Author: admin

ผลการแข่งขันที่คาด เอซี มิลาน 0-2 เชลซี ต่ำ 2.5 ลูก ต่อเชลซี -1.00 ลูก เกร็ดน่ารู้ เชลซียังไม่เสียประตูเลยตลอด 2 นัดหลังสุด ตอนนี้ เชลซียิงได้อย่างน้อย 2 ประตูตลอด 3 เกมหลังสุด เอซี มิลานไม่สามารถพังประตูได้ในเกมนัดที่ 2 นับตั้งแต่เดือนเมษายนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่พวกเขาพ่ายให้กับเชลซี เอซี มิลานเก็บคลีนชีทได้เพียงเกมเดียวตลอด 7 นัดหลังสุด ฟอร์ม: เอซี มิลาน หลังจากแพ้นัดแรกในการเจอกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยสกอร์ที่น่าผิดหวังถึง 3-0 ทีมปีศาจแดงดำได้กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเอาชนะคู่ปรับอย่างยูเวนตุสไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมเซเรีย อาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟิกาโย่ โทโมริและบราฮิม ดิอาซต่างทำประตูได้ในเกมที่มิลานเล่นได้ค่อนข้างโดดเด่นและคุมเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่เชลซีสมควรที่จะเอาชนะไปได้ในเกมแรกที่พวกเขาพบกับเอซี มิลาน ทีมจากเมืองมิลานก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในเกมนัดนั้นและแถมยังขาดนักเตะตัวหลักถึง 6 คนอีกด้วย พวกเขาจะโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาเพื่อลุ้นโอกาสในการผ่านเข้ารอบอย่างแน่นอน ฟอร์ม: เชลซี เชลซีเริ่มโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นภายใต้การคุมทีมของเกรแฮม พ็อตเตอร์ โดยการที่พวกเขาเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 3-0 ติดต่อกัน 2 นัดจากที่พวกเขาพึ่งเอาชนะวูล์ฟได้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมสิงห์บลูส์กลับมาดูดีอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวรุกและพวกเขาจะมองหาโอกาสที่พวกเขาจะย่ำแค้นใส่มิลานอีกครั้งในบ้านของพวกเขาเอง นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เชลซีเก็บคลีนชีทได้ 2 เกมติดต่อกันและพ็อตเตอร์ก็ต้องการหยุดแนวรุกของมิลานเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์ให้จงได สถิติที่น่าสนใจในเกมระหว่างเอซี มิลาน VS เชลซี ทั้ง 2 ทีมเคยเจอกันมาแล้ว 6 เกมในศตวรรษก่อนหน้า สถิติคือเชลซีข่มอยู่โดยเอาชนะไปได้ 2 นัด ในขณะที่มิลานชนะได้ 1 นัดและที่เหลืออีก 3 นัดนั้นจบลงด้วยผลเสมอกัน เชลซีจะลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดถัดไป โดยมีค่าเฉลี่ยที่ยิงประตูได้ 6 ประตูต่อเกมใน 10 นัดหลังสุด โดยพวกเขายิงประตูได้ 20 ลูก โดยเสียไป 13 ประตู คิดเป็นค่าเฉลี่ย 1.6…

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด โคเปนเฮเก้น 0-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สูง 2.5 ลูก ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ -2.00 ลูก เกร็ดน่ารู้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยิงประตูได้อย่างน้อย 3 ประตูตลอด 5 ใน 6 เกมหลังสุดของพวกเขา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังคงเป็นเดียวที่ไร้พ่ายในฤดูกาลนี้ (รวมทุกรายการ) โคเปนเฮเก้นทำประตูได้เพียง 3 ประตูจาก 5 เกมรวมทุกรายการ โคเปนเฮเก้นเสียประตูอย่างน้อย 2 ประตูตลอด 3 ใน 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ฟอร์ม: โคเปนเฮเก้น โคเปนเฮเก้นคงจะต้องส่ายหัวในการที่จะต้องลงเล่นกับทีมที่บ้าพลังอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะหลังจากที่พวกเขาพึ่งแพ้ให้กับลูกทีมของกวาร์ดิโอล่ามาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปด้วยสกอร์ถึง 5-0 ทีมจากเดนมาร์คกำลังอยู่ในช่วงที่เล่นได้อย่างย่ำแย่เมื่อพวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวใน 7 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ นอกจากนี้ พวกเขายังจมบ๊วยอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกและเก็บได้เพียง 1 คะแนน ความพ่ายแพ้อีกนัดเดียวอาจจะหมายถึงการปิดประตูสำหรับโอกาสในการผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกก็เป็นได้ ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เรือใบสีฟ้ากำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มสุด ๆ และพวกเขาก็ดูไม่มีท่าทีที่จะลดคันเร่งลงเลยในตอนนี้ หลังจากที่พวกเขาเอาชนะโคเปนเฮเก้นไปได้ด้วยสกอร์ 5-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาก็ถล่มเซาแธมป์ตันไปอีกด้วยสกอร์ 4-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับสกอร์ที่เราคาดเดาเอาไว้ไม่มีผิด ทีมเรือใบสีฟ้ากำลังอยู่ในเส้นทางในการยิงประตูแตะหลัก 100 ประตูก่อนที่จะจบฤดูกาลหากพวกเขายังคงถล่มประตูแบบนี้ต่อไปและมันก็มีเหตุผลมากพอที่จะเชื่อว่าพวกเขาจะทำได้สำเร็จอีกด้วย ลูกทีมของกวาร์ดิโอล่าจะคงไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้และโคเปนเฮเก้นก็ไม่ใช่ทีมที่มีคุณภาพมากพอที่จะทำให้ทีมเรือใบสีฟ้ากดดันได้เลย สถิติที่น่าสนใจในเกมระหว่างโคเปนเฮเก้น VS แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เก็บชัยชนะมา 6 นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว นี่จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ทั้ง 2 ทีมจะเจอกันในแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถล่มโคเปนเฮเก้นไปได้ด้วยสกอร์ 5-0 ในเกมที่ทั้ง 2 เจอกันนัดก่อนหน้านี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่แพ้ใครตลอด 10 นัดหลังสุด โคเปนเฮเก้นเก็บคลีนชีทได้เพียง 2 นัดจาก 7 นัดหลังสุด โคเปนเฮเก้นยิงประตูได้ไม่เกิน…

Read More

ความสวยงามของฟุตบอลคือการที่สามารถฟุตบอลนั้นไม่มีแผนที่ดีที่สุดแบบตายตัวและไม่มีวิธีที่เป็นรูปธรรมในการประสบความสำเร็จ ตราบใดที่มีแผนการเล่น และดวงสักนิดหนึ่ง ทีมไหน ๆ ก็สามารถพลิกล็อกเอาชนะกันได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทีมที่ดีที่สุดทำมาตลอดคือการลดความน่าจะเป็นที่จะเกิดการพลิกล็อกนั้นขึ้น เป้าหมายของผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ความน่าจะเป็นในการที่จะแพ้ในเกมการแข่งขันนั้นให้ใกล้เคียงกับความเป็นไปได้ให้น้อยมากที่สุดและพวกเขาได้กำหนดแผน/แทคติกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนั้นในยุคปัจจุบันคือการเล่นฟุตบอลโดยเน้นการครองบอล นี่ไม่ใช่แนวคิดใหม่ที่ทันสมัย แต่ทีมชั้นนำในวงการฟุตบอลในยุคปัจจุบันนี้ก็เล่นฟุตบอลแนวรุกโดยการครองบอลมากมายหลายทีม ทีมเหล่านี้ทำทุกอย่างที่เป็นไปได้ทั้งเกมรุกและเกมรับเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะครองบอลได้เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่ามันทำให้พวกเขามีโอกาสสร้างโอกาสในการทำประตูและยิงประตูได้ดีที่สุด ผู้จัดการทีม 3 คนที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ได้แก่ชาบี้ของบาร์เซโลน่า, มิเกล อาร์เตต้าของอาร์เซน่อลและชายที่พวกเขาเคยทำงานด้วยทั้งในฐานะนักเตะหรือผู้จัดการทีม คนที่พวกเรารู้จักกันดี นั่นก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่าจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามทีมนี้เป็นทีมฟุตบอลที่ครองบอลได้ดีที่สุดสามทีมในยุโรปและตำแหน่งในลีกก็บ่งบอกถึงข้อเท็จจริงนั้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับ พวกเขาตั้งเป้าที่จะคุมพื้นที่และกดดันคู่แข่งโดยการเก็บบอลให้ไกลจากประตูของตัวเองให้นานที่สุดโดยใช้แนวรับที่สูงตรึงคู่แข่งเอาไว้ในแดนของตัวพวกเขาเองและดันขึ้นสูงเพื่อขัดขวางเกมสวนกลับและเอาบอลกลับมาครองในทันที ในบทความนี้ เราจะแสดงให้เห็นถึงประเด็นสำคัญบางประการที่ช่วยให้พวกเขาสามารถครองเกมได้แบบสมบูรณ์เกือบทุกนัด การคุมและใช้พื้นที่กับฟูลแบ็คแบบอินเวิร์ต ลักษณะที่พบบ่อยที่สุดในทีมของพวกเขาคือการใช้อินเวิร์ตฟูลแบ็คอินเวิร์ตในการครองบอล มันเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพทั้งในเกมรุกและเกมรับสำหรับทีมเหล่านี้ เมื่ออินเวิร์ตฟูลแบ็คได้บอลหรือทำเกมรุก พวกเขาจะดันขึ้นมาถึงกลางสนามในตำแหน่งกองกลางและยืนในรูปแบบกองกลางสามคนในขณะที่มิดฟิลด์หมายเลข 8 สองคนดันขึ้นหน้าเพื่อคุมแนวรุกเพื่อสร้างแผนการเล่นรูปแบบ 2-3-5 ในพื้นที่สุดท้าย เหตุผลสำหรับรูปแบบแผนการเล่น 2-3-5 นี้คือนักเตะแต่ละคนจะคุมพื้นที่ทั้งหมดทั่วทั้งแดนมิดฟิลด์และโจมตีและดันแนวรับให้ถอยหลังไป ปีกจะอยู่กว้างออกไปเพื่อคอยดันฟูลแบ็ค มิดฟิลด์ตัวกลาง (มิดฟิดล์หมายเลข 8) คุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์แบ็คและฟูลแบ็คและกองหน้าจะยังคงอยู่ตรงกลางระหว่างเซ็นเตอร์แบ็คทั้ง 2 คน ตัวนักเตะอาจเปลี่ยนจะสลับตำแหน่งกันได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่หลักการยึดคุมพื้นที่นั้นยังคงเหมือนเดิม เริ่มจากการแทคติคของอาร์เซน่อลในชัยชนะเหนือท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 ในเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ภาพด้านล่างจะแสดงให้เห็นถึงแทคติคที่คล้ายคลึงกับบาร์เซโลน่าและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กองหลัง 2 คนยืนอยู่กับฟูลแบ็ค (ไวท์และซินเชนโก้หุบเข้าใน ลูกศรชี้ไปที่เบน ไวท์ที่กำลังครองบอลไปถึงซินเชนโก้ที่อยู่ทางขวามือด้านล่างของรูป) (จังหวะก่อนที่ปาร์เตย์จะทำประตูได้ คุณจะเห็นนักเตะตัวรุก 5 คนของอาร์เซน่อลอยู่ในแดนหน้าพร้อมกับนักเตะ 3 คน (ปาร์เตย์, ซินเซนโก้และไวท์ที่อยู่ด้านหลัง) ไฮไลท์นักเตะอาร์เซน่อล 5 คนที่อยู่ในแดนหน้า) เราลองย้ายไปดูที่สเปนกันบ้างดีกว่า เพราะบาร์เซโลน่าของชาบี้ก็ใช้การเข้าทำที่คล้ายคลึงกัน (นี่คือบาร์เซโลน่าที่มีนักเตะถึง 5 คนที่อยู่ในแดนบนและมีนักเตะอีก 3 คนคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง) (เจา กันเซโล่ลองยิงไกล คุณจะเห็นได้ว่าเขายืนอยู่กับสโตนส์และโรดรี้รวมเป็น 3 คนในขณะที่มีนักเตะ 5 คนยืนอยู่ในแนวรุก นักเตะ 5 คนไฮไลท์พร้อมกับลูกศรจากลูกยิงของกันเซโล่) ตามที่คุณเห็นในภาพ ในแผนการเล่นนี้คุณจะมีผู้เล่นที่คุมพื้นที่ในแดนกลาง ครึ่งสนามและแนวกว้างและไม่มีนักเตะ 2 คนยืนซ้อนกันอยู่ในแนวเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่าการสร้างมุมการจ่ายบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นอินเวิร์ตฟูลแบ็คจะมีตัวเลือกที่แตกต่างออกไปจากตำแหน่งของพวกเขา ในบทบาทนั้น พวกเขาสามารถทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ในแดนกลางที่สามารถครองบอลได้ ทำให้มีทางเลือกในการเปิดบอลจากแนวลึก…

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด เอฟเวอร์ตัน 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูง 2.5 ลูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรอง +1 ลูก เกร็ดน่ารู้ เอฟเวอร์ตันไม่แพ้ใครใน 6 เกมลีกหลังสุด (ชนะ 2 เสมอ 4) ซึ่งพวกเขามีสถิติที่ยาวนานกว่านี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2017 (7 เกม) ในขณะที่พวกเขามีสถิติไม่แพ้ใครนานกว่านั้นภายใต้ผู้จัดการทีมคนเดียวระหว่างเดือนธันวาคม 2016 ถึงกุมภาพันธ์ 2017 (9 เกมภายใต้การคุมทีมของโรนัลด์ คูมันน์) นับเฉพาะในลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียประตู 71% ของพวกเขาในช่วงครึ่งแรกของเกมในฤดูกาลนี้ (10 จาก 14 ประตู) อันที่จริงแล้ว 10 ประตูของพวกเขาที่เสียในช่วงครึ่งแรกนั้นมากกว่าที่เอฟเวอร์ตันเสีย 3 ประตู โดยที่ทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินมีสถิติเกมรับที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ (เสียไปเพียง 7 ประตูเท่านั้น) ฟอร์ม เอฟเวอร์ตัน: ชนะ-ชนะ-เสมอ-เสมอ-เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: แพ้-ชนะ-ชนะ-ชนะ-ชนะ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างเอฟเวอร์ตัน vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 ในเดือนเมษายน เอฟเวอร์ตันกำลังมองหาชัยชนะติดต่อกันในเกมพรีเมียร์ลีกกับปิศาจแดงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะได้ทั้ง 2 เกมเหย้าเยือนในฤดูกาล 2013-14 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชนะไปเพียงเกมเดียวจากใน 7 เกมหลังสุดของพวกเขาพบกับเอฟเวอร์ตันในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 4 แพ้ 2) ซึ่งเป็นชัยชนะด้วยสกอร์ 3-1 ในเดือนพฤศจิกายน 2020 พวกเขาเอาชนะทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินไปได้ถึง 5 จาก 7 เกมก่อนหน้านี้ นักเตะที่น่าจับตามอง แอนโธนี่ กอร์ดอน ดาวยิงของเอฟเวอร์ตันถือเป็นนักเตะคนสำคัญให้กับทีมของเขานับตั้งแต่ที่เขาก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ แอนโธนี่ ดาวรุ่งเลือดแซมบ้ากำลังมองหาโอกาสในการทำประตูเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันในเกมที่พวกเขาออกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน 

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-2 แอสตัน วิลล่า สูง 2.5 ลูก รองแอสตัน วิลล่า +1 ลูก เกร็ดน่ารู้ 9 จาก 21 ประตูที่น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์เสียในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มาจากลูกที่โดนยิงนอกกรอบเขตโทษ (คิดเป็น 43%) มากกว่าทีมอื่น ๆ ที่เสียประตูนอกกรอบเขตโทษ พวกเขาเสียประตูอย่างน้อย 1 ประตูจากนอกกรอบเขตโทษใน 6 นัดหลังสุด ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แอชลีย์ ยังสร้างโอกาสห้าครั้งให้กับแอสตัน วิลล่าในเกมที่พวกเขาเสมอกับลีดส์ไปแบบไร้สกอร์ในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 ที่เขาทำให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเกมที่เจอกับนิวคาสเซิ่ล (6 ครั้ง) ด้วยวัย 37 ปีกับอีก 85 วัน เขาเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดที่สร้างโอกาสมากขนาดนี้ในเกมพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่พอล สโคลส์ในเดือนเมษายน 2012 ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเด็ดในเกมที่เจอกับควีน ปาร์ค เรนเจอร์ส (37 ปี 144 วัน) ซึ่งเป็นเกมที่แอชลีย์ ยังก็อยู่ในสนามเช่นกัน ฟอร์ม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์: แพ้-แพ้-แพ้-แพ้-แพ้ แอสตัน วิลล่า: เสมอ-ชนะ-เสมอ-แพ้-แพ้ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างเกมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ VS แอสตัน วิลล่า นี่ถือเป็นเกมลีกเกมที่แรกที่น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์โคจรมาพบกับแอสตัน วิลล่านับตั้งแต่เกมแชมเปี้ยนชิพฤดูกาล 2018-19 เกมนั้นจบลงด้วยวิลล่าเอาชนะไปได้ 3-1 อีกเกมหนึ่งในฤดูกาลนั้นเป็นเกมที่จบลงด้วยผลเสมอ 5-5 ที่วิลล่า ปาร์ค ในพรีเมียร์ลีก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์เอาชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 10 เกมหลังสุดที่พวกเขาเจอกับแอสตัน วิลล่านับตั้งแต่ปี 1992-1999 (เสมอ 4 แพ้ 5) เกมเดียวที่พวกเขาเอาชนะวิลล่าได้นั้นเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 1994 โดยผู้ตัดสินในเกมนั้นคือคีธ คูเปอร์…

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด อาร์เซน่อล 2-1 ลิเวอร์พูล สูง 2.5 ลูก รองอาร์เซน่อล +1.00 ลูก สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ อาร์เซน่อลเก็บชัยชนะได้ถึง 8 จาก 9 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ลิเวอร์พูลเอาเพิ่งเอาชนะได้เพียง 2 เกมเท่านั้นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อลทำประตูได้มากกว่า 5 ลูกใน 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ลิเวอร์พูลเก็บคลีนชีทได้เพียง 3 เกมจาก 10 เกมหลังสุดรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ ฟอร์ม: อาร์เซน่อล อาร์เซน่อลยังคงเป็นจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีกและพวกเขาจะลงสนามในเกมนี้ด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมากหลังจากที่พึ่งเก็บ 3 คะแนนเหนือท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สในเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ไปด้วยสกอร์ 3-1 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประตูจากโธมัส ปาร์เตย์, กาเบรียล เชซุสและกรานิต ชาก้าช่วยให้ไอ้ปืนใหญ่เก็บ 3 คะแนนเต็มเพื่อโชว์ให้เห็นถึงความหวังในการลุ้นแย่งแชมป์ของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะต้องพบกับอีกบททดสอบใหญ่ในการเจอกับลิเวอร์พูลและพวกเขาจะต้องโชว์ฟอร์มที่สุดยอดออกมาในการที่จะเก็บ 3 คะแนนเต็มในเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ถึงแม้ว่าหงส์แดงจะอยู่ในช่วงที่กำลังฟอร์มดร็อปก็ตาม ฟอร์ม: ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูลอาจจะเพิ่งกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะด้วยการเอาชนะเรนเจอร์สในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อคืนวันอังคารไปด้วยสกอร์ 2-0 แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าพวกเขาเพิ่งเก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัดจาก 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการและยังคงโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานของพวกเขาอยู่ดี ในตอนนี้ คุณจะต้องเลื่อนลงมาดูถึงอันดับที่ 9 บนตารางคะแนนกว่าจะเจอลิเวอร์พูล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าขันสำหรับทีมที่ถูกคาดหวังว่าจะมาท้าดวลแย่งแชมป์กับทีมเรือใบสีฟ้าอีกฤดูกาลหนึ่ง ลิเวอร์พูลสามารถเบาใจได้บ้างในเรื่องที่ว่าพวกเขามีสถิติที่ข่มอาร์เซน่อลอยู่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่นี่เป็นทีมอาร์เซน่อลที่แตกต่างออกไป   สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างอาร์เซน่อล VS ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อลเอาชนะได้เพียง 1 ใน 14 เกมลีกหลังสุดที่พบกับลิเวอร์พูล (เสมอ 4 แพ้ 9) ซึ่งเกมนั้นเป็นเกมเหย้าที่พวกเขาเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในเดือนกรกฎาคม 2020 พวกเขาแพ้ 4 เกมหลังจากนั้นติดต่อกัน แต่อย่างไรก็ดี พวกเขาไม่เคยแพ้ 5…

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด เวสต์แฮม 1-0 ฟูแล่ม ต่ำ 2.5 ลูก รองเวสต์แฮม +1 ลูก เกร็ดน่ารู้ หลังจากที่พวกเขาเอาชนะวูล์ฟไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เวสต์แฮมกำลังมองหาชัยชนะในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ทำได้ 3 เกมติดต่อกันในเดือนธันวาคม-มกราคมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เหล่าขุนค้อนแพ้ 2 จาก 3 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกกับทีมที่พึ่งได้รับการเลื่อนชั้นขึ้นมา (ชนะ 1) มากเท่ากับใน 16 เกมก่อนหน้าของพวกเขา ฟูแล่มสลับกันชนะ (3 นัด) และแพ้ (3 นัด) ในพรีเมียร์ลีก 6 เกมหลังสุด โดยแพ้ 4-1 ในบ้านให้กับนิวคาสเซิลในเกมนัดที่แล้ว, ชัยชนะ 3 นัดของทีมเจ้าสัวในพรีเมียร์ลีกนั้นมีมากเท่ากับที่พวกเขาทำได้ในเกมพรีเมียร์ลีก 30 เกมก่อนหน้านี้รวมกันเสียอีก ฟอร์ม เวสต์แฮม: ชนะ-แพ้-แพ้-เสมอ-ชนะ ฟูแล่ม: แพ้-ชนะ-แพ้-ชนะ-แพ้ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างเวสต์แฮม VS ฟูแล่ม ผู้จัดการทีมเวสต์แฮมอย่างเดวิด มอยส์เก็บชัยชนะได้ 13 จาก 14 เกมลีกที่ลงเล่นในบ้านที่พบกับฟูแล่ม (เสมอ 1) โดยเกมแรกของเขาคือชัยชนะด้วยสกอร์ 2-1 ในบ้านในฐานะกุนซือของเอฟเวอร์ตันในเดือนมีนาคม 2002 ในบรรดาผู้จัดการทีมที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้มากกว่า 10 คนในเกมในบ้าน มีเพียงอาร์แซน เวนเกอร์ที่คุมทีมเจอกับเลสเตอร์เท่านั้น (100%, ชนะ 11 เกมรวด) ที่มีอัตราส่วนการชนะที่สูงกว่ามอยส์คุมทีมเจอกับฟูแล่ม (93%) อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช หัวหอกฟอร์มแรงของฟูแล่มทำประตูได้ในเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ทั้ง 3 นัดในฤดูกาลนี้ (เกมที่เจอกับเบรนท์ฟอร์ด, อาร์เซน่อลและท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส) โดยทำประตูได้เพียงลูกเดียวจาก 17 เกมแรกของเขาในลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ก่อนหน้านี้ นักเตะที่น่าจับตามอง ดีแคลน ไรซ์…

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด คริสตัล พาเลซ 3-1 ลีดส์ สูง 2.5 ลูก ต่อคริสตัล พาเลซ -1 ลูก เกร็ดน่ารู้ แพทริค แบมฟอร์ด กองหน้าของลีดส์ยิงประตูได้ 4 ลูกจาก 6 เกมลีกหลังสุดที่ลงเล่นเจอกับทีมเก่าของเขาในลีก 2 ประตูนั้นเกิดขึ้นในเกมที่พบกับพาเลซ (อีก 2 ประตูในเกมกับเบิร์นลีย์) มีเพียงเกล็นน์ เมอร์เรย์ (3) เท่านั้นที่ยิงพาเลซได้มากกว่านับเฉพาะผู้เล่นที่เคยเล่นให้กับพวกเขา ในขณะเดียวกัน คอนอร์ กัลลาเกอร์ที่ทำประตูชัยให้กับเชลซีในเกมล่าสุดที่พบกับพาเลซนั้น ก็เคยลงเล่นให้กับพาเลซถึง 34 นัดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มีเพียงแดเนี่ยล โพเดนซ์ (67%) ที่มีเปอร์เซ็นต์การทำประตูให้ทีมในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้สูงกว่าวิลเฟร็ด ซาฮา (50%) ซึ่งซาฮายิงให้คริสตัล พาเลซไปแล้ว 4 จาก 8 ประตูที่ทีมทำได้ในฤดูกาลนี้ ฟอร์ม วูล์ฟ: แพ้-แพ้-ชนะ-เสมอ-เสมอ ลีดส์: เสมอ-แพ้-เสมอ-แพ้-ชนะ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างคริสตัล พาเลซ VS ลีดส์ คริสตัล พาเลซยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไม่ได้เลยตลอด 3 นัดที่ผ่านมาในเกมที่พบกับลีดส์ (เสมอ 1 แพ้ 2) หลังจากที่พวกเขาทำประตูได้ถึง 4 ลูกในเกมก่อนหน้าที่พบกัน ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของพวกเขาในบ้านด้วยสกอร์ 4-1 ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ลีดส์เอาชนะคริสตัล พาเลซไม่ได้เลยตลอด 6 เกมหลังสุดที่พวกเขาออกไปเยือนทีมปราสาทเรือนแก้ว (เสมอ 3 แพ้ 3) นับตั้งแต่เอาชนะได้ 3 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่ 1994-2006 นักเตะที่น่าจับตามอง วิลฟรีด ซาฮา วิลเฟร็ด ซาฮาถือเป็นนักเตะตัวอันตรายสำหรับทุกทีมที่ต้องเจอกับลีลาและความเร็วของเขาและเขาจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่เราต้องจับตาดูเลยล่ะ โรดริโก้ ดาวยิงเลือดกระทิงดุอาจจะยังไม่ได้อยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีที่สุด แต่เขาก็ถือเป็นตัวอันตรายที่สุดของทีมยูงทองเลยล่ะ

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด ไบรท์ตัน 1-2 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส สูง 2.5 ลูก รองไบรท์ตัน +1 ลูก เกร็ดน่ารู้ เลอันโดร ทรอสซาร์ทำประตูได้ถึง 5 ประตูจาก 7 เกมในพรีเมียร์ลีกให้กับไบรท์ตันในฤดูกาลนี้ รวมถึงแฮตทริคในเกมที่เจอกับลิเวอร์พูลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพียงแค่ในฤดูกาล 2021-22 (8 ประตู) เท่านั้นที่ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมทำประตูได้มากกว่านี้ในพรีเมียร์ลีก 1 ฤดูกาล ในขณะที่เขากำลังมองหาโอกาสในการทำประตูเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก แฮร์รี่ เคนของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูได้ 100 ประตูในพรีเมียร์ลีกในเกมที่พวกเขาพ่ายให้กับอาร์เซน่อลในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเคนทำประตูได้ 5 ประตูจาก 7 เกมหลังสุดในลีกที่พบกับไบรท์ตัน รวมถึง 3 ประตูใน 4 เกมที่ลงเล่นในถิ่นเอเม็กซ์ สเตเดี้ยมอีกด้วย ฟอร์ม ไบรท์ตัน: เสมอ-ชนะ-แพ้-ชนะ-ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส: แพ้-ชนะ-ชนะ-เสมอ-ชนะ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างไบรท์ตัน VS ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ไบรท์ตันเอาชนะได้ใน 2 จาก 3 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส (แพ้ 1) มากกว่าที่พวกเขาเคยทำได้ในการพบกับสเปอร์ส 7 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกเสียอีก (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 5)  หลังจากเอาชนะไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยนไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมที่ออกไปเยือนได้ในเดือนมีนาคม สเปอร์สกำลังมองหาชัยชนะในลีกสูงสุดติดต่อกันในการออกไปเยือนทีมนกนางนวลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เคยทำได้ 3 นัดติดต่อกันในระหว่างปี 1980-1982 นักเตะที่น่าจับตามอง เลอันโดร ทรอสซาร์ ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มร้อนแรงในฤดูกาลนี้ และดูเหมือนว่าเขาก็มีโอกาสที่จะทำประตูเพิ่มในเกมนัดนี้อีกด้วย แฮร์รี่ เคน เคนยังเป็นตัวอันตรายอยู่เสมอและเขาก็มีโอกาสที่จะทำได้ 1-2 ประตูในเกมนี้อีกด้วย

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 เบรนท์ฟอร์ด สูง 1.5 ลูก ต่อนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด -1 ลูก เกร็ดน่ารู้ เช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมในเกือบครึ่งจาก 15 ประตูในพรีเมียร์ลีกของเบรนท์ฟอร์ดในฤดูกาลนี้ (5 ประตู 2 แอสซิสต์) อีวาน โทนี่ย์มีโอกาสยิงได้มากกว่า (23 ครั้ง) และสร้างโอกาสทำประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์ (10 ครั้ง) มากกว่านักเตะคนอื่น ๆ ของเหล่าผึ้งพิฆาตในฤดูกาลนี้ กองหน้าของนิวคาสเซิลอย่างคัลลั่ม วิลสันทำประตูไปแล้ว 5 ประตูจากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 5 นัดหลังสุดและเขาก็กำลังมองหาโอกาสในการทำประตูในบ้านได้ 3 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ฟอร์ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด: ชนะ-เสมอ-เสมอ-แพ้-เสมอ เบรนท์ฟอร์ด: เสมอ-แพ้-ชนะ-เสมอ-เสมอ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด VS เบรนท์ฟอร์ด 5  นัดหลังสุดที่ทั้งสองพบกันในเซนต์ เจมส์ ปาร์ค มีประตูเกิดขึ้นถึง 24 ประตู โดยมีค่าเฉลี่ยต่อเกมถึง 4.8 ประตูต่อเกม ตลอดทั้ง 5 เกมนั้นเกิดขึ้นในทศวรรษที่ต่างกัน (1930s, 1940s, 1990s, 2010s, 2020s) ทีมจากลอนดอนไม่สามารถทำประตูได้ใน 3 เกมหลังสุดที่พวกเขาออกไปเยือนนิวคาสเซิล – เดอะ แม็กพายส์เสียประตูอย่างน้อย 1 ประตูใน 12 เกมก่อนหน้านั้น รวมทั้งหมดเป็น 29 ประตู นักเตะที่น่าจับตามอง อัลลัน แซงต์ แม็กซิแม็ง ปีกเลือดน้ำหอมถือเป็นตัวรุกที่อันตรายที่สุดในทีมสาลิกาดง เพราะเขาสามารถสร้างสรรค์เกมได้ไปพร้อม ๆ กับการทำประตู อีวาน โทนี่ย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษถือเป็น 1 ในดาวยิงระดับท็อปในพรีเมียร์ลีกและเป็นนักเตะที่เพิ่งได้รับโอกาสติดทีมชาติอังกฤษจากการทำงานหนักและผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาในฤดูกาลนี้อีกด้วย

Read More