- รายงานลิเวอร์พูล vs เลสเตอร์ซิตี้ 3-1: หงส์แดงขึ้นนำเหนือกว่าด้วยการชนะคัมแบ็ก
- รายงานน็อตติงแฮมฟอเรสต์ vs ท็อตแนม 1-0: ชนะอย่างแคบสำหรับแพ็คเกจเซอร์ไพรส์ของเปรม
- รายงาน Wolves vs Manchester United 2-0: เจ้าบ้านนัดหยุดงานเพื่อเอาชนะ Hapless United
- รายงานนิวคาสเซิ่ล vs แอสตันวิลล่า 3-0: แม็กพายส์ยังคงฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม
- รายงานเชลซี vs ฟูแล่ม 1-2: จุดพลิกผันในดาร์บี้ลอนดอนตะวันตก
- รายงานเซาแธมป์ตัน vs เวสต์แฮม 1-0: ขุนค้อนดึงความชัดเจนเพิ่มเติมจากโซนตกชั้นหลังจากชนะทีมเยือน
- รายงานบอร์นมัธ vs คริสตัล พาเลซ 0-0: พาเลซเก็บเชอร์รี่ไว้เสมอที่สนามไวทาลิตี้
- รายงานแมนเชสเตอร์ซิตี้ vs เอฟเวอร์ตัน 1-1: ท๊อฟฟี่จับคนของ Guardiola เพื่อจับฉลากในวันบ็อกซิ่งเดย์
Author: admin
วัตฟอร์ดจะต้องตกชั้นอย่างเป็นทางการทันที หากพวกเขาไม่สามารถบุกไปชนะคริสคัล พาเลซ ได้ถึงสนามเซลเฮิร์สต์ พาร์ค ในวันเสาร์นี้ และต่อให้พวกเขาชนะได้จริง ขอแค่เพียงเบิร์นลีย์ หรือ ลีดส์ เก็บชัยชนะได้เช่นกัน พวกเขาก็จะตกชั้นอยู่ดี ทางด้านพาเลซ พวกเขากลับมาฟอร์มดีชนะต่อเนื่องอีกครั้ง และยังมีสิทธิที่จะจบในครึ่งบนของตารางได้ ปัจจุบัน ทีมปราสาทเรือนแก้วมี 41 คะแนน และยังเหลือโปรแกรมลงเตะอีกสี่นัด ตามหลังนิวคาสเซิลอันดับสิบอยู่เพียงสองคะแนน และยังลงเล่นน้อยกว่าอยู่หนึ่งนัด
เชลซีเจ้าบ้านน่าจะเริ่มมีเสียวหลังแล้วบ้างเหมือนกัน จากการโดนเพื่อนร่วมเมืองทั้งสองไล่จี้เข้ามาติด ๆ แล้ว ในเกมวันเสาร์นี้พวกเขาจะเปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการเยือนของวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอรส์ ทีมสิงห์บลูเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้นจากสี่นัดล่าสุด เสมอไปหนึ่ง และแพ้อีกสอง ทำให้ทั้งอาร์เซนอล และ สเปอร์ส กลับมามีลุ้นในตำแหน่งอันดับสามอีกครั้ง อย่างไรก๋ดีทีมเยือนก็ปืนฝิด ยิงไม่ได้มากว่า 330 นาทีแล้ว รวมไปถึงแพ้มาสามนัดรวดในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล เบิร์นลีย์ และไบรท์ตัน ด้วยสกอร์รวม 5-0 ถึงวูล์ฟจะแพ้มาสามนัดรวด แต่พวกเขาก็น่าจะอยากหยุดฟอร์มบู่นี้ให้ได้เสียที ในเกมกับเชลซีในวันเสาร์นี้
เบิร์นลีย์ VS แอสตัน วิลล่า : เจ้าบ้านยังอยู่ในเส้นทางหนีตกชั้นของพวกเขาอยู่ และต้องการแต้มในเกมกับวิลล่า ในวันเสาร์นี้เป็นอย่างมาก หากพวกเขายังต้องการอยู่รอดในลีกต่อไป ตั้งแต่เบิร์นลีย์ไล่ ชอน ไดช์ กุนซือคนเก่าที่อยู่มานานถึง 7 ปีออกไปเมื่อวันที่ 15 เมษาที่ผ่านมา (ผลงานทีมตอนนั้น ชนะ 4 เสมอ 12 แพ้ 14) ทีมก็ผลงานดีขึ้นทันตาเห็น ในสี่นัดที่กุนซือขัดตาทัพอย่าง ไมค์ แจ็คสัน ลงคุมทีม พวกเขาเก็บได้ถึงสิบคะแนน ชนะสาม เสมอหนึ่ง และยังไม่แพ้ใคร ขยับจากอันดับ 18 ขึ้นมารั้งอันดับที่ 16 ในปัจจุบัน มีแต้มมากกว่าโซนตกชั้นอยู่สองคะแนน สำหรับทีมเยือน โครงการในการพัฒนาทีมระยะยาวของพวกเขาภายใต้นายช่างใหญ่อย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด เดินหน้าไปได้สวยเลยทีเดียว ในเกมล่าสุดของพวกเขา พวกเขาจัดการปราบนอริช และส่งทัพนกขมิ้นตกชั้นลงไปเล่นในศึก แชมป์เปียนชิป ในฤดูกาลหน้าอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ดีชัยชนะกับนอริชในเกมนี้เป็นเพียงชัยชนะนัดแรกในรอบหกเกมของพวกเขาเท่านั้น ซึ่งในรอบหกเกมนี้มีช่วงหนึ่งที่พวกเขาแพ้ถึงสี่นัดรวด ด้วยสกอร์รวม 9-2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเดินทางลงใต้ในเกมนี้ เพื่อลงเล่นที่เอเม็กซ์ สเตเดียม ของไบรท์ตัน เมืองทางตอนใต้ของอังกฤษ ลูกทีมของเกรแฮม พอตเตอร์ ปราบวูลฟ์แฮมป์ตันได้ถึงถิ่นในเกมก่อน ส่วนพลพรรคปีศาจแดงก็เก็บสามคะแนนสำคัญจาก เบรนต์ฟอร์ดได้เช่นกัน บรูโน่ แฟร์นันดส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ราฟาเอล วาราน ทำคนละหนึ่งประตุช่วยให้ทีมยังมีลุ้นไปเล่น ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าต่อไป อย่างไรก็ดีการที่พวกเขาจะได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้านั้นก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก และเอริก เทน ฮาก จะต้องมีของดีสักหน่อย หากจะพาทีมอดีตแชมป์ลีก 20 สมัย จบท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ได้
ก่อนเกมสุดระทึกนี้จะเริ่มต้นขึ้น ผู้จัดการทีมของเบรนต์ฟอร์ดอย่าง โทมัส แฟรงค์ อาจขาดผู้เล่นตัวหลักมากถึงห้าคน ในการที่พวกเขาจะเร่งเครื่องเพื่อจบภายในครึ่งตารางบนในฤดูกาลนี้ ซึ่งน่าจะต้องวัดกันถึงนัดสุดท้ายเสียด้วย ด้านทีมนักบุญยังคงต้องเดินหน้าหาชัยชนะนัดแรกในรอบสี่เกมล่าสุดต่อไป ในเกมนี้ที่พวกเขาจะออกไปเยือนเบรนต์ฟอร์ด ขณะที่เจ้าบ้านเพิ่งแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปในเกมก่อน หยุดสถิติไร้พ่ายของพวกเขาไว้ที่สี่เกม เบรนต์ฟอร์ดไม่เสียประตูในบ้านมาแล้วร่วมสามเดือน ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเสียประตูในบ้านต้องย้อนกลับไปถึงเมื่อเดือนกุมภาเลยทีเดียว และหากพวกเขาเก็บคลีนชึตได้ในเกมนี้ พวกเขาจะเป็นเพียงสโมสรที่สี่ในฤดูกาลนี้เท่านั้น ต่อจาก อาร์เซนอล, แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ที่สามารถเก็บคลีนชึตในบ้านสี่นัดต่อเนื่องได้
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของเบรนต์ฟอร์ด ในศึกพรีเมียร์ลีก อาทิตย์ที่ 34 ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เจ้าบ้านจะมีเวลาพักฟื้นไม่มากนักก่อนลงเตะเกมนี้ จากการที่ต้องเล่นเกมนัดตกค้างกับเชลซี แต่หากพวกเขาสามารถเอาชนะเชลซีได้ ความหวังที่จะลุ้นท็อปโฟร์ก็อาจจะกลับมาอีกครั้ง และเกมกับเบรนต์ฟอร์ดก็จะสำคัญกับพวกเขามากขึ้นเยอะเลยทีเดียว ด้านเบรนต์ฟอร์ดทีมเยือนเสมอกับสเปอร์มา 0-0 ในเกมก่อน และทำให้พวกเขาทำสถิติไม่แพ้ใครเลยตลอดเดือนเมษายน ชนะทั้งเชลซี เวสต์แฮม และวัตฟอร์ดได้ แบบสามเกมรวด และเสมอกับสเปอร์ในเกมสุดท้าย ความพ่ายแพ้นัดสุดท้ายของพวกเขาต้องย้อนกลับไปถึงเดือนกุมภาพันธ์เลยทีเดียว ในเกมที่พวกเขาแพ้ให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
เอฟเวอร์ตันยังมีเกมตกค้างให้เล่นอยู่ก็จริง แต่ในตอนนี้ทุกนัดของพวกเขานั้นต้องเน้นถึงขีดสุด เริ่มตั้งแต่นัดนี้เลย ในเกมที่พวกเขาจะเปิดบ้านรับเชลซี ที่ได้พักเพียงไม่กี่วันเท่านั้นหลังลงเตะกับแมนฯ ยูไนเต็ดไป ถึงแม้ว่าจะสวนทางกับอันดับในตาราง แต่เจ้าบ้านเอฟเวอร์ตันไม่ได้ฟอร์มแย่เลย ในสามเกมล่าสุดของพวกเขา พวกเขาพลิกล็อกปราบแมนฯ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ 1-0 เสมอเลสเตอร์ 1-1 และแพ้ลิเวอร์พูลที่กำลังร้อนแรงไปแบบ “ไม่น่าเกลียด” ไป 2-0 ทั้งสองทีมเสมอกันมา 1-1 ในเลกแรก นับเป็นสัญญาณที่ดีของเจ้าบ้านไม่ใช่น้อย และยิ่งเมื่อไปดูสถิติแล้วก็ยังมีเรื่องที่เจ้าบ้านน่าจะพอยิ้มได้บ้าง เพราะเชลซีไม่เคยมีแต้มกลับไปเลย ในการบุกมาเยือนเอฟเวอร์ตันสามครั้งหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังเล็งที่จะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ให้ได้ ในเกมที่พวกเขาจะต้องออกไปเยือน ลีดส์ ที่สนามเอลแลนด์ โร้ด ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ทีมเรือใบสีฟ้าเพิ่งผ่านเกมสุดมันส์ที่ยิงกันถึงเจ็ดประตูกับราชันชุดขาวมาในศึก ยูฟ่าฯ นัดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ลีดส์เสมอกับคริสตัล พาเลซไปแบบไร้สกอร์ ในเกมที่ลงเตะกันไปในวันจันทร์ที่ผ่านมา ทัพยูงทองทำผลงานได้ดีขึ้นมากทีเดียว ตั้งแต่ได้กุนซือใหม่ชาวอเมริกันอย่างเจสซี่ มาร์ช เข้ามาคุมทีม เก็บได้ถึงสิบเอ็ดคะแนนจากเจ็ดเกมที่มาร์ชเป็นคนคุมทีม ชนะสาม เสมอสอง แพ้แค่สอง ทำให้ปัจจุบันพวกเขามีแต้มเหนือโซนตกชั้นถึงห้าคะแนนแล้ว
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส จะเปิดสนามโมลินิวซ์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่จะลงฟาดแข้งกันในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ในขณะที่ศึกพรีเมียร์ลีกเข้าสู่ช่วงห้านัดสุดท้าย เจ้าบ้านยังตามเวสต์แฮมอันดับเจ็ดอยู่สามคะแนน แต่ยังลงเล่นน้อยกว่าอยู่หนึ้งนัด และยังนำหน้านิวคาสเซิลอันดับเก้าอยู่หกคะแนน รวมถึงยังนำเลสเตอร์อันดับสิบอยู่ถึงสิบคะแนนเช่นกัน (เลสเตอร์ลงเล่นน้อยกว่า เช่นเดียวกับวูล์ฟ) ส่วนพลพรรคนกนางนวลเสมอกับเซาแธมป์ตันมาในเกมก่อน 2-2 จากประตูของดานี่ เวลเบ็ค และการทำเข้าประตูตัวเองของ โมฮาเหม็ด ซาลิซู พวกเขาควรจะชนะด้วยซ้ำ หากเซาแธมป์ตันไม่ได้สองประตูสุดสวยจากกัปตันจอมยิงฟรีคิกของพวกเขาอย่าง เจมส์ วอร์ด-พราวส์
เกมนี้ที่วิคาราจ โร้ด ของวัตฟอร์ดสามารถชี้เป็นชี้ตายความอยู่รอดในลีกของทั้งสองทีมได้เลย โดยเบิร์นลีย์ทีมเยือนดูมีโอกาสในการอยู่รอดมากกว่าเล็กน้อย และน่าจะต้องการสามคะแนนจากเจ้าบ้านที่ดูแล้วไม่น่าจะรอดตกชั้นเป็นอย่างมาก วัตฟอร์ดกลับมาเล่นในลีกสูงสุดได้เพียงฤดูกาลเดียวก็มีความเสี่ยงสูงที่จะต้องกลับลงไปเช่นเดิม พวกเขาต้องชนะในทุกเกมที่เหลือของพวกเขา และยังต้องลุ้นให้คู่แข่งหนีตกชั้นอีกหลาย ๆ ทีมพร้อมใจกันแพ้อีก หากพวกเขาจะสร้างปาฏิหาริย์ในการหนีตกชั้นได้ ด้านทีมเยือนสถานการณ์ก็ไม่ต่างกันมาก พวกเขาก็กำลังสู้สุดใจเพื่อที่จะหนีตกชั้นเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาทำได้ดีทีเดียวในช่วงหลัง จากการชนะวูล์ฟได้ 1-0 ในเกมก่อน ทำให้ตอนนี้ทีมเก็บได้ถึงมากถึงสิบคะแนนเลยทีเดียวจากห้าเกมหลังสุด