รายงานผลการแข่งขันเชลซี พบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ผู้ทำประตู : มาดูเอเก้ 57′; วูด 50′
ใบแดง : วอร์ด-พราวส์ นาทีที่ 78′
เชลซี 1-1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นการยุติสถิติพ่ายแพ้ 4 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกที่ลอนดอน แม้ว่าเชลซีจะครองบอลได้ดีกว่าและมีโอกาสมากกว่า แต่ฟอเรสต์ก็สู้สุดใจเพื่อเก็บแต้มกลับบ้านไป
ครึ่งแรก เชลซีเหนือกว่าแต่สิ้นเปลือง
เชลซีลงสนามด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสหลังจากชนะรวดมา 5 นัดในทุกรายการ อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวรับที่เด็ดเดี่ยวของฟอเรสต์และยิงได้เพียง 11 ประตูจาก 5 เกมแรกของพรีเมียร์ลีก จึงไม่น่าแปลกใจที่ช่วงเปิดสนามจะเงียบเหงา
โนนี มาดูเอเก้ ของเชลซีสร้างภัยคุกคามได้มากที่สุดในครึ่งแรก โดยเกือบได้ยิงด้วยลูกยิงโค้งที่พลาดไปอย่างหวุดหวิดที่มุมซ้ายบน
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นช่วงที่เกมเริ่มเข้มข้นขึ้น มาดูเอเก้พุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษและจ่ายบอลให้โคล พาล์มเมอร์ที่ยิงไปโดนเสาประตู จากนั้นมัทส์ เซลส์ ผู้รักษาประตูของฟอเรสต์ก็พยายามสกัดบอลออกจากเส้นประตู
ไม่นานหลังจากนั้น ไรอัน เยตส์ เกือบทำให้ฟอเรสต์ขึ้นนำ แต่เวสลีย์ โฟฟานา ก็ได้บล็อกลูกสำคัญไว้ได้ ทำให้เกมยังคงเสมอกันในครึ่งแรก
ครึ่งหลัง : ประตูรวดเร็ว และดราม่าช่วงท้ายเกม
ความตึงเครียดถูกทำลายลงไม่นานหลังจากเริ่มเกมใหม่ เมื่อฟอเรสต์ขึ้นนำ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ เปิดลูกเตะมุมอย่างแม่นยำให้กับนิโคล่า มิเลนโควิช ซึ่งโหม่งบอลให้คริส วูดสไลด์เข้าไปทำประตูที่เสาไกล
อย่างไรก็ตาม เชลซีตอบโต้กลับมาเพียงเจ็ดนาทีต่อมา เมื่อมาดูเอเก้ยังคงเป็นตัวรุกหลักของพวกเขา โดยตัดเข้ามาจากทางขวาและยิงลูกเรียดเข้ามุมล่างเพื่อตีเสมอ
เมื่อโมเมนตัมเปลี่ยนไปในทิศทางที่เอื้อต่อพวกเขา เชลซีเร่งทำประตูชัยเพื่อเสริมสถานะของพวกเขาให้กลายเป็นทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดทีมหนึ่งในลีก
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของพวกเขามีความซับซ้อนเมื่อวาร์ด-พราวส์ได้รับใบเหลืองใบที่สองเมื่อเหลือเวลาอีกประมาณ 15 นาที โดยเขาถือบอลเพื่อหยุดการหลุดเดี่ยวของนิโกลัส แจ็กสัน และทำให้ฟอเรสต์เหลือผู้เล่น 10 คน
เชลซีเกือบได้เปรียบจากจำนวนผู้เล่นที่มากกว่าเมื่อมัตส์ เซลส์เซฟลูกยิงอันยอดเยี่ยมสองครั้งเพื่อป้องกันปาลเมอร์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 13 นาที โอกาสต่างๆ ก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยโจเอา เฟลิกซ์และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนกูพลาดโอกาสทองของเดอะบลูส์ไป
อีกด้านหนึ่ง เนโค วิลเลียมส์ พลาดโอกาสทองของฟอเรสต์ เชลซี ต้อง พึ่งโรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูของพวกเขาที่เซฟลูกยิงสุดสวยในช่วงท้ายเกมเพื่อป้องกันไม่ให้โจต้า ซิลวาทำประตูและเก็บแต้มได้
ความอดทนของฟอเรสต์และความผิดหวังในการโจมตีของเชลซี
แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน แต่ฟอเรสต์ก็ยังสามารถรักษามาตรฐานและเสมอได้ ทำให้ทีมขยับขึ้นมาอยู่ครึ่งบนของตารางในอันดับที่ 9 สำหรับเชลซีที่ยังคงอยู่ใน 4 อันดับแรก การเสมอครั้งนี้ถือเป็นการพลาดโอกาสในการไล่จี้ผู้ทำประตูสูงสุดของลีกและไต่อันดับขึ้นไปอีก
บทสรุป
ในเกมที่เต็มไปด้วยการพลิกผัน ทั้งน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และเชลซี ต่างก็มีโอกาสที่จะชนะ แต่ผลเสมอ 1-1 สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลของการเล่น
ความอดทนและความพยายามในการป้องกันของฟอเรสต์ช่วยให้ได้แต้มอันมีค่า ขณะที่เชลซีจะพยายามเปลี่ยนความโดดเด่นของตนให้เป็นชัยชนะในเกมต่อไปในขณะที่พวกเขายังคงลุ้นพื้นที่สี่อันดับแรกต่อไป
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์ของเกมนี้ สามารถดูได้ที่:
เชลซี พบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2024/25 | พรีเมียร์ลีก