ผลการแข่งขันที่คา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ในวันเสาร์นี้จะเป็นเกมที่มีความรู้สึกใหม่ที่แตกต่างออกไป นั่นเป็นเพราะว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอฟอร์มเก่งภายใต้การคุมทีมของเอริค เทน ฮากเข้าให้แล้ว

ฤดูกาลนี้เดินทางมาเพิ่งจะราว ๆ ครึ่งทางของฤดูกาลเท่านั้นแต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ผ่านมาทั้งร้อนและหนาวมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องในและนอกสนามในฤดูกาลนี้ หนึ่งในช่วงที่ตกต่ำที่สุดของฤดูกาลนี้ก็คือเกมที่พวกเขาบุกไปพ่ายให้กับเรือใบสีฟ้าแบบเละเทะด้วยสกอร์ 6-3 ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ประตูแรกจากสามประตูในครึ่งหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นเกิดขึ้นในตอนที่พวกเขาโดนนำอยู่ 4-0 และทีมเรือใบสีฟ้าก็ไม่ได้เน้นเหมือนครึ่งแรกแล้วเพราะนำขาดมาก พวกเขาเอาชนะได้อย่างไร้ที่ติในเกมวันนั้นและต้องเจอกับความพ่ายแพ้ที่น่าอัปยศอีกครั้ง พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าพวกเขามาไกลเอามาก ๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและพวกเขาก็พร้อมที่จะหาทางแก้แค้นในเกมวันเสาร์นี้

ในทางกลับกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้เพิ่งเริ่มกลับมาโชว์ฟอร์มเข้าฝักอีกครั้ง หลังจากที่เปิดบ้านเสมอกับเอฟเวอร์ตันไปอย่างน่าผิดหวัง พวกเขาสามารถเอาชนะเชลซีได้ถึงสองเกมติดต่อกันทั้งในพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ

การเผชิญหน้ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มกำลังขาขึ้นแถมพวกเขายังได้เล่นในบ้านแบบนี้อาจเป็นงานหนักที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่เกมสโมสรกลับมาแข่งขันอีกครั้ง แต่พวกเขารู้ดีว่านี่คืองานที่พวกเขาต้องผ่านไปให้ได้เพื่อตามให้ทันจ่าฝูงของลีกอย่างอาร์เซนอล

ทีมปืนใหญ่จะออกไปเยือนคู่ปรับร่วมเมืองอย่างท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สในสุดสัปดาห์นี้และทีมเรือใบสีฟ้าก็หวังให้สเปอร์สจะช่วยหยุดความร้อนแรงของไอ้ปืนใหญ่ได้บ้าง แต่พวกเขาจะต้องจัดการในส่วนของพวกเขาให้สำเร็จซะก่อน

เกร็ดน่ารู้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยิงประตูได้มากกว่าทุก ๆ ทีมในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ พวกเขาพังประตูไปแล้ว 45 ประตู ซึ่งมากกว่าทีมอันดับสองอย่างอาร์เซนอลถึง 5 ประตู
พวกเขายังเป็นเพียง 1 ใน 2 ทีมที่ยิงประตูได้อย่างน้อย 40 ประตูในฤดูกาลนี้อีกด้วย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเก็บคลีนชีทได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ร่วมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้โดยเก็บคลีนชีทไปได้ 8 เกม พวกเขาเก็บคลีนชีทได้เท่ากับอาร์เซนอล โดยมีเพียงนิวคาสเซิ่ลเท่านั้นที่เก็บคลีนชีทได้มากกว่าพวกเขาที่ 10 เกมในฤดูกาลนี้
ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่แล้วทั้งฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเก็บคลีนชีทไปได้ 8 เกมเท่ากับฤดูกาลนี้

ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเก็บชัยชนะได้ตลอด 5 เกมนับตั้งแต่ที่ฟุตบอลสโมสรกลับมาฟาดแข้งใหม่ แต่ใน 5 นัดดังกล่าวคุณภาพทีมที่พวกเขาเจอนั้นก็เป็นทีมเล็ก ๆ ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไรเลย

จาก 5 ทีมที่พวกเขาเอาชนะมาได้ทั้งหมด ทีมอันดับสูงสุดในลีกคือน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งอยู่อันดับที่ 15 สถิตินี้ของพวกเขานั้นยังรวมถึงชัยชนะเหนือทีมระดับแชมป์เปี้ยนชิพอย่างเบิร์นลีย์อีกด้วย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่จากทีมที่พวกเขาเอาชนะมาได้ในช่วงที่ผ่านมา แต่หากคุณมองไปให้ไกลกว่าผลงานปัจจุบันแล้ว คุณจะเห็นว่าพวกเขาแพ้เพียงเกมเดียวในลีกนับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ต่อเรือใบสีฟ้าด้วยสกอร์ 6-3 ซึ่งนั่นคือความพ่ายแพ้เพียงเกมเดียวบวกกับชัยชนะอีก 7 นัดตลอด 11 เกม

ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้

มีไม่กี่ทีมที่จะถูกตั้งคำถามหลังจากพึ่งแพ้เพียง 3 เกมจาก 17 เกม แต่นั่นคือมาตรฐานที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ตั้งเอาไว้สำหรับพวกเขาเอง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้กำลังจะมองหาชัยชนะนัดที่ 3 จาก 4 เกมหลังสุดที่ลงเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกเพื่อไล่ตามจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอล

ลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเก็บแต้มในเกมนอกบ้านได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 โดยเก็บไปได้ถึง 17 คะแนนและแพ้เพียงแค่เกมเดียวในการออกไปเยือน พวกเขาจะกระตือรือร้นที่จะยังคงสถิตินี้เอาไว้ต่อไปให้ได้

สถิติในเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สถิติของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเวลาที่เจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในบ้านนั้นไม่ได้ดีเลย ทั้งสองทีมเจอกับในโอลด์ แทรฟฟอร์ดมาแล้ว 12 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2011 โดยเป็นทีมเรือใบสีฟ้าที่เก็บชัยชนะไปได้ถึง 7 เกมด้วยกัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้เพียง 3 เกมเท่านั้น ในขณะที่เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ในโรงละครแห่งความฝันนั้นจบลงด้วยผลเสมอ 2 ครั้ง สถิติดูจะเข้าข้างฝั่งทีมเยือนเอามาก ๆ เลยทีเดียวล่ะ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้กำลังมองหาโอกาสในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยซ้อนเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นครั้งที่ 6 ซึ่งจะมากกว่าทุก ๆ ทีมในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก (ลิเวอร์พูลทำได้ 5 ครั้ง)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียไปถึง 12 ประตูจาก 3 เกมหลังสุดที่พวกเขาเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในพรีเมียร์ลีก รวมถึง 6 ประตูในเกมนัดล่าสุดที่ทั้งสองทีมเจอกับในเอทิฮัด สเตเดี้ยมในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มันมากเท่ากับที่พวกเขาทำประตูใส่ทีมเรือใบสีฟ้าได้จาก 12 เกมหลังสุดที่พวกเขาเจอกันเลยทีเดียว
นี่ถือเป็นเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ในพรีเมียร์ลีกที่เตะไวที่สุดหากนับตามหน้าปฏิทินของปีใหม่นับตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งเกมนั้นเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เปิดเอทิฮัด สเตเดี้ยมเอาชนะปิศาจแดงไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 ในวันที่ 14 มกราคม

นักเตะที่น่าจับตามอง

มาร์คัส แรชฟอร์ด

มาร์คัส แรชฟอร์ดกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดหลังจากฤดูกาล 21/22 ที่ยากลำบาก เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ด้วยจำนวน 7 ประตูในลีกและปัจจุบันก็ไม่มีอะไรจะหยุดเขาได้

เป็นที่ทราบกันดีว่าสตาร์วัย 25 ปีนั้นมักจะยกระดับฝีเท้าของเขาสำหรับเกมใหญ่แบบนี้และจะมองหาโอกาสพังประตูใส่แมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างแน่นอน

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

จากการที่เขาซัดไปแล้ว 21 ประตู ฮาลันด์ต้องการอีกเพียงแค่ 2 ประตูเท่านั้นในการที่จะเทียบเท่ากับจำนวนที่ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วนั้นทำเอาไว้

เขาทำแฮตทริคได้ในเกมที่ทั้งสองทีมเจอกับเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาและเขาก็หวังที่จะทำแบบนั้นให้ได้อีกครั้งในเกมวันเสาร์นี้