Author: admin

แผนการเล่นฟุตบอลเป็นโครงสร้างที่ผู้จัดการทีมจะจัดทีมเพื่อเพิ่มจุดแกร่งและปกปิดจุดอ่อนของทีม ในขณะเดียวกันก็เปิดเผยจุดอ่อนและลบล้างจุดแข็งของทีมตรงข้าม รูปแบบการเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดจะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันเพื่อให้มั่นใจถึงเกมรับที่ยอดเยี่ยม, การขึงคู่แข่งในแดนกลางและเล่นเกมรุกให้มีประสิทธิภาพในพื้นที่สุดท้าย ในบทความนี้ เราจะมาดูรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดและระบบที่ใช้ในปัจจุบันในฟุตบอลสมัยใหม่กัน แผนการเล่น 4-4-2 แผนการเล่น 4-4-2 ถือเป็นหนึ่งในแผนการเล่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ไม่เพียงแค่สำหรับแฟนบอลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ค่อยได้ติดตามฟุตบอลอีกด้วย แผนการเล่น 4-4-2 นั้นมีแนวรับ 4 คน, มิดฟิลด์ 4 คนและกองหน้า 2 คน แผนการเล่น 4-4-2 ตอนที่เล่นเกมรุก เมื่อนักเตะที่ลงเล่นด้วยแผนการเล่น 4-4-2 นั้นได้ครองบอล พวกเขาจะสร้างโอกาสให้กับกองหน้า 2 คนในทีมเพื่อทำประตู บทบาทของกองหน้าทั้ง 2 คนคืออะไร? คู่หูกองหน้าในแผนการเล่นระบบ 4-4-2 นั้นมักจะประกอบด้วยกองหน้าตัวเป้าที่ตัวใหญ่และกองหน้าที่ตัวเล็กและมีความว่องไวกว่า กองหน้าตัวเป้าคือเป้าหมายในการป้อนบอลเพื่อเปิดเกมรุกที่ดีที่สุดเนื่องจากลักษณะทางกายภาพที่ได้เปรียบของเขา งานของเขาคือการทำให้เซ็นเตอร์แบ็คต้องตามประกบเขา, โชว์การครองบอลที่ยอดเยี่ยมและเชื่อมเกม ซึ่งช่วยให้ทีมของเขารักษาการครองบอลได้นานขึ้นในสนามและดันแนวรับของคู่แข่งให้เข้าใกล้ประตูของตัวเองมากขึ้น เมื่อทีมได้ครองบอล ความสามารถของเขาในการลงต่ำไปรับบอลสามารถดึงกองหลังของคู่แข่งออกจากตำแหน่งได้, สร้างพื้นที่ให้คู่หูของเขาหรือเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ วิ่งสอดเข้าไป ความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศยังจำเป็นสำหรับนักเตะในตำแหน่งนี้ การวิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษอย่างสม่ำเสมอนั้นถือเป็นในตำแหน่งนี้นั้นจำเป็นจะต้องเก่งในการเล่นลูกกลางอากาศเพื่อที่หาโอกาสในการเล่นลูกครอสจากด้านข้างและบอลยาวจากด้านหลังจากเพื่อนร่วมทีม กองหน้าคนที่ 2 ในแผนการเล่นนี้โดยหลักแล้วจะเป็นนักเตะที่ตัวเล็กกว่าและคล่องตัวกว่า ซึ่งสามารถลงเล่นในพื้นที่แดนกลางและพื้นที่กว้างได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว กองหน้าตัวเป้าจะเป็นคนที่วิ่งช้ากว่าในคู่กองหน้า 2 คน นั่นหมายความว่ากองหน้าตัวที่สองจะต้องมีความเร็วที่จะสามารถวิ่งฉีกแนวรับจากลูกวัน-ทู, เลย์ออฟ, ทะลุช่องและบอลยาว  บทบาทของมิดฟิลด์ตัวกลางคืออะไร? ไลน์กองกลางเป็นไลน์ที่สองในแผนการเล่นรูปแบบ 4-4-2 ประกอบด้วยมิดฟิลด์ตัวกลางสองคนและมิดฟิลด์ริมเส้นสองคน เมื่อทีมที่ใช้แผนการเล่นนี้ได้ครองบอล มิดฟิลด์สองคนที่อยู่ตรงกลางจะต้องสามารถรับบอลจากแนวรับและทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมเกมระหว่างแนวรับและแนวรุก ในระหว่างการเคลื่อนที่ในเกมรุก กองกลางคนใดคนหนึ่งจะได้สิทธิ์ให้เติมเกมขึ้นไปหรือเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ว่างเพื่อสร้างโอเวอร์โหลดให้กับฟูลแบ็คและปีก ในขณะที่อีกคนหนึ่งจะอยู่ตรงกลางเพื่อให้แน่ใจว่ามีตัวซ้อนในกรณีที่ทีมเสียการครองบอล บทบาทของปีก ในระหว่างการเปิดเกมรุก ปีกนั้นมีสิทธิ์ที่จะเติมเกมไปข้างหน้าจากตำแหน่งกลางและเข้าไปอยู่ในแดนของคู่แข่ง ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของโค้ช พวกเขาสามารถเติมเกมรุกกับฟูลแบ็คหรือเล่นในพื้นที่ครึ่งสนามและมองหาการสร้างโอกาสในพื้นที่ว่างระหว่างเซ็นเตอร์แบ็คและฟูลแบ็ค นักเตะในตำแหน่งนี้จะมีการเล่นกับพื้นที่กว้างและเล่นฟุตบอลแบบไดเร็คด้วยการเลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษหรือเปิดบ้านไปหากองหน้าในทีมทั้งสองคน พวกเขายังต้องประสานงานกับฟูลแบ็คที่เติมเกมขึ้นไปแบบโอเวอร์แล็ปเช่นเดียวกับมิดฟิลด์ตัวกลางที่เคลื่อนที่เพื่อสร้างโอเวอร์โหลดในฝั่งนั้น บทบาทของแบ็คโฟร์ ในฟุตบอลสมัยใหม่ เซ็นเตอร์แบ็คในแผงแบ็คโฟร์จำเป็นต้องเล่นบอลด้วยเท้าได้ดีมากขึ้นเมื่อได้ครองบอล ด้วยการรับรู้ตำแหน่งและเทคนิคที่ดี เซ็นเตอร์แบ็คสามารถจ่ายบอลไปยังกองกลางและพื้นที่กว้างไปยังฟูลแบ็กและปีกได้ พวกเขายังมีความสามารถในการโยนบอลยาวไปยังกองหน้าตัวเป้าหรือด้านหลังแนวรับของคู่แข่งเพื่อให้นักเตะในทีมวิ่งไปรับบอล ฟูลแบ็คที่อยู่ข้างพวกเขาสามารถรับบอลจากเซ็นเตอร์แบ็คและทำหน้าที่เป็นตัวลำเลียงบอล หากตรงแดนกลางถูกปิดในระหว่างที่กำลังตั้งเกม ฟูลแบ็คจะเติมเกมรุกและถอยลงมาเล่นเกมรับเพื่อสร้างตัวเลือกการส่งบอลให้กับปีกในตอนที่พวกเขาวิ่งโอเวอร์แล็ป แผนการเล่น 4-4-2 ตอนที่เล่นเกมรับ แผนการเล่นนี้เป็นหนึ่งในรูปแบบที่สมดุลที่สุดในการเล่นเกมรับ ข้อดีอย่างหนึ่งของมันคือความสามารถในการบีบให้คู่แข่งต้องเปิดเกมรุกใส่จากทางกราบทั้งสองฝั่ง กองหน้าทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้าจะโดนเซ็นเตอร์แบ็คตามประกบไม่ให้เข้าถึงมิดฟิลด์ตัวกลางได้อย่างง่ายดาย นั่นบีบให้กองหลังต้องจ่ายบอลไปให้กับฟูลแบ็ค ทีมส่วนใหญ่จะพยายามเล่นบอลในตำแหน่งมิดฟิลด์สี่คนและเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแทน แต่นักเตะในแนวรับจะรับมือกับลูกกลางอากาศได้ดี อะไรคือจุดอ่อนของแผนการเล่น 4-4-2? แผนการเล่นนี้มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ทีมอ่อนแอลงในตำแหน่งแดนกลาง หากคู่แข่งใช้แผนที่มีมิดฟิลด์สามคน พวกเขาจะได้เปรียบในแดนกลางเช่นเดียวกับเกมรับ…

Read More

สำหรับเหล่าทีมที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดนั้น ชัยชนะคือทุก ๆ สิ่ง ถึงแม้ว่าในกีฬาอย่างฟุตบอล ชัยชนะจะเป็นสิ่งที่ต้องสร้างเอาเองในทุก ๆ เกม และไม่สามารถได้มาง่าย ๆ แต่ก็มีบางทีมที่ยังคงมองว่าชัยชนะเป็นสิ่งที่พวกเขาจะต้องได้ในทุก ๆ เกมอยู่ ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า แฟน ๆ มากมายต่างเดินทางมาที่สนามหรือรอชมเกมที่บ้านอย่างหิวโหยและรอคอยที่จะได้รับชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า บางทีมเอาชนะด้วยการเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมซึ่งทำให้คู่แข่งของพวกเขาต้องอับอาย ในขณะที่ทีมอื่น ๆ พยายามที่จะขึงเกมบุกเข้าใส่คู่แข่งและเก็บผลการแข่งขันแบบเดียวกัน ผู้ชมที่ซื่อสัตย์รู้ว่าพวกเขากำลังจะได้เห็นอะไรบางอย่างเพราะสไตล์การเล่นนี้นำมาซึ่งผลลัพธ์นับไม่ถ้วน, ชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วน, ความสุขมากมายและที่สำคัญที่สุดคือถ้วยแชมป์นั่นเอง ถึงแม้ว่าในโลกของฟุตบอล ลำดับชั้นของทีมในระดับสูงสุดของกีฬานี้จะได้รับการตัดสินไปแล้ว แต่ก็มีหลายครั้งในประวัติศาสตร์ที่ชัยชนะต้องหยุดตัวลงไป มีช่วงหนึ่งที่ทีมไม่เป็นที่รู้จักเหมือนเมื่อก่อนและเหล่านักเตะที่ครั้งหนึ่งเคยทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในสนามดูเหมือนเงาของตัวเองในอดีตกลับมาหลอกหลอนพวกเขาอีกครั้ง สภาพจิตใจของนักเตะเหล่านี้กลายเป็นคำถามและแฟน ๆ ที่ได้ดูพวกเขาคว้าชัยชนะในเกมแล้วเกมเล่านั้นต่างแสดงความไม่พอใจหลังจากช่วงที่พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างสม่ำเสมอเหมือนเมื่อก่อน มีหลายสาเหตุสำหรับเหตุการณ์นี้ซึ่งเกิดขึ้นกับทีมที่ยอดเยี่ยมทั้งสิ้น โปรแกรมการแข่งขันที่อัดแน่นตลอดทั้งฤดูกาล การลงสนามและเก็บชัยชนะในเกมระดับสูงสุดนั้นหมายความว่าความต้องการของเหล่านักเตะนั้นต้องแข็งแกร่ง ในฐานะทีมที่มีความทะเยอทะยานสูงที่จะคว้าชัยชนะในทุก ๆ เกมและคว้าแชมป์ในทุกรายการนั้น ยิ่งคุณเข้ารอบลึก ๆ ได้ในทัวร์นาเมนต์บอลถ้วยมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งต้องมีเกมที่ต้องลงสนามในแต่ละฤดูกาลมากขึ้นเท่านั้น ทีมที่ดีที่สุดมีนักเตะที่ดีที่สุดที่ลงเล่นในเกมใหญ่ที่สุดโดยเฉพาะช่วงท้ายฤดูกาล เมื่อคุณรวมความเป็นไปได้ของนักเตะเหล่านี้ที่เป็นตัวแทนของประเทศของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ ก็จะถึงจุดที่ความเหนื่อยล้าและแม้กระทั่งอาการบาดเจ็บเข้ามามีบทบาท ตัวอย่างของทีมที่ประสบความสำเร็จซึ่งต้องดิ้นรนกับการคว้าชัยชนะในตอนนี้คือลิเวอร์พูล เมื่อไม่นานมานี้ ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็น 2 ทีมที่ครองพรีเมียร์ลีก แต่ตอนนี้กลับเป็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไป หลังจากฤดูกาลที่พวกเขาลงเล่นทุกเกมที่พวกเขาสามารถลงเล่นได้ในทุกรายการ ฤดูกาลนี้หงส์แดงดูเซื่องซึมและไร้เงาของทีมที่ดีที่สุดของพวกเขา อาการบาดเจ็บที่พวกเขาสะสมในฤดูกาลนี้ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลยและดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจบฤดูกาลในอันดับนอกท็อปโฟร์อีกด้วยหากพวกเขายังหาฟอร์มเก่งไม่เจอในเร็ว ๆ นี้ ในตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลนั้นดูเหมือนสองทีมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ชัยชนะเก่า ๆ ทำให้ความกระหายน้อยลง ในช่วงเริ่มต้นของวัฏจักรแห่งชัยชนะ ความหิวโหยและความต้องการที่จะไล่ตามความสำเร็จน่าจะอยู่ในจุดสูงสุด เป็นเวลาที่คุณมีกลุ่มนักเตะที่ส่วนใหญ่อายุยังน้อยและเต็มไปด้วยพรสวรรค์และความปรารถนาที่จะทิ้งทุกอย่างไว้ในสนามโดยมีเป้าหมายที่จะทิ้งสถิติที่ยั่งยืนเอาไว้ทั้งในส่วนของรายบุคคลและส่วนรวม ความหิวกระหายนั้นไม่สามารถถูกแทนที่ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อทีมยังคงคว้าชัยชนะได้ จุดที่พวกเขาเริ่มพึงพอใจก็จะเริ่มเข้ามา ความอิ่มเอมใจเมื่อคุณอยู่บนจุดสูงสุดนั้นจะมาพร้อมกับอันดับ แต่เมื่อคุณอยู่บนยอดเขา ทุก ๆ ทีมต่างก็ต้องการที่จะแย่งชิงจุดสูงสุดที่คุณยืนอยู่และมีผู้ท้าชิงหน้าใหม่เกิดขึ้นมาอยู่เสมอ การเก็บ 50 คะแนนของอาร์เซนอลใน 19 เกมแรกของฤดูกาลทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ในฤดูกาลนี้ เหล่านักเตะอายุน้อยที่สุดของอาร์เซน่อลกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันและนั่นเป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมถึงโปรเจ็คที่มิเกล อาร์เตต้ากำลังสร้างนั่นเอง พวกเขาเป็นทีมชุดที่มีนักเตะอายุน้อยที่เล่นฟุตบอลได้ดีที่สุดในเกาะอังกฤษในขณะนี้และยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคันเร่งลงเลย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 จาก 5 ปีหลังสุด ทีมเรือใบสีฟ้ากำลังมีฤดูกาลที่ดี แต่พวกเขากลับแสดงให้เห็นถึงความชะล่าใจออกมา ซึ่งเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเป็นฝ่ายออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยตัวเองเลย หลังจากที่พวกเขาเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สไปได้ด้วยสกอร์ 4-2 เขาพูดถึงลูกทีมว่า “[ขาด] ความกล้า,…

Read More

สารบัญ การกำเนิดของฟอลส์ไนน์ – ตำแหน่งฟอลส์ไนน์คืออะไร ใครเป็นคนทำให้ตำแหน่งฟอลส์ไนน์เป็นที่นิยมในฟุตบอลยุคปัจจุบัน ใครเป็นกองหน้าที่ไม่ใช่ฟอลส์ไนน์ในยุคปัจจุบัน? กองหน้าตัวกลางจะหายไปจากโลกฟุตบอลหรือไม่? ทำไมกองหน้าต้องมีส่วนร่วมมากขึ้นในการสร้างเกม? หลายปีที่ผ่านมา ฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่เรารู้ว่ามันกลายมาเป็นเกมฟุตบอลสมัยใหม่นั้นเกิดขึ้นเนื่องจากยุคที่กำหนดช่วงเวลาที่สร้างขึ้นโดยเหล่านักเตะและผู้จัดการทีม เนื่องจากความสำเร็จที่พวกเขาทำได้ ทำให้หลาย ๆ คนจึงเอาเป็นแบบอย่าง ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เรียบง่าย แต่มุมมองของเราที่มีต่อมันนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ จากวิธีการเล่นฟุตบอลจากแดนหลังสู่บทบาทของกองกลางอย่างที่ควรจะเป็นมาจนถึงกองหน้า ผู้คนมักคิดหาวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการซึ่งก็คือการทำประตู เมื่อพูดถึงประตู บทความชิ้นนี้จะเน้นไปที่ตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในยุคของกีฬาชนิดนี้ ซึ่งก็คือศูนย์หน้าในกีฬาฟุตบอล เรามาพิจารณากันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่และเพราะอะไรมันถึงเกิดขึ้น การกำเนิดของฟอลส์ไนน์ในโลกของฟุตบอล – ตำแหน่งฟอลส์ไนน์คืออะไร ตำแหน่งฟอลส์ไนน์นั้นหมายถึงนักเตะที่ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าและลงต่ำไปไปล้วงบอล เหตุผลที่ตำแหน่งนี้มีคำว่า “ฟอลส์” เป็นเพราะว่านักเตะเหล่านี้จะเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่กองหน้าทั่วไปไม่ได้ไปนั่นเอง เมื่อพวกเขาลงต่ำ พวกเขาจะพยายามสร้างโอเวอร์โหลดพื้นที่แดนกลางและทำให้ทีมจำนวนมากกว่าคู่แข่งในบริเวณดังกล่าว เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ในการจ่ายบอลในแดนกลาง ซึ่งช่วยให้ทีมของเขาสามารถเจาะผ่านแนวรับที่แน่นหนาได้ อีกเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาลงต่ำก็คือเพื่อดึงกองหลังให้หลุดออกจากตำแหน่ง เมื่อนักเตะตำแหน่งฟอลส์ไนน์ลงต่ำ นั่นทำให้เหล่ากองหลังจะต้องตัดสินใจ เนื่องจากกองกลางมีความเสี่ยงที่จะโดนบุกในช่วงเวลานั้นเนื่องจากการเคลื่อนที่ของฟอลส์ไนน์ พวกเขาจึงต้องตัดสินใจว่าจะตามกองหน้าไปที่แดนกลางหรืออยู่กับที่และรอให้บอลมาถึงพวกเขา หากนักเตะตำแหน่งฟอลส์ไนน์ลงต่ำไปลึกและกองหลังไม่ตามมา เขาจะสามารถรับบอลระหว่างกองกลางและกองหลังได้และหันหน้าเข้าหาประตู โดยทิ้งเซ็นเตอร์แบ็คไว้ด้านหลัง อีกทางเลือกหนึ่ง หากกองหลังตัดสินใจที่จะตามกองหน้าไปที่แดนกลาง เขาจะหลุดจากตำแหน่ง ซึ่งจะเหลือพื้นที่ให้นักเตะตัวรุกคนอื่นวิ่งเข้าไปหาพื้นที่ว่าง ฟอลส์ไนน์ในเกมฟุตบอลคืออะไร – มันส่งผลกระทบต่อแผนการเล่นอย่างไร? ในแผนการเล่นฟอลส์ไนน์ นักเตะตำแหน่งฟอลส์ไนน์ที่ลงลึกนั้นจะขัดขวางรูปแบบของเกมรับและสร้างช่องว่างในการจ่ายบอลให้กับกองกลางหรือวิ่งเข้าไปในพื้นที่ว่าง แม้แต่นักเตะที่อยู่ปีกก็สามารถวิ่งจากตำแหน่งที่ว่างไปยังพื้นที่ในแดนกลางที่สร้างขึ้นโดยการเคลื่อนไหวของฟอลส์ไนน์ได้ ตำแหน่งฟอลส์ไนน์ส่วนใหญ่นั้นจะถูกใช้โดยทีมที่ต้องการเก็บบอล ทีมที่ครองบอลเป็นส่วนใหญ่นั้นมักจะเริ่มเกมจากแดนหลังมาสู่กองกลางและจึงทำการบุกเข้าใส่คู่แข่ง นั่นทำให้ฟอลส์ไนน์มีเวลาในการที่จะเลือกช่วงเวลาเพื่อลงต่ำและหาช่องว่างเพื่อฉีกเกมรับ ใครเป็นคนทำให้ตำแหน่งฟอลส์ไนน์เป็นที่รู้จักในวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน นักเตะที่ทำให้ตำแหน่งฟอลส์ไนน์เป็นที่รู้จักนั่นก็คือลิโอเนล เมสซี่และไม่ต้องสงสัยเลยล่ะว่าใครเป็นนักเตะในตำแหน่งฟอลส์ไนน์ที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอล จากเหตุการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าในเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกปี 2009 ผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่าในเวลานั้นให้เมสซี่ได้เคลื่อนที่จากตำแหน่งของเขาไปอยู่ปีกขวาและสลับกับซามูเอล เอโต้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในตอนนั้นอีกด้วย การเคลื่อนที่ตามแทคติกนั้นหมายความว่าเมสซี่สามารถประสานงานกับชาบี้และอิเนียสต้าได้ในแดนกลางและมันส่งผลให้ยอดทีมจากคาตาลันคว่ำทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มุมมองของฟุตบอลสมัยใหม่นั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล บาร์เซโลน่าของเป๊ป กวาร์ดิโอล่านั้นมีลิโอเนล เมสซี่เป็นตัวชูโรง ซึ่งศูนย์หน้าเจ้าของส่วนสูง 169 เซนติเมตร ซึ่งสรีระของเขานั้นไม่ได้เหมาะกับการเป็นกองหน้าเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นในยุคของเขาหรือยุคก่อนหน้าเขาก็ตาม ไม่ใช่แค่ความเฉลียวฉลาดของแค่เมสซี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาบี้, อิเนียสต้า, เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์และทีมโดยรวมอีกด้วย นั่นทำให้บาร์เซโลน่าเป็นทีมที่ไม่มีใครหยุดได้ในเวลานั้น พวกเขาคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกไปได้ 2 สมัยพร้อมกับตำแหน่งแชมป์ทุกรายการที่ลงเล่นด้วยตำแหน่งฟอลส์ไนน์และทำให้พวกเราได้เห็นว่ามันคือก้าวต่อไปของวิวัฒนาการของฟุตบอล หมายเหตุ: ถึงแม้ว่าเมสซี่จะทำให้ตำแหน่งฟอลส์ไนน์ได้รับความนิยม แต่เขาก็ไม่ใช่นักเตะคนแรกที่เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวกลางในวงการฟุตบอล ตำแหน่งฟอลส์ไนน์นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกโดยทีมโครินเธี่ยนส์ในช่วงปลายยุค 1980 โดยใช้กองหน้าอย่างโก สมิธลงเล่นในตำแหน่งฟอลส์ไนน์ เขาเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหน้าที่เล่นเหมือนเพลย์เมคเกอร์ซะมากกว่า เนื่องจากการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมของเขาในการทำประตู เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ…

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 อาร์เซนอล จากการที่ทั้งสองทีมจะเจอกันเป็นครั้งแรกของฤดูกาลในเกมนี้ นี่จะเป็นหนึ่งในเกมที่แฟน ๆ จับตาดูมากที่สุดอย่างแน่นอน เพราะนี่คือการเจอกันของสองทีมที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ ณ ขณะนี้ ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่เกมลีกที่ใคร ๆ เฝ้ารอ แต่ทั้งสองฝ่ายก็น่าจะรู้ดีว่าชัยชนะในนัดนี้จะมีผลต่อพวกเขามากกว่าแค่การผ่านเข้ารอบต่อไปในถ้วยนี้อย่างแน่นอน เกร็ดน่ารู้ นับรวมทุกรายการ ทีมปืนใหญ่ไม่แพ้ใครมาเจ็ดนัดติดแล้ว โดยแบ่งเป็นชนะหกนัด และสะดุดเสมอเพียงนัดเดียวเท่านั้น ส่วนทัพเรือใบสีฟ้าก็ไม่น้อยหน้า พวกเขาไม่แพ้ใครในบ้านมาห้ามเกมติดแล้วเหมือนกัน หากจะหาความพ่ายแพ้ในบ้านครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปก่อนช่วงฟุตบอลโลกเสียอีก ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลพรรคเรือใบสีฟ้ากลับมาฟอร์มแจ่มได้อีกครั้ง หลังจากแพ้ติดกันสองนัดรวดในช่วงเวลาไม่ถึงสี่วัน ตอนนี้พวกเขากลับมาเก็บชัยชนะได้ติด ๆ กันอีกครั้ง จากฟอร์มในบ้านที่ยอดเยี่ยมจนเก็บชัยชนะในบ้านได้สองนัดรวด และนัดที่สองที่ว่าก็คือนัดล่าสุดที่พวกเขาเปิดบ้านต้อนวูล์ฟแฮมป์ตันไปได้แบบสบาย ๆ 3-0 พวกเขาจะลงเล่นเกมใหญ่ในวันศุกร์นี้ด้วยความมั่นใจเต็มถังแน่นอน หลังจากพวกเขายิงได้ถึงเจ็ดประตูในเกมในบ้านสองนัดล่าสุด ฟอร์ม: อาร์เซนอล ในเกมลีกนัดล่าสุด ทีมเดอะ กันเนอร์ส เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ 3-2 แบบสุดมัน ในเกมที่อาร์เซนอลทุ่มเทและเล่นได้อย่างน่าประทับใจสุด ๆ อย่างไรก็ดี ลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้า จะมีคิวลงเตะเกมหนักที่สุดของฤดูกาล (เท่าที่ผ่านมา) ในเกมหน้า โดยชัยชนะและผลงานที่ดีของพวกเขาในเกมนี้อาจจะส่งผลบวกต่อชะตาการลุ้นแชมป์ลีกได้มากเลย เมื่อดูสถิติการเล่นเกมเยือน อาร์เซนอลชนะเกมเยือนมาแล้วห้านัดติดรวมทุกรายการ  และแพ้เกมเยือนไปแค่สองครั้งเท่านั้นในฤดูกาลนี้ สถิติระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS อาร์เซนอล จากสถิติเจ็ดครั้งหลังสุดรวมทุกรายการ เมื่อได้เล่นในบ้านพบกับอาร์เซนอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้เอาชนะได้ทั้งเจ็ดครั้ง ครั้งล่าสุดที่อาร์เซนอลบุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์​ ซิตี้ได้ถึงถิ่นนั้นต้องย้อนกลับไปถึงเดือนมกราคม ปี 2015 เลย ทั้งสองทีมเคยเจอกันในถ้วยนี้มาแล้วสองครั้ง โดยผลัดกันเอาชนะไปได้ทีมละหนึ่งครั้ง นักเตะที่น่าจับตามอง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ จอมถล่มประตูของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ทำไปแล้วถึง 30 ประตูในฤดูกาลนี้ รวมทุกรายการ และในเกมใหญ่แบบนี้ ทีมก็น่าจะคาดหวังให้เขาทำประตูช่วยทีมให้ได้เหมือนเคยอีกครั้ง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ถ้ายังมีใครสงสัยว่าเอ็นเคเทียห์จะทดแทนกาเบรียล เชซุส กองหน้าตัวหลักที่บาดเจ็บไปได้หรือไม่ล่ะก็ เราคิดว่าตอนนี้ไม่น่าจะมีใครสงสัยแล้วล่ะ เพราะเอ็นเคเทียห์เพิ่งซัลโวไปสองประตูในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับคว้ารางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ไปด้วย ทำให้อาร์เซนอลยังคงนำห่างอยู่ในอันดับหนึ่งของตารางคะแนนต่อไป โดยเจ้าตัวทำไปแล้วถึงสองประตูในรอบก่อน…

Read More

อาร์เซนอลพลาดการคว้าตัวมิคาอิโล มูดริก เป้าหมายหลักในตลาดหน้าหนาวนี้ของพวกเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น หลังเจ้าตัวเลือกที่จะย้ายไปร่วมทีมเชลซีแทน แม้ว่าทีมปืนใหญ่จะเป็นทีมที่วางแผนคว้าตัวเขามาอย่างดี และดูจะเป็นตัวเต็งที่จะได้ศูนย์หน้าหนุ่มชาวยูเครนไปร่วมทีมมาตลอด การคว้าน้ำเหลวในดีลนี้ทำให้แฟน ๆ อาร์เซนอลหงุดหงิดไม่ใช่น้อย จากการที่พวกเขาต้องผิดหวังกับการไม่ได้นักเตะเป้าหมายหลักอย่างที่หวังอีกแล้ว แต่แน่นอนว่าทีมบริหารของเดอะ กันเนอร์ส ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่เฉย ๆ และเบนเป้าไปคว้าตัวเลอันโดร ทรอสซาร์ แนวรุกที่กำลังมีปัญหาทะเลาะกับต้นสังกัดอย่างไบรท์ตันอยู่ในขณะนี้ โดยจากการรายงานระบุไว้ว่าค่าตัวของปีกชาวเบลเยียมอยู่ที่ 26 ล้านปอนด์ ทรอสซาร์เป็นผู้เล่นที่ถูกขึ้นบัญชีขายตรงกับเวลาที่อาร์เซนอลต้องการแนวรุกคนใหม่ และบวกกับราคาที่ไม่แพงมากทำให้เข้าทางทีมปืนใหญ่ที่กำลังงบน้อยพอดี ถือว่าอาร์เซนอลโชคดีเอามาก ๆ ที่ได้นักเตะระดับนี้ไปร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 26 ล้านปอนด์เท่านั้น และในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะพอดี ทำไมการไม่ได้ตัวมูดริกนั้นอาจจะส่งผลดีกับอาร์เซนอลมากกว่าผลเสียด้วยซ้ำ จริงอยู่ที่มูดริกนั้นเป็นนักเตะมากพรสวรรค์ที่มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต แต่อย่างไรก็ดีเขาก็ใม่เคยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาก่อนเลย และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้การที่จะคาดเดาว่าเขาจะทำผลงานได้ดีหรือไม่ในฤดูกาลแรกนั้นเป็นเรื่องยากมาก นี่ยังไม่รวมถึงที่เจ้าตัวต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบทีมแบบไม่ได้เข้าแคมป์พรีซีซั่นด้วยกันอีกนะ แน่นอน การซื้อผู้เล่นทุดคนมาพร้อมกับความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ความเสี่ยงที่นักเตะจะเล่นได้อย่าง “ไม่ตรงปก” นั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อนักเตะคนนั้น ๆ ยังเป็นดาวรุ่งที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก ซึ่งในฤดูกาลนี้ อาร์เซนอลไม่มีเวลาที่จะมาลุ้นกับฟอร์มของดาวรุ่งอีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาเป็นทีมหัวตารางที่ต้องการทุกคะแนนที่เป็นไปได้เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ เหตุผลที่พวกเขาอยากจะซื้อตัวนักเตะเพิ่มในตลาดหน้าหนาวนี้ก็เพื่อที่จะเสริมแกร่งทีมของพวกเขา และทำให้นักเตะชุดโรเทชั่นของพวกเขานั้นแข็งแกร่งขึ้น จากการที่พวกเขาจะต้องลงเตะที่ยิบอย่างแน่นอนในช่วงปลายฤดูกาล เพราะมีโปรแกรมต้องลงเตะหลายถ้วยเหลือเกิน แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เป้าหมายหลักในฤดูกาลนี้ของพวกเขาก็น่าจะยังเป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ และมันจะต้องมีช่วงที่ต้องการนักเตะชุดโรเทชั่นอย่างแน่นอน จากความเหนื่อยล้าตลอดทั้งฤดูกาล การได้ตัวนักเตะอย่างทรอสซาร์ที่ไม่เพียงแต่ผ่านการพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว แต่เป็นหนึ่งในนักเตะระดับท็อปของลีก และอยู่ในช่วงพีคของการค้าแข้งมาร่วมทีมเพื่อไล่ล่าแชมป์นั้นถือว่าเป็นการซื้อนักเตะที่คุ้มค่าเอามาก ๆ เลยล่ะ ทรอสซาร์จะช่วยอะไรอาร์เซนอลได้บ้าง ทรอสซาร์เป็นแนวรุกที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในฟรอนต์ทรี การที่เขาสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งนั้นหมายความว่าเขาจะเป็นมีดสวิสในเกมรุกที่พร้อมลงเล่นได้ทันทีในทุกตำแหน่ง เหมือนที่ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ เป็นมีดสวิสในเกมรับของทีมนั่นแหละ ส่วนในเรื่องฟอร์มส่วนตัวของเขา ใน 16 เกมที่เขาลงเล่นในฤดูกาลนี้ เขายิงไปถึงเจ็ดประตูและทำได้อีกสองแอสซิสต์ แถมยังกำลังมีฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาอยู่ในตอนนี้อีกด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีโอกาสได้เห็นอาร์เซนอลแบบที่มีมูดริกก็ตาม แต่เรายังมีโอกาสได้เห็นอาร์เซนอลที่เสริมแกร่งเพิ่มในแนวหลังอยู่ โดยทีมปืนใหญ่ยังอยู่ในช่วงเจรจากับสเปเซียเพื่อคว้าตัวยาคุบ คิวิออร์ ปราการหลังที่มีค่าตัวอยู่ที่ราว ๆ 20 ล้านปอนด์ เพื่อมาเสริมตัวเลือกในแนวรับที่พวกเขากำลังต้องการอยู่พอดี อาร์เซนอลจะไม่มีทางเล่นฟุตบอลในระดับสูงแบบนี้ได้แน่นอน ถ้าในทีมของพวกเขามีนักเตะมากมายที่ต่างก็คิดว่าพวกเขาจะต้องได้เป็นตัวจริง เพราะเป็นความคงเส้นคงวาของ 11 ตัวจริงและฟอร์มที่ดีของตัวสำรองที่เข้าใจหน้าที่ของตัวเองต่างหากที่พาพวกเขามาถึงจุดนี้ได้ แต่ไม่ว่าจะได้นักเตะมาเพิ่มอีกหรือไม่ในตลาดหน้าหนาวนี้ อาร์เซนอลก็ยังเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในลีก ณ ตอนนี้ และเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ด้วย ใช่ครับ ตอนนี้พวกเขามาไกลถึงขนาดนี้แล้ว

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 วูล์ฟ เกร็ดน่ารู้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้พึ่งคืนฟอร์มเก่งหลังจากบุกไปพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยสกอร์ 2-1 โดยการเปิดบ้านโชว์ฟอร์มคัมแบ็คจากตามหลัง 2 ประตูพลิกกลับมาเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สไปได้ด้วยสกอร์ 4-2 วูล์ฟมีเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้นนับตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งตั้งจูเลน โลเปเตกีเข้ามาคุมทีม แต่อย่างไรก็ดีเกมล่าสุดพวกเขาพึ่งกระเด็นตกรอบเอฟเอคัพด้วยฝีมือของลิเวอร์พูลในเกมนัดรีเพลย์ ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ชนะ-แพ้-ชนะ-เสมอ-ชนะ วูล์ฟส์ – ชนะ-เสมอ-แพ้-ชนะ-แพ้ สถิติระหว่างทั้งสองทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะรวด 5 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมโคจรมาพบกัน วูล์ฟเป็นทีมที่ยิงประตูได้น้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกและเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ก็ยิงประตูได้มากกว่าทีมวูล์ฟทั้งทีมยิงรวมกันในฤดูกาลนี้เสียอีก จากการที่ดาวยิงชาวนอร์เวย์ซัดไปแล้ว 22 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ นักเตะที่น่าจับตามอง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์กลับมาพังประตูได้แล้วและคุณก็มั่นใจได้เลยว่าเขาจะพังประตูในเกมนี้ได้อย่างแน่นอน รูเบน เนเวส เขาเป็นนักเตะที่จ่ายบอลได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งมีความเร็วและความฟิต แน่นอนว่าเนเวสเป็นนักเตะที่ดีที่ดีของวูล์ฟและเขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญในเกมนี้อย่างแน่นอน

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-2 เบรนท์ฟอร์ด เกร็ดน่ารู้ ลีดส์ ยูไนเต็ดยังคงควานหาฟอร์มเก่งไม่เจอหลังจากที่พึ่งบุกไปแพ้ให้กับแอสตัน วิลล่าถึงถิ่นวิลล่า ปาร์คไปด้วยสกอร์ 2-1 เบรนท์ฟอร์ดเปิดบ้านเก็บ 3 คะแนนเต็มในเกมที่พวกเขาเจอกับบอร์นมัธ เป็นการเพิ่มความหวังในการคว้าตั๋วฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้าของพวกเขา ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด ลีดส์ ยูไนเต็ด – แพ้-เสมอ-เสมอ-แพ้-แพ้ เบรนท์ฟอร์ด – ชนะ-ชนะ-ชนะ-เสมอ-ชนะ สถิติระหว่างทั้งสองทีม เบรนท์ฟอร์ดโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 5 นัดหลังสุด ส่วนลีดส์นั้นยังคงหาฟอร์มเก่งไม่เจอ ทำให้เกมนี้ทีมผึ้งพิฆาตเป็นทีมที่มีภาษีดีกว่าในการเก็บ 3 คะแนนในเกมนัดนี้ ทั้งสองทีมเคยเจอกันในพรีเมียร์ลีกมาแล้วแค่ 3 ครั้งเท่านั้น และทั้งสองทีมต่างก็เก็บชัยชนะได้ทีมละ 1 นัดเท่ากัน นักเตะที่น่าจับตามอง แพทริค แบมฟอร์ด หลังจากที่ฟอร์มเก่งหดหายไปนาน ตอนนี้แบมฟอร์ดกลับมาพังประตูได้อีกครั้งและเขาซัดไปแล้ว 3 ประตูจาก 2 เกมหลังสุดอีกด้วย เขาจะลงเล่นในเกมนี้ด้วยความมั่นใจหลังจากที่พึ่งยิงประตูใส่คาร์ดิฟฟ์มามาด ๆ ในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอแวน โทนี่ย์ “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” น่าจะเป็นประโยคเดียวที่อธิบายความเฉลียวฉลาดของนักเตะคนนี้ได้ในขณะนี้ เขามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมหน้าปากประตูและเขาก็หวังว่าจะทำประตูได้มากขึ้นในขณะที่เบรนท์ฟอร์ดกำลังพยายามไต่ขึ้นไปอยู่บนหัวตาราง

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด ฟูแล่ม 2-1 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เกร็ดน่ารู้ ฟูแล่มเกือบจะพลาดท่าให้กับนิวคาสเซิลแล้วในเกมที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ต้องขอบคุณประตูในช่วงท้ายเกมของอเล็กซานเดอร์ ไอซัค ส่วนอเล็กซานเดอร์ มิโตรวิชกลับพลาดจุดโทษไปอย่างน่าเสียดาย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ไม่สามารถรั้งสกอร์ที่นำอยู่ 2-0 ในช่วงจบครึ่งแรกได้ในเกมที่พวกเขาพลาดท่าพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปด้วยสกอร์ 4-2 ที่เอทิฮัด สเตเดี้ยม ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด ฟูแล่ม – แพ้-ชนะ-ชนะ-ชนะ-ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ – แพ้-ชนะ-แพ้-ชนะ-เสมอ สถิติระหว่างทั้งสองทีม 4 เกมหลังสุดที่ทั้งสองทีมเจอกันนั้นเป็นเกมที่สูสีกันมาก โดยเป็นสเปอร์ที่เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปได้ 3 เกมและเสมอกันไปอีก 1 เกม ฟูแล่มเก็บชัยชนะได้ 4 จาก 5 เกมหลังสุดในลีกและยังเก็บ 3 คะแนนได้ในเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์กับเชลซีอีกด้วย นักเตะที่น่าจับตามอง อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช ถึงแม้ว่าเขาจะทำประตูจากลูกจุดโทษไม่ได้ในเกมกับนิวคาสเซิล ดาวยิงเลือดเซิร์บก็ยังถือเป็นนักเตะคนสำคัญที่สุดในทีมและเขาจะกลับคืนฟอร์มเก่งได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอน แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษถือว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ให้กับสเปอร์ ถึงแม้ว่าฟอร์มของสเปอร์จะสวนทางกันก็ตาม แต่เขาก็ยังคงทำลายสถิติของจิมมี่ กรีฟส์ได้และเขาก็หวังที่จะพังประตูเพิ่มอีกให้ได้ในเกมนี้

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด อาร์เซนอล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากสองทีมที่ไม่ได้จบใน 4 อันดับแรกของตารางเมื่อฤดูกาลที่แล้ว กลับกลายมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสำหรับทั้งอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตลอดช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ทั้งสองทีมเคยเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลอังกฤษในอดีต แต่ตอนนี้มันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกแล้ว ตอนนี้ทั้งสองทีมกำลังจะกลับมาทวงบัลลังก์นั้นอีกครั้ง เกมในวันอาทิตย์นี้ อาร์เซนอลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นอีกหนึ่งเกมตัดสินแชมป์อีกครั้ง เกร็ดน่ารู้ อาร์เซนอลเป็นหนึ่งในสองทีมที่ยังไม่แพ้ใครในบ้านในฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ดคืออีกทีมที่ยังไม่แพ้ใครในบ้านเช่นกัน เมื่อพวกเขาได้ลงเล่นในบ้าน พวกเขาทำได้ 23 ประตูและเสียประตูไปเพียงแค่ 8 ลูกเท่านั้น ซึ่งมีเพียงทีมเดียวที่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่าพวกเขา นั่นก็คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงแม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะไร้พ่ายในเกมนอกบ้านมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถเก็บชัยชนะนอกบ้านกับทีมระดับท็อปซิกส์ได้เลยในฤดูกาลนี้ ฟอร์ม: อาร์เซนอล  เรื่องราวของอาร์เซนอลในฤดูกาลนี้นั้นอาจจะแตกต่างออกไป หากไม่ใช่เป็นเพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เก็บชัยชนะเหนือพวกเขาไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วยังคงเป็นความพ่ายแพ้เพียงแค่นัดเดียวของพวกเขาในฤดูกาลนี้ หากไม่เช่นนั้นแล้ว ไอ้ปืนใหญ่คงจะถูกพูดถึงในฐานะทีมที่พยายามจะคว้าแชมป์แบบไร้พ่ายให้ได้อีกครั้ง นับตั้งแต่ที่พวกเขาแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาลงเล่นไปแล้ว 12 นัดและทำแต้มหล่นไปเพียง 2 แต้มและยังไม่แพ้ใครอีกเลยนับจากนั้นเป็นต้นมา การแก้แค้นกับทีม ๆ เดียวที่เอาชนะพวกเขาได้ในฤดูกาลนี้คงจะเป็นอะไรที่สะใจเอามาก ๆ หากมองถึงความเป็นจริงที่ว่าชัยชนะในเกมนี้จะช่วยเพิ่มช่องว่างทิ้งห่างรองจ่าฝูงถึง 11 คะแนน ช่องว่างขนาดนี้สามารถทำให้พวกเขาไปถึงแชมป์ได้เลยล่ะ ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ผ่านมาแล้ว 19 เกมและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงเป็นทีมเดียวที่เอาชนะอาร์เซน่อลได้ ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเขาก่อนที่จะลงเล่นในเกมบิ๊กแมตช์นี้อย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่เกมที่ง่ายแน่ ๆ โมเมนตั้มที่พวกเขาสร้างขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นยอดเยี่ยมเอามาก ๆ แต่โมเมนตั้มเหล่านั้นกลับแผ่วลงจากเกมกลางสัปดาห์เมื่อพวกเขาทำแต้มหล่นในเกมที่เจอกับคริสตัล พาเลซ พวกเขาพลาดโอกาสในการลดช่องว่างกับอาร์เซนอลให้เหลือเพียง 6 แต้มและที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้น พวกเขาจะไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับคนสำคัญของทีมอย่างคาเซมิโร่ ห้องเครื่องทีมชาติบราซิลได้รับใบเหลืองจากการเข้าสกัดช้าใส่วิลเฟร็ด ซาฮาและเขาจะติดโทษแบนในเกมบิ๊กแมตช์ที่พวกเขาจะออกไปเยือนอาร์เซนอลในสุดสัปดาห์นี้ นั่นทำให้งานของพวกเขายิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ผู้จัดการทีมของปิศาจแดงอย่างเอริค เทน ฮากนั้นดูเหมือนจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรซักเท่าไหร่จากบทสัมภาษณ์หลังจบเกมของเขา “ครั้งล่าสุดที่พวกเราเอาชนะอาร์เซนอลได้นั้นเรายังไม่มีคาเซมิโร่เลย ครั้งนี้เราก็จะทำแบบเดียวกัน แค่นั้นแหละ” สถิติระหว่างอาร์เซนอล vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาร์เซน่อลเก็บชัยชนะได้ 3 จาก 4 เกมหลังสุดที่พวกเขาเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลานั้น พวกเขายิงไป…

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด คริสตัล พาเลซ 1-3 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เกร็ดน่ารู้ คริสตัล พาเลซ ได้ฟรีคิกสุดสวยของมิเคล โอลิเซ่ในช่วงท้ายเกมตีเสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ทีมไม่ต้องแพ้คาบ้านได้อย่างหวุดหวิด นิวคาสเซิลก็เกือบจะไม่ชนะเหมือนกัน เพราะฟูแล่มที่นักเตะตัวจริงหายเจ็บกลับมาครบเต็มทีมนั้นก็ทนทายาดมาก พวกเขาต้องรอถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บถึงจะได้ประตูชัยจากอเล็กซานเดอร์ ไอซัค ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด คริสตัล พาเลซ – เสมอ,แพ้,แพ้,ชนะ,แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด- ชนะ,เสมอ,เสมอ,ชนะ,ชนะ สถิติระหว่างทั้งสองทีม เกมระหว่างทั้งสองเป็นเกมตึงมาโดยตลอด สังเกตได้จากการที่ในการเจอกันสามครั้งหลังสุด ไม่มีเกมไหนเลยที่ยิงกันมากกว่าสองประตู เมื่อผ่านไป 19 นัดในฤดูกาลก่อน นิวคาสเซิลรั้งอันดับที่ 19 รองบ๊วยเพียงอันดับเดียวเท่านั้น แต่เมื่อผ่านไป 19 นัดในฤดูกาลนี้ พวกเขาอยู่ในอันดับที่สี่แล้ว ไม่มีนัดไหนเลยที่ทั้งสองทีมชนะ-แพ้กันขาดเกินหนึ่งสกอร์ในการเจอกันห้าครั้งหลังสุด ไม่เสมอกันก็เฉือนชนะกันลูกเดียว โดยครั้งล่าสุดที่เจอกัน เป็นคริสตัล พาเลซที่เปิดบ้านยันเสมอนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดไปได้แบบไร้สกอร์ นักเตะที่น่าจับตามอง มิเคล โอลิเซ่ ดาวเตะหนุ่มสองสัญชาตินั้นฟอร์มเข้าตาเหลือเกินในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดท้ายด้วยการทำประตูตีเสมอให้กับทีมได้อย่างสวยสดงดงามจนมีสิทธิลุ้นรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้ได้เลย อเล็กซานเดอร์ อิซัค หัวหอกชาวสวีดิชกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการทำประตูได้ในทันที และการเจอกับทีมปราสาทเรือนแก้วในครั้งนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ทำสกอร์ตีตื้นกองหน้าคนอื่น ๆ ที่ยิงนำเข้าไปมากในช่วงที่เขาได้รับบาดเจ็บไ

Read More