Author: admin

ผลการแข่งขันที่คาด สวิตเซอร์แลนด์ 2 – 1 แคเมอรูน สนาม: อัล จานูบ สเตเดี้ยม ทีมแชมป์แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ 5 สมัยอย่างแคเมอรูนกำลังเลียแผลใจจากฟอร์มที่เล่นได้อย่างน่าผิดหวังในทัวร์นาเมนต์ระดับทวีปที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพจัดเองด้วย โดยเป็นอียิปต์ที่เขี่ยพวกเขาตกรอบไปในปีนั้น ทำให้แคเมอรูนพลาดโอกาสในการคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ไปอย่างน่าเจ็บแสบ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังจบอันดับที่ 3 ของทัวร์นาเมนต์ไปได้ จากผลงานของดาวยิงระดับตำนานของแคเมอรูนอย่างซามูเอล เอโต้ที่ผันตัวไปเป็นผู้นำในคณะกรรมการบริหารฟุตบอลของแคเมอรูน พวกเขาได้รับการเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่แล้ว และพร้อมแล้วที่จะออกไปประกาศศักดาในฟุตบอลโลกที่กาตาร์เพื่อศักดิ์ศรีของทวีปแอฟริกา ฟอร์ม: สวิตเซอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ดูจะเป็นทีมที่ดีกว่าหากเทียบกันระหว่างฟอร์มของทั้งสองทีม ต้องขอบคุณทีมที่ทั้งสองได้เจอตลอด 6 เกมหลังสุดก่อนที่จะลงฟาดแข้งกันที่กาตาร์ 2022 สวิตเซอร์แลนด์เอาชนะได้ถึง 3 เกมในการพบกับทีมที่ได้สิทธิ์ลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบนี้อย่างโปรตุเกส, สเปนและสาธารณรัฐเช็ก ทีมที่พลาดตั๋วฟุตบอลโลกไปอย่างน่าเสียดาย โดยฟอร์มของผู้รักษาประตูของพวกเขาอย่างแยนน์ ซอมเมอร์ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเขาคือฟันเฟืองตัวสำคัญในการพาพวกเขามาอยู่ในจุด ๆ นี้ ฟอร์ม: แคเมอรูน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะครองทวีปแอฟริกามาตลอดหลายปี แต่แคเมอรูนก็ต้องพบกับปัญหาในการเจอกับคู่แข่งระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดของพวกเขาที่พ่ายให้กับอุซเบกิสถานไป 2-0 ซึ่งเป็นทีมที่ไม่ได้อยู่ใน 50 อันดับแรกของอัโลกด้วยซ้ำ มันแสดงให้เห็นว่าฟอร์มของพวกเขานั้นแตกต่างออกไปเมื่อต้องเจอทีมในระดับนานาชาติ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องความฟิตของพวกเขานั้นยังยอดเยี่ยมแบบไม่มีข้อกังขาอย่างแน่นอนและนี่ถือเป็นอาวุธหลักของพวกเขาในฟุตบอลโลกครั้งนี้เลยล่ะ ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร สวิตเซอร์แลนด์มีปัญหาในการจบสกอร์และนี่อาจจะเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาในการที่จะต้องเจอกับแคเมอรูนที่วิ่งแบบชนิดไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย แต่อย่างไรก็ตาม ชัยชนะน่าจะเป็นของทีมจากทวีปยุโรปและถึงแม้ว่าพวกเขาจะลงเล่นได้ด้วยฟอร์มที่ไม่ดีมากนักในเกมนั้น หรืออย่างแย่ที่สุด พวกเขาก็น่าจะยังพอเอาตัวรอดเก็บ 1 คะแนนได้สำเร็จอยู่ดี

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด สเปน 2 – 1 คอสตาริก้า สนาม: อัล ธูมาน่า สเตเดี้ยม แชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 อย่างสเปนนั้นฟอร์มค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับหลังจากที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูโร 2008 แล้วแชมป์โลกปี 2012 ด้วยเหล่านักเตะชุดใหม่ที่ค่อย ๆ เรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับมา หลุยส์ เอ็นริเก้หวังที่จะสร้างตำนานในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนคู่แข่งอย่างคอสตาริก้านั้นก็ไม่ใช่ทีมหน้าใหม่ในทัวร์นาเมนต์นี้แต่อย่างใด แถมพวกเขายังโชว์ฟอร์มหรูได้บ้างในฟุตบอลโลกในอดีตอีกด้วย มันจะเป็นเกมที่แสดงให้เห็นว่าทีมไหนจะมีอีโก้ในการที่จะครองโลกมากกว่ากัน ฟอร์ม: สเปน สเปนจะลงสนามในเกมนี้ด้วยสถิติชนะ 3 เสมอ 2 และแพ้เพียงเกมเดียวตลอด 6 นัดหลังสุด โดยทั้ง 6 เกมนั้นเป็นเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์กระชับมิตร แต่มันก็เป็นเกมที่มีการเดิมพันสูงกว่าเกมที่ลงเล่นนอกยุโรปอยู่ดี ด้วยชัยชนะเหนือทีมที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกอย่างโปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์ เช่นเดียวกับสาธารณรัฐเช็กนั้นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถเก็บผลการแข่งขันตามที่ต้องการได้ ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับทีมที่มีประสบการณ์ก็ตาม ฟอร์ม: คอสตาริก้า คอสตาริก้าโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นในช่วงก่อนที่จะถึงฟุตบอลโลก ด้วยสถิติชนะไปถึง 5 เกมและเสมออีก 1 เกมตลอด 6 นัดหลังสุดนั้นถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจก่อนที่พวกเขาจะต้องลงสนามเจอกับทีมที่มักจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากคุณจะเลือกหนุนหลังคอสตาริก้า หากคุณเทียบจากระดับการเตรียมความพร้อมของพวกเขา – ชัยชนะของพวกเขานั้นมาจากทีมอย่างอุซเบกิสถานและเอล ซัลวาดอร์ แต่การประเมินแบบนี้ก็อาจจะเป็นการดูถูกความสามารถของพวกเขาได้เช่นกัน ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ สเปนจะลงเล่นในเกมนี้ในฐานะทีมเต็งที่จะเก็บ 3 คะแนน เมื่ออิงจากสถิติแล้ว สามารถบอกได้เลยว่าสเปนนั้นถือว่าเหนือกว่า ด้วยการที่พวกเขาสามารถเอาชนะได้ 2 จาก 3 ครั้งที่เจอกันด้วยสกอร์รวม 7-1 แต่อย่างไรก็ตาม คอสตาริก้าจะสู้จนหลังชนฝาและนี่จะเป็นเกมที่กดดันสำหรับทีมกระทิงดุอย่างแน่นอน

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด กาตาร์ 1 – 1 เอกวาดอร์ สนาม: อัล บายท์ สเตเดี้ยม เจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 และเจ้าภาพครั้งแรกอย่างกาตาร์จะลงแข่งขันในเกมนัดเปิดสนามพบกับเอกวาดอร์ ทีมที่ทะลุมาถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 4 แม้ว่าทั้งสองทีมจะลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยความหวังจะไปถึงแชมป์อย่างแน่นอน แต่ว่าแฟน ๆ ของพวกเขาทั้งสองทีมก็คงไม่ได้คาดหวังอะไรกับพวกเขามากนักและก็พร้อมที่จะสนุกไปกับการลงสนามของทั้งสองทีม มันอาจะเป็นหนึ่งในเกมเปิดสนามที่ไม่ได้มีทีมชาติระดับบิ๊กเนมลงสนาม แต่ทั้งสองทีมก็จะต้องพิสูจน์ให้ทั้งโลกได้เห็นพวกเขาก็สามารถเล่นฟุตบอลระดับที่เอ็นเตอร์เทนคนดูได้ไม่แพ้ทีมใหญ่ ๆ เหมือนกัน ฟอร์มของทั้งสองทีม: กาตาร์ กาตาร์เพิ่งแพ้ไปเพียงแค่เกมเดียวตลอด 5 เกมหลังสุด แต่ในช่วงเวลานั้น พวกเขาก็เอาชนะได้เพียงเกมเดียวเหมือนกัน ส่วนสามเกมที่เหลือจบลงด้วยผลเสมอ หากพิจารณาจาก 6 เกมหลังสุดของพวกเขา พวกเขาเอาชนะได้ 2 เกม ชัยชนะทั้ง 2 เกมนั้นเป็นเกมที่พวกเขาเอาชนะทีมอย่างบัลแกเรียและกัวเตมาลา ซึ่งเป็นทีมที่พวกเขามีอันดับโลกเหนือกว่าทั้งคู่ สไตล์การเล่นของพวกเขานั้นเน้นเกมรุกเป็นหลัก และเกมรุกที่น่ากลัวของพวกเขานั้นก็อาจสร้างปัญหาให้กับหลาย ๆ ทีมที่ต้องเจอกับพวกเขาก็เป็นได้ ฟอร์ม: เอกวาดอร์ ในขณะที่ยอดทีมจากแดนอเมริกาใต้ก็ยังแพ้ใครไม่เป็นเลยตลอด 6 เกมหลังสุด ซึ่งเป็นอะไรที่น่าจะข่มขวัญคู่แข่งของพวกเขาในเกมเปิดสนามได้บ้างอย่างแน่นอน แต่ผิดกับกาตาร์ที่เอาชนะคู่แข่งที่อันดับต่ำกว่า เอกวาดอร์นั้นสามารถทำสถิติไร้พ่ายกับทีมที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา และมีอันดับโลกดีกว่าพวกเขาอย่างไนจีเรีย, อาร์เจนติน่า, เม็กซิโกและญี่ปุ่นได้ นั่นหมายความว่าทั้งคุณภาพของทีมและการเตรียมความพร้อมนั้นดีกว่าของทีมชาติกาตาร์มาก สไตล์การเล่นแบบเน้นรับและสวนกลับนั้นถือเป็นอาวุธหลักที่กาตาร์และทีมชาติอื่น ๆ ในกลุ่มเอควรที่จะต้องปวดหัวในการหาวิธีรับมืออย่างแน่นอน ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่ครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่ทั้งสองทีมเคยดวลแข้งกัน ซึ่งสถิติที่เจอกันมาสามนัดก่อนหน้านี้นั้น แบ่งเป็นต่างฝ่ายต่างชนะไปคนละ 1 เกมและเสมอกันไปอีก 1 เกม เมื่อดูจากประวัติการเจอกันของคู่นี้แล้ว ผลเสมอถือเป็นอะไรที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด เพราะทั้งสองทีมคงจะเล่นเน้นรัดกุมเพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดประเดิมนัดแรกด้วยความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด โมร็อคโค 1 – 2 โครเอเชีย สนาม: อัล บายท์ สเตเดี้ยม ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดลำดับที่ 2 ในทวีปแอฟริกาอย่างโมร็อกโกจะลงเล่นในเกมนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2022 เจอกับหนึ่งในทีมที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักที่สุดในยุโรปและมีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อย่างโครเอเชีย มันถือเป็นเกมที่น่าตื่นเต้นเหมือนกับสถิติที่ทั้งสองทีมเคยเจอกัน ซึ่งพวกเขาต่างต้องการที่จะโชว์ฟอร์มในรายการนี้ โมร็อกโกยังถือเป็นหนึ่งในทีมที่พัฒนาขึ้นมากที่สุดทีมหนึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและโครเอเชียก็จะยังคงเป็นบททดสอบสุดหินของพวกเขาอย่างแน่นอน ฟอร์ม: โมร็อกโก ทีมชาติโมร็อกโกมีสถิติเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายตลอด 6 เกมหลังสุดของพวกเขา (ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2) โดยหนึ่งในทีมที่พวกเขาเอาชนะได้คือชิลีและอีกเกมก็ยันเสมอปารากวัยได้ ในทั้งสองเกมนั้น ถือเป็นเกมที่น่าผิดหวัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้จัดการทีมอย่างวาลิด เรกรากีที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาคุมทีมในช่วงเดือนกันยายนจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการปรับทีมของเขาก่อนที่จะถึงเกมนัดเปิดสนามในกลุ่มเอฟ พวกเขามีนักเตะที่ยอดเยี่ยมและมีความเป็นไปได้ที่จะกลายมาเป็นทีมม้ามืดในกลุ่มนี้ ฟอร์ม: โครเอเชีย ชัยชนะ 4 เกมติดต่อกันนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะเพิ่มความมั่นใจให้กับทุก ๆ ทีมและนี่คือความมั่นใจของทีมชาติโครเอเชียก่อนที่จะลงสนามฟาดแข้งกับโมร็อกโก ชัยชนะเหนือออสเตรีย, ฝรั่งเศส, เดนมาร์กพร้อมกับยิงไปถึง 7 ประตูใน 4 เกมนั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังคืนฟอร์มที่พาพวกเขาไปถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังมีปัญหาในเรื่องของเกมรับอยู่ดี ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่สนุกเนื่องจากโมร็อกโกจะเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับโครเอเชียอย่างแน่นอน และทั้งสองก็ต่างมีประวัติกับฟุตบอลโลกมาอย่างยาวนาน โดยทั้งสองทีมต่างเคยเจอกันมาแล้วหนี่งครั้งในปี 1996  เกมนั้นดำเนินไปถึงการตัดสินจากการดวลลูกจุดโทษ แต่ถึงกระนั้น ครั้งนี้ดูจะเป็นโครเอเชียที่น่าจะเก็บชัยชนะไปได้ หรือไม่ก็อาจจะจบลงด้วยผลเสมอ

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด อังกฤษ 3 – 0 อิหร่าน สนาม: คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม อังกฤษและอิหร่านจะลงสนามเจอกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลของทั้งสองประเทศ เกมนี้ได้รับความคาดหมายว่าน่าจะเป็นเกมนัดเปิดสนามของกลุ่มบีสุดระทึก ของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ทีมสิงโตคำรามถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาคว้าอันดับที่ 3 ได้ในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซียมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม อิหร่านถือเป็นหนึ่งในทีมที่พัฒนาขึ้นมากที่สุดทีมหนึ่งและพวกเขาได้หวนกลับมาร่วมงานกับคาร์ลอส เคยรอซอีกครั้ง ผู้จัดการทีมคนที่เริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างในการเดินทางครั้งนี้ ฟอร์ม: อังกฤษ ทีมสิงโตคำรามพร้อมที่จะสลัดฟอร์มห่วยของปีที่แล้วทิ้งไป หลังจากที่พวกเขาต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกบีของรายการยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก โดย 6 นัดหลังสุดของพวกเขาจบลงด้วยการแพ้ 3 นัดและเสมอไปอีก 3 นัด ซึ่งสำหรับหนึ่งในทีมเต็งแชมป์แล้ว ฟอร์มแบบนี้ดูไม่จืดซักเท่าไหร่เลย แต่อย่างไรก็ตาม ดีกรีของนักเตะแต่ละคนของพวกเขาก็สามารถทดแทนกันได้เสมอ ฟอร์ม: อิหร่าน ทีมที่ดีที่สุดจากเอเชียอย่างอิหร่านเตรียมพร้อมที่จะพิสูจน์ว่าทำไมพวกเขาถึงควรจะเป็นชาติแนวหน้าในวงการฟุตบอลระดับนานาชาติ แต่อย่างไรก็ตาม คุณภาพของทีมที่พวกเขาเจอมาก่อนหน้านี้นั้นยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าทีมที่ทีมชาติอังกฤษเจออยู่ดี แต่การที่พวกเขาไม่แพ้ใครเลยในสองเกมหลังสุดที่พบกับทีมที่ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อย่างอุรุกวัยและเซเนกัลนั้นบ่งบอกถึงสภาพจิตใจของพวกเขาก่อนที่จะลงเล่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ได้เป็นอย่างดี ทิศทางของเกมนี้จะเป็นไปอย่างไร เมื่อไม่มีสถิติที่ทั้งสองทีมนี้เคยเจอกันมาก่อน มันน่าจะง่ายกว่าที่จะทายผลจากความแข็งแกร่งของทั้งสองทึม ซึ่งอังกฤษดูจะเหนือกว่าอิหร่านหากดูจากรายชื่อนักเตะเป็นหลัก แต่เหล่านักเตะของอิหร่านก็กำลังมั่นใจจากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา แต่ดูทรงแล้วอังกฤษน่าจะยังเบียดเก็บ 3 คะแนนไปได้

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด: เดนมาร์ก 2 – 0 ตูนิเซีย สนาม: เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม ทั้งสองทีมจะเจอกันในทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์เป็นครั้งที่ 6 แต่เดนมาร์กจะลงเล่นด้วยความมั่นใจที่มากกว่าทางฝั่งของตูนิเซีย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าสถิติของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ เพราะจากที่ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ 20 เกม เป็นเดนมาร์กที่เอาชนะไปได้ 9 เกม โดยแพ้ไป 6 และเสมอกันไปอีก 5 เกม ทางฝั่งของตูนิเซียลงเล่นมาแล้ว 15 เกม เอาชนะได้เพียง 2 เกม เสมอ 4 และแพ้ไปถึง 9 เกม ซึ่งพวกเขายังไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้เลย ซึ่งนั่นจะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงสถิติให้ได้ในครั้งนี้ ฟอร์ม: เดนมาร์ก เดนมาร์กโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งถือเป็นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องสำหรับทีมในยุโรปสำหรับการเตรียมตัวในฟุตบอลโลก ชัยชนะเหนือฝรั่งเศสและออสเตรียแบบไปกลับนั้นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถชนกับทีมยักษ์ใหญ่ได้แบบไม่มีปัญหา มีเพียงโครเอเชียทีมเดียวเท่านั้นที่ดูจะแข็งแกร่งสำหรับพวกเขาในรอบแบ่งกลุ่ม ฟอร์ม: ตูนิเซีย ตูนิเซียเอาชนะได้ถึง 3 จาก 6 เกมหลังสุดก่อนลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเขาเขี่ยไนจีเรียตกรอบฟุตบอลแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ไปได้อย่างสวยสดงดงามในช่วงเดือนมกราคมและแย่งตั๋วฟุตบอลโลกจากมาลีมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเจอกับทีมใหญ่อย่างบราซิล พวกเขาก็ต้องพ่ายไปแบบยับเยิน ซึ่งถึงมันจะเป็นอะไรที่เข้าใจได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นตัวบ่งชี้ได้ถึงการขาดความสามารถในการเจอกับทีมที่แข็งแกร่งกว่าของพวกเขา ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ทั้งสองทีมจะพบกันเป็นเพียงแค่เกมที่ 2 ในประวัติศาสตร์เท่านั้น ซึ่งครั้งก่อนหน้าเป็นเดนมาร์กที่เอาชนะตูนิเซียไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมนัดกระชับมิตรปี 2002 เมื่อดูตามสถิติแล้วเกมนี้น่าจะเป็นเดนมาร์กที่น่าจะเก็บชัยชนะไปได้ และเมื่อดูจากฟอร์มล่าสุด มันถือว่าค่อนข้างเสี่ยงเลยที่จะอยู่ฝั่งเดียวกับตูนิเซียในเกมนี้

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด สนาม: ลูซอยล์ ไอคอนิค สเตเดี้ยม อาร์เจนติน่า 3 – 0 ซาอุดิอาระเบีย ลิโอเนล เมสซี่จะลงเล่นเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาพบกับซาอุดิอาระเบีย โดยเกมระหว่างทั้งสองทีมนี้ถือเป็นเกมแรกที่ตั๋วขายหมดก่อนใครเพื่อนเลย อาร์เจนติน่ายังเป็นทีมเดียวที่ตั๋วขายออกหมดในการขายตั๋วรอบแรกของคณะกรรมการจัดงานท้องถิ่นของกาตาร์ เรียกได้ว่านี่ถือเป็นแมตช์ที่ทั้งโลกรอคอยเลยก็ว่าได้ ฟอร์ม: อาร์เจนติน่า อาร์เจนติน่ายังไม่แพ้ใครเลยตลอด 35 เกมล่าสุด สถิตินี้เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่ปี 2019 หลังจากที่พวกเขาแพ้ในเกมนัดชิงชนะเลิศโคปา อเมริกา 2019 ให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่างบราซิล แต่อย่างไรก็ตาม การเตรียมความพร้อมของพวกเขานั้นยังคงเป็นคำถามอยู่เนื่องจากเกมส่วนใหญ่ที่พวกเขาลงเล่นนั้นถือเป็นเกมกระชับมิตร แต่ด้วยความมั่นใจและเมสซี่ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักนั้นทำให้ฟอร์มภาพรวมของพวกเขานั้นกลายเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ เลยล่ะ ฟอร์ม: ซาอุดิอาระเบีย ซาอุดิอาระเบียจะลงดวลแข้งกับอาร์เจนติน่าด้วยฟอร์มที่ถือว่าพอถูไถ ตลอด 6 เกมหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2 แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดการอุ่นเครื่องของพวกเขานั้น พวกเขาล้วนแต่ต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาทั้งนั้น ซึ่งทำให้เรามองว่าพวกเขามีการเตรียมทีมที่ดี และ ๆ เผลอ ๆ จะอยู่ในระดับที่ดีกว่าอาร์เจนติน่าด้วยซ้ำ แต่อาร์เจนติน่าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาเป็นอีกบททดสอบที่แข็งแกร่งและเรื่องฟอร์มของพวกเขาในเกมนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องรองเลยไปเลยล่ะ ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ชัยชนะแบบท่วมท้นของอาร์เจนติน่าเท่านั้นที่ดูจะเป็นผลการแข่งขันที่สมเหตุสมผลที่สุดในเกมนี้ และเช่นเดียวกัน เราน่าจะได้เห็นประตูหรือแอสซิสต์จากเมสซี่อย่างแน่นอน ไม่มีทางไหนที่ทีมแชมป์โลก 2 สมัยจะออกสตาร์ททัวร์นาเมนต์นี้ได้ดีไปกว่าการเจอกับทีมรองบ่อนอย่างซาอุและเก็บชัยชนะได้แบบง่าย ๆ อีกแล้ว ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียก็น่าจะมองว่าเกมนี้เป็นเกมที่พวกเขาจะต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเรียนรู้จากมันให้ได้มากที่สุดก่อนเกมที่พวกเขาจะเจอกับทีมชาติอื่น ๆ ในกลุ่มซีนั่นเอง

Read More

ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์กำลังใกล้เข้ามาแล้ว และเราก็จะได้ดูสุดยอดรายการฟุตบอลระดับนานาชาติกันแบบตลอดทั้งเดือน แต่ถึงกระนั้น ฟุตบอลโลกในฤดูหนาวนั้นก็จะมีเกมฟุตบอลแฟนตาซีให้กับแฟน ๆ ได้มีส่วนร่วมกันอีกด้วย เกมแฟนตาซีของฟุตบอลโลก 2022 นั้นน่าจะถูกปล่อยออกมาเร็ว ๆ นี้ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก เพื่อดึงความสนใจจากเหล่าแฟนบอลทั่วโลกเป็นการโหมโรงก่อนแข่งจริง จากการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งล่าสุด เกมแฟนตาซีฟุตบอลโลกปี 2022 คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงระหว่าง 1-2 สัปดาห์ก่อนฟุตบอลโลกในกาตาร์ซึ่งจะเริ่มฟาดแข้งกันในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2022 เกมฟุตบอลโลกแฟนตาซีโดยแม็คโดนัลด์เป็นเกมที่เป็นทางการของฟุตบอลโลกที่ผ่านมาและควรเปิดตัวอีกครั้งก่อนเกมการแข่งขันนัดแรกของรายการโดยเป็นเกมที่เจ้าภาพอย่างกาตาร์จะพบกับเอกวาดอร์ ซึ่งจะเริ่มคิกออฟในเวลา 16:00 ตามเวลาท้องถิ่น ในแง่ของรูปแบบการเล่น มันค่อนที่จะข้างคล้ายคลึงกับเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกแฟนตาซี ด้วยการที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวนักเตะและเปลี่ยนตำแหน่งของกัปตันทีมได้ในระหว่างวันแข่งขัน โดยเกมนี้เล่นฟรีและมีรางวัลที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้เล่นที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของเกมด้วย เพื่อที่จะเล่นเกมนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือได้ ใครจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในทีมของคุณ? สิ่งสำคัญคือไม่ใช่ว่าต้องเลือกแต่นักเตะดาวเด่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูนักเตะจากทีมที่มีโอกาสที่จะเก็บชัยชนะและมีโอกาสในการผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มของพวกเขา โดยเราจะใช้ข้อมูลจากเหล่าทีเด็ดและราคาต่อรองสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์เป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์ด้วย ผู้รักษาประตู อลิซอน มือกาวของลิเวอร์พูลถูกคาดการณ์ว่าจะได้เป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมชาติบราซิล ถึงแม้ว่าจะต้องแย่งชิงมือ 1 กับเอแดร์ซอนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างดุเดือดก็ตาม มือกาววัย 30 ปีนั้นถือเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกจากความสามารถในการดวลเดี่ยวกับแนวรุกของคู่แข่ง อลิซอนถือเป็นโกลสมัยใหม่ที่เก่งรอบด้านและเขาก็ได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์โคปา อเมริกา 2019 ที่บราซิลคว้าแชมป์ได้สำเร็จ นอกเหนือจากความสามารถในการวางบอลยาวที่แม่นยำ ไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนในลีกใหญ่ 5 ลีกในยุโรปที่มีสถิติการเซฟลูกจุดโทษได้ดีไปกว่าอลิซอนแล้วจากผู้รักษาประตูทีมีโอกาสดวลลูกจุดโทษ 15 ลูกขึ้นไปนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18 แน่นอนว่าเขาจะได้คะแนนแฟนตาซีมากมายในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่บราซิลจะพบกับเซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์และแคเมอรูน แถมบราซิลก็ถือเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนี้อีกด้วย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูตัวหลักของเดนมาร์กจะกลับมามีส่วนร่วมในเกมทีมชาติอีกครั้ง ซึ่งเขาก็หวังที่จะพาทีมชาติเดนมาร์กไปให้เกินรอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างที่เคยทำได้ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ชไมเคิ่ลย้ายออกจากเลสเตอร์ ซิตี้หลังจากที่อยู่กับจิ้งจอกสยามมา 11 ปีเพื่อมองหาความท้าทายใหม่ ๆ และการผจญภัยของเขาที่นีซก็เป็นอะไรอาจจะจุดประกายให้เกิดฟุตบอลโลกที่น่าจดจำได้อีกครั้งสำหรับมือกาวชาวเดนมาร์ก มือกาววัย 35 ปีเสียประตูไปเพียง 3 ประตูตลอด 10 เกมในช่วงเกมรอบคัดเลือกและเขาก็มีสิทธิ์ที่จะโชว์ฟอร์มในเกมการแข่งขันระดับนานาชาติได้อีกครั้งสำหรับทีมชาติเดนมาร์กที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองหลัง ธีโอ เออร์นันเดซ หนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลกถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่คุณจะต้องมีในทีมแฟนตาซีฟุตบอลโลก 2022 ของคุณอย่างแน่นอน เนื่องจากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขาทั้งในเกมรับและเกมรุก แบ็คซ้ายวัย 25 ปีรายนี้เหมาะกับเกมแฟนตาซีที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูมากที่สุดสำหรับกองหลังคนไหน ๆ…

Read More

ฤดูกาลที่หมองหม่นของลิเวอร์พูลยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งพวกเขาเพิ่งแพ้ 2 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกพร้อมกับจบสถิติไร้พ่าย 29 เกมในแอนฟิลด์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีมหงส์แดงไม่แพ้ใครในเกมที่มีแฟนบอลของตัวเองเข้าชมมาตลอด 5 ปีครึ่ง แต่ในตอนนี้พวกเขาพ่ายให้กับทีมท้ายตารางถึง 2 เกมติดต่อกันเข้าให้แล้ว ตามฟอร์มล่าสุดแล้ว ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเปิดโอกาสให้คู่แข่งพังเกมของพวกเขาเองโดยต้นเหตุเกิดจากโจ โกเมซและอลิซอนสร้างความผิดพลาดทำให้โรดริโก้หลุดเข้าไปยิงประตูโล่ง ๆ ต่อหน้าแฟนบอลของทีมหงส์แดง นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่พวกเขาต้องเป็นฝ่ายตามหลังจากทั้งหมด 12 เกมพรีเมียร์ลีกและมีเพียงเซาแธมป์ตัน (9 เกม) เท่านั้นที่เป็นทีมที่โดนยิงประตูขึ้นนำไปก่อนบ่อยกว่าพวกเขา ทีมเจ้าบ้านตีเสมอได้สำเร็จจากลูกยิงของโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แต่พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถสร้างโอกาสที่ชัดเจนได้ และเมื่อพวกเขาได้โอกาสที่จะแจ้ง แต่ก็โดนอิลลัน เมส์ลิเยร์โชว์ฟอร์มเทพสร้างสถิติเซฟมากที่สุดใน 1 เกม ทำไปถึง 9 เซฟเลยทีเดียว ไครเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ – ในวันก่อนวันเกิดครบรอบ 21 ปีของเขา – เขาจับบอลหลุดและยิงเข้ามุมผ่านอลิซอนเข้าไปอย่างเฉียบขาดในนาทีที่ 90 ชนิดที่ว่าทำให้แอนฟิลด์ถึงกับต้องเงียบกริบกันเลยทีเดียว สถิติแห่งความเหนียวแน่นในบ้านที่พังทลาย ลีดส์ที่ไม่ชนะใครเลยตลอด 8 เกมก่อนหน้านี้ แต่พวกเขากลับเป็นผู้ทำลายสถิติ 70 นัดที่ไม่แพ้ใครเลยในบ้านเลยของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คลงได้อย่างน่าทึ่ง หลังจากที่ทำสถิติชนะ 59 เสมอ 11 ในพรีเมียร์ลีก มันเป็นสถิติที่น่าภาคภูมิใจไม่น้อยของเซ็นเตอร์แบ็ควัย 31 ปีนับตั้งแต่ที่เขาย้ายเข้ามาร่วมทีมในปี 2018 หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงที่หงส์แดงแพ้ในบ้าน 6 นัดติดต่อกันในในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2021 ฟาน ไดจ์คยังคงรักษาสถิติในลีกของเขาเอาไว้ได้เหมือนเดิม แต่ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสความพ่ายแพ้ในบ้านจนได้ แน่นอนว่าการเป็นผู้ชนะในนาทีสุดท้ายเมื่อจบเกมการแข่งขันด้วยฟอร์มของเจ้าบ้านที่จืดชืดนั้นคือช่วงเวลาที่สำคัญในฤดูกาลของพวกเขาอย่างแน่นอน อันที่จริงแล้ว ความพ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีกซึ่งในตอนนี้เป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่ 4 แล้วของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้นั้นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากฤดูกาลที่แล้วของพวกเขา และเมื่อดูเป็นภาพรวมร่วมกับชัยชนะ 4 เกมกับผลเสมออีก 4 เกมในช่วง 12 เกมแรกของฤดูกาลนั้นเทียบเท่ากับการออกสตาร์ทฤดูกาลที่ย่ำแย่ของรอย ฮอดจ์สันในฤดูกาล 2010-11 เลยล่ะ ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์อยู่ในอันดับที่ 9 ของตารางคะแนน ตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่ 13 แต้มและตามหลังนิวคาสเซิลที่อยู่อันดับ 4 อยู่ 8 แต้ม ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่พวกเขาโดนทีมยูงทองไล่บี้มาโดยตลอด โดยลีดส์ทั้งทีมนั้นวิ่งมากกว่าหงส์แดงทั้งทีมถึง…

Read More

ช่วงฮันนีมูนของเชลซีต้องสะดุดไปเล็กน้อย หลังจากที่ไบรท์ตันเก็บชัยชนะในลีกเหนือเชลซีได้เป็นครั้งแรกหลังจากที่ในช่วง 14 เกมก่อนหน้านี้ ทัพนกนางนวลแพ้ให้กับเชลซีถึง 10 ครั้งและเสมออีก 4 ครั้ง ชัยชนะของไบรท์ตันด้วยสกอร์ 4-1 นั้นยังเป็นความพ่ายแพ้เกมแรกของเกรแฮม พ็อตเตอร์ในฐานะผู้จัดการทีมเชลซีอีกด้วย ในเกมที่เขากลับมายังเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ถิ่นเก่าของเขา ในขณะที่ลูกทีมของโรแบร์โต้ เด แซร์บี้ก็บีบให้เชลซีเล่นยากจนมีข้อผิดพลาดมากมาย พร้อมกับชิงขึ้นนำห่างไปก่อนในช่วงพักครึ่งถึง 3-0 สถิติไร้พ่าย 9 เกมของทีมจากเมืองหลวงภายใต้กุนซือใหม่นั้นต้องจบลง แต่ทำไมแฟนบอลเชลซียังควรที่จะมองโลกในแง่ดีได้ถึงแม้ว่าทีมสิงโตน้ำเงินครามจะมีฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันที่น่าเป็นห่วงแบบนี้? ใคร ๆ ก็มีวันฟอร์มหลุดกันทั้งนั้น ทุก ๆ สิ่งที่อาจผิดพลาดไปสำหรับเชลซีในช่วงเวลาที่ตึงเครียดของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเกมดำเนินไปเพียงแค่ 5 นาทีก็เป็นไบรท์ตันที่เป็นฝ่ายออกนำไปก่อนจากการออกสตาร์ทเกมสุดดุดันของพวกเขา ซึ่งพลาดโอกาสขึ้นนำก่อนหน้านี้ 2 ครั้งจากการสกัดบอลออกจากเส้นปากประตูจากติอาโก้ ซิลวา เห็นได้ชัดว่าทีมนกนางนวลกำลังสร้างบรรยากาศที่อึกทึกทั้งในและนอกสนามและเชลซีก็พยายามดิ้นรนเพื่อให้เกมของพวกเขานั้นทัดเทียมกับความเข้มข้นของเจ้าบ้าน สองประตูที่เชลซีทำเข้าประตูตัวเองก่อนจบครึ่งแรกนั้นส่งผลต่อรูปเกมที่แย่อยู่แล้วของเชลซีเป็นอย่างมาก เพราะตลอดเกมเป็นไบรท์ตันที่คอยฉวยโอกาสโจมตีบริเวณพื้นที่ด้านหลังวิงแบ็คของเชลซี จนทำให้กองหลังทั้งสามอย่างเทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวาและมาร์ค คูคูเรญ่าถึงกับปั่นป่วน ยิ่งไปกว่านั้น การไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับในแดนกลางทั้งสามคนของพ็อตเตอร์นั้นยังทำให้ไบรท์ตันใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องตรงนั้นได้ต่อไป เนื่องจากทีมเยือนนั้นไม่สามารถคุมเกมได้เลย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่มีบอลหรือไม่มีบอล พ็อตเตอร์ก็ได้ทำสิ่งที่เขาทำดีมาตลอดระยะเวลาที่เขาคุมทีม นั่นก็คือการแก้เกม พ็อตเตอร์ปรับรูปแบบการเล่นในครึ่งหลัง มาเป็นแผนการเล่นแบบ 4-3-3 เพื่อแก้ปัญหาที่ตรงที่พวกเขากำลังแย่ ซึ่งจะบอกว่าได้ผลก็คงไม่ผิด เพราะพวกเขาตีคืนกลับมาได้ 1 ประตูทันทีในช่วงต้นของครึ่งหลัง จากลูกยิงของไค ฮาเวิร์ตซ์ แต่อย่างไรก็ตาม ไบรท์ตันมาได้ประตูที่ 4 ตอกฝาโลงในช่วงท้ายครึ่งหลัง ถึงแม้ว่าครึ่งหลัง เชลซีจะเล่นได้ดีกว่าและเป็นฝ่ายโหมบุกเข้าใส่ก็ตาม การหาจุดสมดุลและความแข็งแกร่งของทีม โดยรวมแล้ว เกรแฮม พ็อตเตอร์ได้พัฒนาเกมรุกของเชลซีขึ้นเล็กน้อย แต่กุนซือวัย 47 ปีรายนี้ค่อนข้างโชคร้ายในตำแหน่งแนวรับ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเหล่านักเตะในตำแหน่งแนวรับทำให้เขาไม่มีโอกาสสร้างโครงสร้างของแผงหลังที่สม่ำเสมอขึ้นมาได้ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, รีซ เจมส์, คาลิดู คูลิบาลี่และแม้แต่เอ็นโกโล่ ก็องเต้ต่างก็ใช้เวลาในการพักรักษาตัวนานเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ที่เชลซีแต่งตั้งกุนซือชาวอังกฤษเข้ามาคุมทีมและการไม่มีนักเตะแนวรับคนสำคัญหลายคนนั้นก็ส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งและความมั่นคงของเชลซีในการเลือกตัวนักเตะลงสนาม อันที่จริงแล้ว ทีมจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ก็ทนกับการไม่มีสมดุลในทีมกันมาตั้งแต่ที่พวกเขาไล่โธมัส ทูเคิ่ลออกแล้ว และพ็อตเตอร์ก็ต้องรับภาระในการบริหารจัดการนักเตะกับเกมการแข่งขันที่หนักหน่วงและรวดเร็วในช่วงเวลาน้อยกว่าสองเดือนในการคุมทีม ทว่ามันเป็นเรื่องที่ถือว่าคิดน้อยไปนิดที่จะใส่นักเตะแนวรับเพียงสามคนในเกมพรีเมียร์ลีกสุดเข้มข้นกับทีมเก่าของพ็อตเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เร้ดบูล ซัลส์บวร์กได้ใช้ประโยชน์จากช่องว่างที่เปิดกว้างนั้นในการสวนกลับในระหว่างเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตบอสของสวอนซียอมรับบทบาทของเขาในความพ่ายแพ้หลังจากจบเกมนั้น “เมื่อคุณแพ้ คุณจะต้องมองหาดูข้อผิดพลาดและถ้าคุณทำผิดพลาด คุณจะต้องวิเคราะห์มัน นั่นเป็นส่วนหนึ่งของงานของเรา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการและหากเราทำผิดพลาด ฉันจะต้องรับผิดชอบในสิ่งนั้นและเราจะต้องทำให้ดีขึ้น” “ผมต้องขอแสดงความยินดีกับไบรท์ตันเช่นกัน พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดี…

Read More