ์”พวกเราจะต้องคอยดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในตลาดซื้อขายเดือนมกราคมที่จะถึงนี้