รายงานผล ปอร์โต้ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้ทำประตู : เปเป้ 27′, ซามู 34′, 50′; แรชฟอร์ด 7′, ฮอยลันด์ 20′, แม็กไกวร์ 90+2′
ใบแดง : แฟร์นันเดส 81′
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอกับปอร์โต้ 3-3 ได้โดยอาศัยประตูตีเสมอสุดดราม่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากแฮร์รี่ แม็กไกวร์ หลังจากปล่อยให้ทีมนำ 2 ประตูหลุดมือไปในเกมยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่ตื่นเต้นเร้าใจ
ครึ่งแรก: แมนฯ ยูไนเต็ด ครองเกมตั้งแต่ต้นเกม และการคัมแบ็กของปอร์โต้
ปอร์โต้เริ่มต้นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สามารถทำประตูขึ้นนำได้ก่อนหมดเวลา 7 นาที มาร์คัส แรชฟอร์ด โชว์ฝีมือด้วยการวิ่งตัดเข้ามาจากทางซ้าย หลบเลี่ยงการปะทะของสตีเฟน ยูสตาคิโอ และโจเอา มาริโอ ก่อนจะจ่ายบอลให้ดิโอโก้ คอสต้า ยิงเข้าเสาแรก ทำให้ยูไนเต็ดขึ้นนำ
ทีมเยือนได้ประตูที่สองอย่างรวดเร็ว โดยที่แรชฟอร์ดกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง กองหน้ารายนี้เคลื่อนตัวเข้าด้านในและจ่ายบอลให้ราสมุส ฮอยลันด์ ซึ่งยิงผ่านคอสต้าไปที่เสาใกล้ประตูที่สองให้กับยูไนเต็ด
แม้จะเสียประตูตั้งแต่ช่วงต้นเกม แต่ปอร์โต้ก็กลับมาได้และตีเสมอได้สำเร็จภายในเวลา 7 นาที การเปิดบอลอันยอดเยี่ยมของ João Mário เข้าไปในกรอบเขตโทษทำให้แนวรับของยูไนเต็ดต้องเจอกับความหายนะ โดยลูกครอสแรกทำให้ Noussair Mazraoui ตกใจจนทำเข้าประตูตัวเอง แต่ André Onana กลับเผลอไปดันให้ André Onana ต้องเซฟลูกยิง
เปเป้ตอบโต้ลูกที่กระดอนมาได้ก่อน โดยซัดบอลเข้าประตูเพื่อลดช่องว่างระหว่างสองทีม ไม่กี่วินาทีต่อมา โจเอา มาริโอ ก็เปิดบอลอย่างแม่นยำอีกครั้งให้กับซามู ซึ่งกระโดดแซงหน้ามัทไธส์ เดอ ลิกต์ และโหม่งบอลเข้าประตูอย่างเต็มแรง ทำให้สกอร์เป็น 2-2
ครึ่งหลัง: แรชฟอร์ดบาดเจ็บ ปอร์โต้ขึ้นนำ และดราม่าช่วงท้ายเกม
แมนฯ ยูไนเต็ดต้องพบกับอุปสรรคเมื่อแรชฟอร์ดถูกเปลี่ยนออกในครึ่งแรก และไม่นานกระแสก็เปลี่ยนไปเป็นฝ่ายปอร์โต้
นิโก้ กอนซาเลซ เปิดบอลให้เปเป้ไปทางขวา จากนั้นเปเป้ก็จ่ายบอลให้ซามูทำประตูที่สองของเขาในเกมนี้ ซึ่งเป็นลูกยิงที่เกือบเสาแต่บอลก็พุ่งเข้ามุมบนและทำให้ปอร์โต้กลับมานำ 3-2
สถานการณ์ของแมนฯ ยูไนเต็ดแย่ลงไปอีก เมื่อกัปตันทีม บรูโน่ แฟร์นันเดส โดนใบเหลืองใบที่สองจากเตะสูง ส่งผลให้ทีมเยือนเหลือผู้เล่น 10 คนเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน
แม้จะเสียเปรียบในด้านจำนวนผู้เล่น แต่ยูไนเต็ดก็ยังสู้ต่อไป ปอร์โต้มีโอกาสทองที่จะปิดฉากชัยชนะผ่านเดนิซ กูล แต่โอกาสที่เขาพลาดไปกลับกลายเป็นเรื่องน่าเสียดาย
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ดได้เตะมุม และแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรอง โหม่งบอลเข้าประตูได้อย่างทรงพลัง ช่วยให้ทีมเก็บแต้มสำคัญได้ และจบเกมด้วยผลเสมอ 3-3
การต่อสู้อย่างหนักของแมนฯ ยูไนเต็ด และผลงานของปอร์โต้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถคว้าชัยชนะในเกมเยือนของยุโรปเป็นเกมที่สี่ติดต่อกัน แม้จะยิงได้สามประตูก็ตาม ทีมของเอริก เทน ฮากแสดงให้เห็นถึงความอดทนในการกลับมาในช่วงท้ายเกม แต่จุดอ่อนในแนวรับและการขาดวินัยของพวกเขา ซึ่งเห็นได้ชัดจากใบแดงของเฟอร์นันเดส
การเสมอกันครั้งนี้เพิ่มแรงกดดันให้กับแมนฯ ยูไนเต็ดก่อนเกมสุดสัปดาห์นี้กับแอสตัน วิลล่า ซึ่งนัดนี้อาจมีความสำคัญในการกำหนดอนาคตของผู้จัดการทีม
ช่วงเวลาสำคัญ
- ประตูเปิดสนามของแรชฟอร์ด (7′): มาร์คัส แรชฟอร์ด เคลื่อนตัวผ่านแนวรับได้อย่างยอดเยี่ยมจนทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ
- Højlund ขึ้นนำเป็นสองเท่า (22′): Rasmus Højlund ทำประตูจากการช่วยเหลือของ Rashford โดยเอาชนะ Costa ที่เสาใกล้ของเขา
- การคัมแบ็กอันรวดเร็วของปอร์โต้ (29′, 36′): เปเป้ และซามู ตีเสมอได้ด้วยสองประตูอย่างรวดเร็วจากการครอสของฌูเอา มาริโอ
- ท่าป้องกันของซามู (56′): ซามูทำให้ปอร์โต้กลับมาได้สำเร็จด้วยการยิงเข้าเสาใกล้
- แม็กไกวร์ตีเสมอช่วงท้ายเกม (90+3′): แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โหม่งทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ดเสมอกันได้
บทสรุป
การที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถรักษาความได้เปรียบช่วงต้นเกมไว้ได้เมื่อเจอกับปอร์โต้ที่มีความแข็งแกร่ง ส่งผลให้เสมอกันอย่างสุดตื่นเต้น 3-3
อนาคตของเท็น ฮากอาจขึ้นอยู่กับเกมต่อไปที่พบกับแอสตัน วิลล่า แมนฯ ยูไนเต็ดจะต้องรวบรวมกำลังใจและแก้ไขจุดบกพร่องในแนวรับ ในขณะเดียวกัน ปอร์โต้จะรู้สึกดีขึ้นจากฟอร์มการเล่นที่พลิกกลับมาได้ แม้ว่าจะผิดหวังที่ไม่สามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์ของเกมนี้ คุณสามารถดูได้ที่:
ปอร์โต vs แมนฯ ยูไนเต็ด | UEF A ยูโรปาลีก 2024/25