คำถามนี้จะเป็นคำถามที่ตอบง่ายมาก ๆ หากทั้งสองทีมเจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม เหมือนกับที่พวกเขาเจอกันในปี 2018
แต่หลังจากที่เราได้เห็นความโกลาหลพลิกล็อกกันแบบถล่มทลายในฟุตบอลโลกครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ที่กาตาร์แล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะฟันธงให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะไปแบบง่าย ๆ
ในตอนนี้ เรารู้อะไรบ้าง
ตอนนี้เรารู้แล้วแน่ ๆ ว่าเมสซี่กำลังอยู่ในฟอร์มเทพ ระดับลุ้นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ได้เลย และถ้าดูจากประวัติการแจกรางวัลนี้ของฟีฟ่าแล้ว เมสซี่ก็น่าจะคว้ารางวัลนี้ได้ไม่ยาก หากทีมฟ้าขาวสามารถเอาชนะโครเอเชียได้ในเกมรอบรองชนะเลิศ
เรายังรู้อีกเช่นกันว่า ลูก้า โมดริช เจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ปี 2018 ก็เป็นตัวแบกและทำทุกอย่างเพื่อขับเคลื่อนทีมตราหมากรุกมาตลอดเช่นกัน เช่นเดียวกับเมสซี่ ทั้งฝีเท้าและความเป็นผู้นำของโมดริชนั้นสำคัญต่อโครเอเชียมาก
และอีกเรื่องก็คือ เมสซี่มีส่วนร่วมกับเกินครึ่งของประตูทั้งหมดที่อาร์เจนติน่าทำได้ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เสียอีก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หลายสำนักคาดไว้อยู่แล้ว ส่วนด้านทีมโครแอตก็มีลูก้า โมดริช ที่สร้างช็อตมหัศจรรย์ช่วยโครเอเชียจากการตกรอบมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน
ที่สนามลูเซลสเตเดี้ยม ต่อหน้าแฟนบอลกว่า 80,000 ชีวิต มันจะเป็นศึกระหว่างดาวเตะสองคน ที่มีชื่อย่อ LM และเบอร์เสื้อเดียวกันคือเบอร์ 10 (LM10 – Lionel Messi / Luka Modric) และไม่ว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะและเข้ารอบไปได้ กำไรจะตกอยู่ที่ผู้ชมไม่ว่าจะในสนามหรือทางบ้านแน่นอน เพราะเกมนี้จะเป็นเกมระดับห้าดาวอีกเกม และเป็นบุญตาแฟนบอลอย่างยิ่ง
ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร
อาร์เจนติน่าพลาดท่าแพ้เกมแรกของทัวร์นาเมนต์ในทันที แต่หลังจากนั้นก็ชนะรวดเรื่อยมา เช่นเดียวกับที่สเปนทำได้ในปี 2010 ไม่มีผิด ซึ่งในครั้งนั้นทีมกระทิงดุสามารถคว้าแชมป์ได้ด้วย ในฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ที่ในขณะนั้นเป็นเจ้าภาพหน้าใหม่ เช่นเดียวกับกาตาร์ในครั้งนี้
หลังจากความพ่ายแพ้นัดนั้น อาร์เจนติน่าก็กลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง และลงเล่นในนัดต่อ ๆ มาด้วยสปิริตทีมที่ดีกว่าเดิมมาก ในเกมกับเม็กซิโก, โปแลนด์ และ ออสเตรเลีย พวกเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมชนิดแทบไร้ที่ติ แต่ในเกมกับทีมอัศวินสีส้ม สปิริตทีมทั้งหมดก็เกือบจะสูญเปล่าซะแล้ว เพราะกว่าทีมฟ้าขาวจะเอาชนะไปได้ก็ต้องดวลกับทีมกังหันลมถึงลูกจุดโทษเลยทีเดียว เหมือนในปี 2014 ที่อาร์เจนติน่าดวลจุดโทษชนะเนเธอร์แลนด์เข้าไปชิงชนะเลิศได้ไม่มีผิด
ด้านโครเอเชีย เส้นทางของพวกเขาลำบากลำบนกว่าอาร์เจนติน่ามาก และผ่านอะไรมาเยอะกว่าจะมาถึงจุดนี้ ลำพังแค่ในรอบน็อคเอาต์ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเขาก็เข้ารอบมาได้ด้วยการชนะจุดโทษทั้งสองครั้ง และมาจากการไล่ตามตีเสมอจนได้ดวลจุดโทษทั้งคู่ด้วย
เกมนี้จะเป็นเกมที่ทดสอบสติและสมาธิของทั้งสองทีมอย่างแน่นอน ว่าใครจะผิดพลาดก่อนกัน และก็น่าจะมีการชิงเหลี่ยมและปะทะกันเยอะกว่าปกติบ้าง เพราะฉะนั้นเตรียมเห็นเมสซี่และโมดริชโชว์ลีลาล็อคหลบกองหลังกันได้เลย
เมสซี่จะเอาชนะและเข้ารอบไปได้มั้ย
คำตอบของเราในตอนนี้ คือ ใช่ และนี่คือเหตุผลว่าทำไม
เมสซี่มีทีมที่พร้อมจะเล่นเพื่อเขา – ในปี 2014 และ 2018 อาร์เจนติน่าเป็นทีมที่ดูจะพึ่งพาความสามารถของเมสซี่เป็นหลัก แต่ในปีนี้มันแตกต่างออกไป อาร์เจนติน่าในปีนี้ไม่ใช่ทีมที่สร้างมาเพื่อพึ่งพาความสามารถของเมสซี่ แต่เป็นทีมที่สร้างมาเพื่อสนับสนุนเมสซี่ต่างหาก
นักเตะทุกคนในทีมชุดนี้ถูกเชื่อมเข้าด้วยกันด้วยนักเตะที่ชื่อว่าเมสซี่ และทุกคนก็พร้อมใจที่จะทำทุกอย่างที่จะสามารถช่วยผลักดันนักเตะตัวแบกของทีมอย่างเมสซี่ได้
อาร์เจนติน่ามีตัวจบสกอร์ที่ดีกว่า – ถึงแม้ว่าโครเอเชียจะมีเกมรับที่เหนียวแน่น แต่คุณภาพของตัวจบสกอร์อาร์เจนติน่านั้นเหนือกว่ามากเมื่อเทียบกัน เกมยาวสุดตึงเครียดอาจจะลดความอันตรายของแนวรุกอาร์เจนติน่าไปได้บ้าง แต่ดูแล้ว โครเอเชียจะมีสิทธิพลาดในเกมนี้น้อยมาก เพราะทุกความผิดพลาดของพวกเขาอาจจะจบลงด้วยการเสียประตูได้เลย
กลับกัน หากโครเอเชียหวังจะพังประตูอาร์เจนติน่า พวกเขาอาจจะต้องใช้โอกาสหลายครั้งกว่า ซึ่งทีมฟ้าขาวก็ไม่ใช่ทีมที่ผิดพลาดให้ได้ยิงบ่อย ๆ เสียด้วย