ผลการแข่งขันที่คาด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ดอร์ตมุนด์

สูง 2.5 ประตู

ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ -1.00

 

สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่เคยแพ้ใครเลยในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นบอลลีกหรือบอลถ้วย
  • ส่วนทีมเยือนดอร์ตมุนด์แพ้ไปแล้วสองครั้งในฤดูกาลนี้
  • เกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นนั้น ส่วนใหญ่มีสกอร์สูง โดยจากสถิติ ถ้านับสกอร์สูงที่ 2.5 ประตู เกมที่ทัพเรือใบสีฟ้าลงเล่นนั้นออกสกอร์สูงถึงห้าจากหกเกมล่าสุด
  • ทัพเสือเหลืองมีเกมรับที่โดดเด่น เก็บคลีนชีตได้ถึงสามจากสี่นัดล่าสุด

 

ฟอร์ม : มนเชสเตอร์ ซิตี้

ทุกข้อสงสัยในเรื่องที่ว่าฮาลันด์จะยิงได้หรือไม่ในพรีเมียร์ลีกนั้นอันตรทานหายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ฮาลันด์โชว์ฟอร์มโหดได้ในทันที ชนิดที่ว่าแทบไม่ต้องปรับตัว เพราะฮาลันด์ ยิงไปถึงสิบประตูแล้วในลีกจากการลงเล่นเพียงหกนัด นำเป็นดาวซัลโวของลีก ส่วนเรื่องการยิงในแชมเปียนส์ลีกก็คงไม่ต้องพูดถึง เพราะเจ้าตัวก็เคยโลดแล่นในแชมเปียนส์ลีกมา หลายฤดูกาลแล้ว ทั้งกับแอร์เบ ซัลส์บูร์ก และ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์

และดาวยิงหนุ่มวัย 22 นั้นก็ยิงได้ถึงสองประตู ในเกมที่ทัพเรือใบสีฟ้าถล่มเซบีย่าไปถึง 4-0 โดยเป็นฮาลันด์ที่เหมาสองประตูช่วยให่ทีมขึ้นนำไปก่อน 2-0 และเป็นฟิล โฟเด้น และ รูเบน ดิอาส ที่ยิงประตูที่สามและสี่ตามลำดับ จากเกมนี้ยังทำให้สถิติการยิงในถ้วยบิ๊กเอียร์ของฮาลันด์นั้นเพิ่มเป็น 25 ประตู จากการลงเล่น 20 นัดอีกด้วย

และเช่นเดียวกับทีมอื่น ๆ จากอังกฤษ ลูกทีมของเป็ป กวาดิโอล่านั้นจะได้โอกาสพักแบบเต็มอิ่ม 1 อาทิตย์เต็ม ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก สำหรับทีมที่เข้ารอบบอลถ้วยลีกเป็นประจำอย่างซิตี้ โดยการที่ทีมได้พักในครั้งนี้เป็นผลมาจากการจากไปของราชินีอลิซาเบธที่สอง ทำให้เกมพรีเมียร์ลีกทุกเกมในสัปดาห์ก่อนนั้นถูกเลื่อนออกไปทั้งหมด รวมถึงเกมของซิตี้ด้วย

แน่นอนว่าจากการที่พวกเขาได้พักมายาว ๆ แบบนี้ ทัพเรือใบสีฟ้าน่าจะหายล้า น่ากลัวขึ้น และ พร้อมจัดชุดใหญ่ใส่ดอร์ตมุนด์อย่างแน่นอน

 

ฟอร์ม : ดอร์ตมุนด์

ทีมเสือเหลืองเก็บชัยชนะในเหนือ เอฟซี โคเปนเฮเกน ในนัดเปิดสนาม ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ของพวกเขาได้ด้วยสกอร์ 3-0 ก็จริง แต่การที่จะต้องลงเล่นเกมยุโรปเกมต่อต่อจากการที่เพิ่งแพ้ให้กับไลป์ซิกมา 0-3 นั้น ก็คงจะเป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมย์นัก ในการที่ต้องแพ้ราบคาบแบบนี้ ก่อนที่จะต้องลงเล่นเกมระดับงานช้างอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้

สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องเกี่ยวกับเกมนี้ คือการที่เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ จะต้องลงเล่นเจอกับทีมเก่าของเขา แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องจัดทัพและลงเล่นแบบเต็มกำลังแน่นอน เพื่อที่จะพิสูจน์ฝีมือตัวเองให้ได้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแนวรุกของดอร์ตมุนด์จะดีพอ และสามารถลงโทษซิตี้ได้ทุกเมื่อ หากทัพเรือใบสีฟ้าเปิดช่องโหว่ให้พวกเขา แต่การขาดผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม และอีกสองดาวเตะในชุด 11 ตัวจริง น่าจะทำให้โอกาสในการชนะของพวกเขาในเกมนี้ลดลงไปมากเลยทีเดียว

 

สถิติเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

  • เกมนี้จะเป็นเกมประวัติศาสตร์ของเป็ป กวาดิโอล่าด้วย เพราะเกมนี้จะเป็นเกมที่ 150 พอดิบพอดี ในฐานะกุนซือของทีมเรือใบสีฟ้า
  • ทั้งสองฝ่ายเคยเจอกันในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกมาแล้ว ในรอบก่อนรองชนะเลิศปีก่อน และเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เอาชนะไปได้ทั้งเหย้าและเยือน ด้วยสกอร์เดิม 2-1 ทั้งสองเกม
  • สายสูงควรจับตามองทีมเสือเหลืองไว้ เพราะใน 12 เกมล่าสุดที่ดอร์ตมุนด์ลงเล่นนั้น จบลงด้วยการที่สกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ประตูมากถึง 11 เกม

 

ผู้เล่นที่น่าจับตามอง

ในวันพุธนี้ ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ดาวยิงร่างยักษ์ชาวนอร์เวย์ของทีมอย่างเออร์ลิ่ง ฮาลันด์แน่นอน เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่ฮาลันด์จะลงสนามพบกับโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ทีมเก่าของเขา

โดยดาวยิงหนุ่มวัย 22 ปีนั้น ซัดไปถึงเก้าประตูในสี่เกมล่าสุดที่เขาลงเล่นให้กับทัพเรือใบสีฟ้า และเป็นคนเบิกสกอร์แรกให้กับทีมถึงสามเกม จากสี่เกมดังกล่าว

 

วิเคราะห์เกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์

เจ้าบ้านเรือใบสีฟ้านั้นออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างร้อนแรงเช่นเดิม และเป็นในหนึ่งในทีมเต็งที่จะคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ในฤดูกาลนี้ ส่วนฮาลันด์นั้นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นกองหน้าที่หาตัวจับได้ยาก ถึงยากมาก และในวันนี้ เขาก็จะได้โอกาสที่เขารอมานาน ในการซัลโวใส่ทีมเก่าของเขาอย่างโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์แล้ว

ด้านทีมเยือนดอร์ตมุนด์ก็ไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาเอาชนะพวกเขาได้ง่าย ๆ หากพวกเขาเล่นได้ดีในวันนั้น ปัญหาคือพวกเขาไม่ได้เล่นดีทุกวัน และเป็นเรื่องความไม่สม่ำเสมอนี่เอง ที่ฉุดพวกเขาไว้จากการคว้าแชมป์ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา

โดยเมื่อดูจากรายชื่อนักเตะแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับการท่ีพวกเขาจะได้เล่นในบ้านด้วย ก็น่าจะเป็นเจ้าบ้าน ที่จะเก็บสามคะแนนเต็มไปได้แบบไม่ยากนัก

อ่าน:  เชลซี VS เบรนท์ฟอร์ด : สิงห์บลูส์ต้องดิ้นรนภายใต้การคุมทีมของแลมพาร์ด
Leave A Reply