ในอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ข้างหน้า กาตาร์จะเป็นประเทศที่ต้อนรับเหล่ายอดทีมจากทั่วทุกทวีปบนโลก ในศึกฟุตบอลโลกครั้งที่ 22

ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะต้อนรับเหล่านักเตะที่ดีที่สุดในโลก ที่ต่างก็อยากจะสร้างชื่อให้กับพวกเขาเองและทำให้มันจารึกอยู่ในหน้าของประวัติศาสตร์ฟุตบอลไปตลอดกาล

ฟุตบอลเป็นเกมแห่งเรื่องราวต่าง ๆ มากมายและฟุตบอลโลกก็ถือเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มาพร้อมกับการเดิมพันที่สูงที่สุดและอยู่ในจุดสูงสุดของวงการกีฬา ไม่เพียงแค่เหล่าทีมชาติเท่านั้นที่พร้อมจะแบกภาระอันหนักอึ้งนี้ แต่เหล่านักเตะก็เช่นกัน

เหล่าดาวรุ่งหน้าใหม่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพื่อมาสร้างชื่อให้โลกได้เห็น แต่อีกฟากหนึ่ง เหล่านักเตะตัวเก๋าที่เคยลงเล่นในฟุตบอลโลกมาแล้วหลายครั้งก็จะลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของอาชีพการค้าแข้งและจำเป็นที่จะต้องคว้าแชมป์ให้ได้ในครั้งนี้ ครั้งสุดท้ายของพวกเขา

จากทั้งหมดที่เราเกริ่นมานั้น พวกเราจะมาดู 10 นักเตะที่อาจจะได้ลงเล่นในฟุตบอลโลก 2022 เป็นครั้งสุดท้าย

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

“สำหรับผมแล้ว มันเยี่ยมเลยครับ ผมหวังว่าฟุตบอลโลกที่กาตาร์จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายสำหรับผม” นี่คือคำพูดของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่พูดถึงฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ สำหรับกัปตันทีมชาติโปรตุเกสแล้ว พวกเราไม่จำเป็นจะต้องแนะนำอะไรอีกแล้ว เขาจะจบอาชีพการค้าแข้งของเขาด้วยการเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน

มีเพียงไม่กี่คนในวงการฟุตบอลที่จะสามารถทำสิ่งที่เขาทำได้และมีอีกเพียงน้อยนิดที่จะสามารถก้าวข้ามผ่านสถิติของเขาได้ ดาวยิงวัย 37 ปีเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูมากที่สุดในนามทีมชาติและพาทีมชาติโปรตุเกสทะลุมาถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ แต่แชมป์ฟุตบอลโลกยังเป็นแชมป์รายการเดียวที่เขายังไม่เคยก้าวไปถึงซักที

เขาจะลงสนามในเกมฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 5 ของเขาในฐานะกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ทีมชาติที่เต็มไปด้วยเหล่านักเตะพรสวรรค์มากมายซึ่งพร้อมที่จะจบทัวร์นาเมนต์นี้ในฐานะแชมป์โลกและเป็นดาวซัลโวสูงสุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ลิโอเนล เมสซี่

ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเราจะได้เป็นสักขีพยานของจุดจบแห่งยุคคู่ปรับตลอดกาลของคริสเตียโน่ โรนัลโด้อย่างลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งเขาจะลงเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกับโรนัลโด้ แน่นอนว่าเมสซี่จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลเคียงข้างโรนัลโด้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ

เช่นเดียวกับโรนัลโด้ เมสซี่เคยคว้าแชมป์ในระดับทวีปมาแล้ว และเขาก็พร้อมที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้เช่นเดียวกัน

เรื่องราวที่ทุกคนรอคอย หากอาร์เจนติน่าเจอกับโปรตุเกสในนัดชิงชนะเลิศ มันคงจะน่าดูไม่น้อย

จากความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2014 เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัยเป็นคนที่รู้ดีที่สุดถึงความเจ็บปวดของการเฉียดเข้าใกล้การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก หากคุณนับรวมถึงเกมที่อาร์เจนติน่าพ่ายให้กับฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกปี 2018 อาร์เจนติน่าจะเป็นทีมที่แพ้ให้กับทีมที่คว้าแชมป์โลกทีมล่าสุดทั้ง 2 สมัยติดต่อกันเลยทีเดียว

ในปี 2022 ลิโอเนล เมสซี่และทีมงานไม่ต้องการที่จะกลับบ้านมือเปล่าอีกต่อไปแล้ว เมสซี่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 และพวกคุณก็ไม่สามารถมองข้ามเขาไปได้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ดาวยิงระดับตำนานของทีมชาติโปแลนด์ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรุ่นของตัวเขาเองและอาจจะเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโปแลนด์เลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังไม่เคยโชว์ฟอร์มเก่งในฟุตบอลโลกได้เลยซักครั้ง

ในช่วงที่อายุ 34 ปี มันเป็นโอกาสที่ดีที่โอกาสการได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ของเลวานดอฟสกี้ที่อาจจะกลายเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว ฟุตบอลโลกครั้งแรกของเขานั้นกลับไม่ได้เป็นไปตามแผนการที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ซึ่งทีมชาติโปแลนด์กระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มโดยที่เขายิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว

โปแลนด์อาจจะไม่ใช่ประเทศที่เป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก แต่เลวานดอฟสกี้จะมองหาโอกาสในการพาทีมชาติโปแลนด์อยู่ในทัวร์นาเมนต์นี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ลูก้า โมดริช

เจ้าของรางวัลบอลทองคำของฟุตบอลโลกปี 2018 ตั้งเป้าว่าจะพาทีมชาติโครเอเชียไปให้ไกลกว่ารองแชมป์โดยการคว้าแชมป์โลกให้กับประเทศบ้านเกิดของเขา

ลูก้า โมดริชลงเล่นในฟุตบอลโลกมาแล้ว 4 ครั้งและหวังว่าครั้งที่ 5 ของเขาจะกลายเป็นตัวเลขนำโชค ในวัย 37 ปี โมดริชทำสถิติเป็นนักเตะที่ลงสนามในนามทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโครเอเชียและพวกเขาก็พร้อมที่จะคว้าแชมป์โลกเป็นการทิ้งทวน

คาริม เบนเซม่า

เบนเซม่าเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์สมัยล่าสุดและถือเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก เขาไม่ได้ถูกเรียกติดทีมชาติในตอนที่ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2018 แต่กลับมาติดทีมชาติชุดศึกยูโร 2020 และรายการยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งถ้าหากเขาติดทีมชาติมาในช่วงก่อนหน้านี้แล้วล่ะก็ ทีมชาติฝรั่งเศสก็มีสิทธิ์ที่จะครองโลกได้ยิ่งกว่านี้เสียอีก

เขากลายมาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เขาเคยเป็นในทีมชาติฝรั่งเศสชุดฟุตบอลโลกปี 2014 ที่เขาทำประตูได้ 3 บวกกับ 2 แอสซิสต์ แน่นอนว่าฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในครั้งนี้ ทุก ๆ ชาติจะต้องระวังคาริมเอาไว้ให้ดีเลยล่ะ

หลุยส์ ซัวเรซ

พระเอกคนสำคัญในหนึ่งจังหวะที่น่าฮือฮามากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก หลุยส์ ซัวเรซจะลงสนามในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของเขากับทีมชาติอุรุกวัย หลังจากที่การทำแฮนด์บอลปัดลูกบอลทิ้งบนเส้นของเขาทำให้ทีมชาติกาน่าพลาดโอกาสในการทะลุผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกของพวกเขาในฟุตบอลโลกปี 2010

มันเหมาะสมแล้วที่ซัวเรซจะได้ลงเล่นในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายในฟุตบอลโลกกับทีมชาติกาน่า ทีมที่เขาสกัดไม่ให้ผ่านเข้ารอบไปเมื่อหลายปีก่อน

ซัวเรซจะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่เป็นที่จดจำมากที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกหลังเขาเลิกเล่นไปอย่างแน่นอน จากการที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมได้หลายครั้งในฟุตบอลโลก เช่นในเกมที่เขาเหมาคนเดียวสองประตูใส่ทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกปี 2014 ก่อนที่จะจัดการกัดหัวไหล่จอร์จิโอ้ คิเอลลินี่และถูกแบนจากการลงเล่นฟุตบอลไปเป็นเวลานานพอสมควรเลยทีเดียว

เขาจะลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับหวังจะปิดฉากฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายนี้ด้วยเสียงเชียร์ที่กึกก้องแทนที่จะเป็นเสียงโห่

เอดิสัน คาวานี่

พวกเราจะพูดคุยคู่หูในแดนหน้าของหลุยส์ ซัวเรซและนักเตะที่ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคอย่างเอดิสัน คาวานี่

ดาวยิงวัย 35 ปีจะมีส่วนร่วมในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในฐานะคู่หูมหาประลัยของหลุยส์ ซัวเรซ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักเตะที่น่าจดจำของทัวร์นาเมนต์เท่ากับซัวเรซ แต่คาวานี่ก็ยังมีช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับตัวเขาเองในทัวร์นาเมนต์นี้อย่างตอนที่เขาทำคนเดียวสองประตูใส่โปรตุเกสในฟุตบอลโลกปี 2018

มานูเอล นอยเออร์

กัปตันทีมชาติเยอรมันได้พูดเอาไว้ว่าเขาจะลงสนามไปจนกว่าร่างกายของเขาจะเล่นไม่ไหว แต่ฟุตบอลโลกครั้งนี้อาจจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านอยเออร์เป็นผู้รักษาประตูระดับตำนานของทีมชาติเยอรมันและถือเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย

เขาเป็นผู้บุกเบิกตำแหน่ง “สวีปเปอร์คีปเปอร์” ซึ่งมีความสำคัญสำหรับทีมชาติเยอรมันในฟุตบอลโลกปี 2014 ที่พวกเขาคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลถุงมือทองคำสำหรับการเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นั้นอีกด้วย

มือกาววัย 35 ปีเป็นผู้รักษาประตูชาวเยอรมันคนแรกที่ลงเล่นให้ทีมชาติครบ 100 นัดและเก็บคลีนชีทได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมชาติเยอรมันอีกด้วย ถ้วยรางวัลฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ที่กาตาร์คงจะเป็นการจบอาชีพการเฝ้าเสาให้กับทีมชาติของเขาอย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะ

ธิอาโก้ ซิลวา

ในวัย 38 ปี ธิอาโก้ ซิลวายังคงเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบันและฟอร์มของเขาในระดับสโมสรในฤดูกาลนี้นั้นก็พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้ว แน่นอนว่า เมื่อถึงวันที่เขาแขวนสตั๊ดเขาจะเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ

เขาจะเดินทางไปที่กาตาร์เพื่อลงเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 และมีความเป็นไปได้ที่ว่านี่อาจจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว โดยเป้าหมายของเขาคือการคว้าแชมป์รายการเดียวที่เขายังไม่เคยได้นี่เพื่อลบล้างคำสบประมาทตลอดเส้นทางอาชีพการค้าแข้งของเขาทิ้งไปให้หมดสิ้น

เนย์มาร์

ในวัย 30 ปี นี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 และครั้งสุดท้ายของเนย์มาร์

“ผมคิดว่านี่คือฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของผมแล้วล่ะ ที่ผมเห็นว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายก็เพราะว่าผมไม่รู้ว่าผมจะมีจิตใจที่เข้มแข็งพอที่จะรับมือกับฟุตบอลได้อีกต่อไปรึเปล่า เพราะงั้นแล้ว ผมจะทำทุก ๆ อย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อประเทศชาติ ทำทุก ๆ อย่างเพื่อคว้าแชมป์โลก ทำตามความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมนับตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กและผมหวังว่าผมจะทำได้สำเร็จ

ดาวยิงสายแว๊นจากเปแอสเชกำลังสนุกกับฤดูกาลที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและทีมชาติบราซิลของเขานั้นก็ถือว่าเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนี้ พวกเขาอาจจะได้เห็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลจากเนย์มาร์ในกาตาร์ปลายปีนี้ก็เป็นได้

อ่าน:  วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้เป็นตัวแทนที่เพอร์เฟ็คสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากพวกเขาพลาดที่จะคว้าตัวเฟรงกี้ เดอ ยอง
Leave A Reply