รายงานผล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ ลิเวอร์พูล

 

ผู้ทำประตู : ดิอาซ 35′, 42′, ซาลาห์ 56′

 

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้ง 3 ประตูของลิเวอร์พูล ช่วยให้พวกเขาคว้าชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ในพรีเมียร์ลีก

 

ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยุติสตรีคการเสมอกัน 3 นัดติดต่อกันในการเผชิญหน้ากันระหว่างคู่ปรับที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังรักษาการออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างสมบูรณ์แบบของลิเวอร์พูลอีกด้วย โดยทำให้พวกเขาเก็บคลีนชีตได้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน

จุดเริ่มต้นที่บ้าคลั่ง

เกมเริ่มต้นขึ้นด้วยจังหวะที่รวดเร็ว ทั้งสองทีมต่างก็กระหายชัยชนะในเกมที่ดุเดือดนี้ ลิเวอร์พูลดูเหมือนจะได้เปรียบตั้งแต่ช่วงต้นเกมเมื่อลูกยิงของเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ดูเหมือนจะเข้าประตูได้หลังจากที่ดิโอโก ดาโลต์สกัดบอลไม่เข้า

 

อย่างไรก็ตาม ประตูดังกล่าวถูกปฏิเสธเนื่องจาก โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ล้ำหน้าก่อนที่จะสัมผัสบอลและจ่ายบอลให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

 

ความตื่นตระหนกในช่วงต้นเกมทำให้เห็นถึงความตื่นตระหนกของการเปิดเกมรุก โดยทั้งสองฝ่ายพยายามกดดันคู่แข่งอย่างเต็มที่และพยายามหาทางเอาเปรียบคู่แข่งที่ขาดความรอบคอบ แม้ว่าลิเวอร์พูลจะครองบอลได้ดีกว่าในช่วงต้นเกม แต่แนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับยืนหยัดได้อย่างมั่นคงในช่วงแรก โดยฟื้นตัวจากสถานการณ์อันตรายได้ดีและรักษาสกอร์ให้เท่ากัน

ลิเวอร์พูลเข้าควบคุม

เมื่อครึ่งแรกดำเนินไป ลิเวอร์พูลก็เริ่มแสดงความมั่นใจในการครองเกม ในที่สุดทีมเยือนก็ทำประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 35 โดยได้ประโยชน์จากการจ่ายบอลพลาดของคาเซมิโร ไรอัน กราเวนเบิร์ช สกัดบอลได้และพุ่งขึ้นไปข้างหน้าก่อนจะจ่ายบอลให้ซาลาห์ ซึ่งเปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ หลุยส์ ดิอาซ โหม่งบอลเข้าประตูอย่างแม่นยำ ทำให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0

 

เจ็ดนาทีต่อมา เมอร์ซีย์ไซด์ขึ้นนำ 2-0 จากความผิดพลาดอีกครั้งของกาเซมิโร ดิอาซแย่งบอลจากกองกลางบราซิลและส่งให้ซาลาห์ซึ่งตอบแทน ด้วยการเปิดบอลนอกกรอบเขตโทษอย่างงดงาม ดิอาซจบสกอร์ด้วยการยิงประตูแรกอย่างเฉียบขาด ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องชะงัก

ครองครึ่งหลัง

ในช่วงพักครึ่ง เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจครั้งสำคัญโดยส่งโทบี้ คอลลิเยอร์ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกแทนกาเซมิโร่ที่ฟอร์มกำลังย่ำแย่ คอลลิเยอร์สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นโดยจ่ายบอลให้โจชัว เซิร์กซียิง แต่อลิสซอนก็เซฟไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาของยูไนเต็ดยังคงเกิดขึ้น

 

ลิเวอร์พูล มาจากการโต้กลับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซาลาห์อีกครั้ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เอาชนะคอบบี้ ไมนูในแดนกลางและเปิดเกมบุกอย่างรวดเร็ว ซึ่งจบลงด้วยการที่ซาลาห์ยิงบอลผ่านผู้รักษาประตูของยูไนเต็ดไปอย่างใจเย็น

 

ประตูนี้ถือเป็นการที่ซาลาห์ยิงประตูที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน และตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะคู่ปรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มรับที่น่าประทับใจ

แม้ว่าซาลาห์จะเกือบทำประตูเพิ่มได้จากการพยายามยิงอีกสองครั้ง แต่เสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าบ้านที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดก็ตอกย้ำถึงความผิดหวังที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีศาจแดงพยายามดิ้นรนเพื่อกลับเข้าสู่เกม โดยอลิสซอนสามารถเซฟลูกโหม่งจากระยะเผาขนของเซิร์กซีได้สำเร็จ ก่อนที่กองหน้าชาวดัตช์จะยิงออกไปอีกครั้ง

 

ฟอร์มการป้องกันอันแข็งแกร่งของลิเวอร์พูลทำให้พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลพรีเมียร์ลีกด้วยการเก็บคลีนชีตได้ 3 นัดเป็นครั้งที่ 3 เท่านั้นในประวัติศาสตร์ของพวกเขา

 

ในทางตรงกันข้าม ความพ่ายแพ้ติดต่อกัน 2 นัดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้เอริก เทน ฮากต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น เนื่องจากเขาต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าขณะที่ทีมเข้าสู่ช่วงพักเบรกทีมชาติ

บทสรุป

ชัยชนะของลิเวอร์พูลที่โอลด์แทรฟฟอร์ดไม่เพียงแต่รักษาสถิติชนะ 100% ในฤดูกาลนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกที่สำคัญในหนึ่งในคู่แข่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษอีกด้วย

 

ความพ่ายแพ้ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำให้เกิดคำถามที่ร้ายแรงและเพิ่มแรงกดดันให้กับผู้จัดการทีม เอริก เทน ฮาก ในขณะที่เขากำลังพยายามพลิกสถานการณ์ในช่วงต้นฤดูกาลของพวกเขา

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์ของเกมนี้ คุณสามารถไปที่:

แมน ฯ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล 2024/25 | พรีเมียร์ลีก 

อ่าน:  รายงานผลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs นิวคาสเซิ่ล
Leave A Reply