- Tottenham vs Nottingham Forest Preview: ผู้เข้าชมหวังว่าจะได้รับไอน้ำในการแข่งขัน 5 อันดับแรก
- อันดับ 15 Wonderkids ที่ดีที่สุดในการแข่งขันชิงแชมป์และลีกวัน
- Crystal Palace vs Bournemouth 0-0 รายงาน: Cherries Drop Points อีกครั้ง
- Everton vs Manchester City 0-2 รายงาน: Cityzens March on on Quest for UCL Spot
- Aston Villa vs Newcastle 4-1 รายงาน: Emery’s Side Secure Secure Vital ชนะในการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นขอบคุณเป้าหมายต้นและครึ่งหลัง Blitz
- Fulham vs Chelsea Preview: West London Derby ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายผลักดันให้ยุโรป
- Manchester United vs Wolves Preview: Amorim’s Men to มุ่งเน้นไปที่ UEL ในขณะที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพการฟื้นคืนชีพของหมาป่า
- เวสต์แฮมกับเซาแธมป์ตัน 1-1 รายงาน: เซนต์สคว้าออกมาสายดึก
Author: admin
ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 บอร์นมัธ เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญ พลพรรคปีศาจต้องเหนื่อยเหมือนกันกว่าจะพังประตูโทนของเกมเอาชนะวูล์ฟที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่นได้ แม้พวกเขาจะจบสกอร์ไม่คมกันเองและทำโอกาสหลุดมือไปหลายครั้งก็ตาม แต่ก็ได้มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองจากเหตุผลเรื่องวินัยภายในทีม ลงมาเป็นซูเปอร์ซับและทำประตูสุดสวยช่วยให้พวกเขาหักอกแฟน ๆ ทีมหมาป่าและคว้าสามคะแนนเต็มกลับบ้านมาได้ ส่วนทีมบอร์นมัธเหมือนจะฟอร์มดร็อปลงไปนับตั้งแต่เริ่มเลกสองมา พวกเขาแพ้ 2-0 มาสองเกมติดแล้ว ในเกมก่อนพวกเขาก็โดนคริสตัล พาเลซ บุกมาเอาชนะได้ถึงบ้าน 2-0 ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ชนะ,ชนะ,ชนะ,แพ้,ชนะ บอร์นมัธ – แพ้,แพ้,ชนะ,แพ้,แพ้ สถิติระหว่างทั้งสองทีม สองครั้งล่าสุดที่บอร์นมัธบุกมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาแพ้ยับเยินแบบระยะห่างสามประตูกลับไปทั้งสองครั้ง 4-1 และ 5-2 ตามลำดับ ในห้าครั้งหลังสุดที่สองทีมนี้เจอกันมา มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่บอร์นมัธเอาชนะทีมปีศาจแดงได้ นักเตะที่น่าจับตามอง มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวเตะแมนคิวเนียนเริ่มหาฟอร์มเก่งในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เจออีกครั้งแล้ว ตอนนี้เขากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรงและไม่น่ามีกองหลังคนไหนอยากจะเจอเขาในตอนนี้อย่างแน่นอน คีฟเฟอร์ มัวร์ กองหน้าชาวเวลช์ไม่ได้ลงเล่นมาสองนัดแล้ว และน่าจะหวังว่าเขาจะได้รับโอกาสอีกครั้งในเกมนี้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลการแข่งขันที่คาด เลสเตอร์ 1-2 ฟูแล่ม เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญ เลสเตอร์โชคไม่ดีเอาเสียเลย ที่ต้องแพ้ให้กับลิเวอร์พูลแม้จะออกนำไปก่อน นี่จะเป็นอะไรที่ของร็อดเจอรส์ทำใจรับได้ยากแน่นอน เพราะพวกเขาเสียสองประตูและแพ้ไปก็เพราะเวาต์ ฟาส กองหลังของพวกเขาเอง ด้านฟูแล่มยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและพัฒนาการของพวกเขาต่อเนื่อง ภายใต้การคุมทีมของมาร์โค ซิลวา และเบียดเอาชนะเซาแธมป์ตันถึงถิ่น เซนต์ แมรี่ สเตเดี้ยม มาได้ในเกมก่อน ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด เลสเตอร์ ซิตี้ –แพ้,แพ้,ชนะ,ชนะ,แพ้ ฟูแล่ม –ชนะ,ชนะ,แพ้,แพ้,เสมอ สถิติระหว่างทั้งสองทีม ในห้าครั้งหลังสุดที่ทั้งสองทีมเจอกัน ฟูแล่มเอาชนะเลสเตอร์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น อย่างไรกีดี เลสเตอร์แพ้มาสองนัดติดแล้ว และความพ่ายแพ้ติดต่อกันเป็นนัดที่สามจะส่งผลทบต้นกับพวกเขาหลาย ๆ อย่าง และจะส่งพวกเขากลับไปในโซนหนีตกชั้นอีกครั้งอย่างแน่นอน นักเตะที่น่าจับตามอง อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช หัวหอกร่างยักษ์จากเซอร์เบียจะเป็นผู้นำในเกมรุกอีกครั้งในเกมนี้ ความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศพ่วงกับความสามารถในการสร้างโอกาสจบสกอร์ของเขา ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในทีมฟูแล่มอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ปีกความเร็วสูงของเลสเตอร์พัฒนาฝีเท้าของเขาขึ้นมาในปีนี้ และถึงแม้ว่าปีนี้เขาจะมีช่วงฟอร์มขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่บ้าง แต่เกมนี้ทุกอย่างดูเหมาะเจาะให้กับปีกความเร็วสูงอย่าง ฮาร์วีย์ บาร์นส์ มาก
ผลการแข่งขันที่คาด คริสตัล พาเลซ 1-0 ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญ ทีมปราสาทเรือนแก้วบุกไปเอาชนะบอร์นมัธได้ถึงบ้าน 2-0 เป็นการส่งท้ายปี 2022 อย่างสวยงาม และช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจเป็นอย่างมากในเกมต่อไปที่พวกเขาจะทำศึกลอนดอนดาร์บี้กับสเปอร์ ส่วนทีมท็อตแนมนั่นอยู่ในคนละความรู้สึกกันเลย พวกเขาเพิ่งแพ้คาบ้านให้กับแอสตัน วิลล่าอย่างน่าผิดหวังมา 2-0 จากผลงานของดั๊กลาส หลุยซ์ และ เอมิเลียโน่ บุเอนเดีย คนละหนึ่งประตู ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด คริสตัล พาเลซ – ชนะ,แพ้,แพ้,ชนะ,ชนะ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ – แพ้,เสมอ,ชนะ,แพ้,ชนะ สถิติระหว่างทั้งสองทีม การพบกันสามครั้งหลังสุดของพวกเขาจบลงด้วยระยะห่างสามประตูทั้งหมด ไม่ว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะก็ตาม ทัพไก่เดือยทองต้องการชัยชนะนัดนี้เป็นอย่างมาก เพราะถ้าพวกเขาแพ้อีก และทีมที่จ่อลุ้นท็อปโฟร์ทีมอื่น ๆ ชนะอีกล่ะก็ พวกเขาจะเริ่มถอยห่างจากการลุ้นท็อปโฟร์ไปเรื่อย ๆ นักเตะที่น่าจับตามอง วิลเฟรด ซาฮา ปีกชาวไอโวเรียนคือนักเตะคนที่สำคัญที่สุดในระบบทีมของปราสาทเรือนแก้วอย่างแท้จริง และฟอร์มของเขาในเกมนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญเลยว่าพาเลซจะเอาชนะสเปอร์ได้หรือไม่ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษต้องทนดูผลงานสุดห่วยของทั้งตัวเองและทีมของเขาตลอด 90 นาทีในเกมกับแอสตัน วิลล่า และน่าจะหวังที่จะลืมมันไปด้วยการยิงให้ได้สัก 1-2 ประตูในเกมนี้
ผลการแข่งขันที่คาด เอฟเวอร์ตัน 1-2 ไบรท์ตัน เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญ เอฟเวอร์ตันสามารถบุกไปยันเสมอเรือใบสีฟ้าแชมป์เก่าได้ 1-1 ถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม หยุดสถิติแพ้ต่อเนื่องของทีมได้สำเร็จ โดยทีมได้หนึ่งคะแนนสำคัญมาจากลูกยิงตีเสมอสุดสวยของเดมาราย เกรย์ หลังจากโดนเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยิงนำไปก่อนในครึ่งแรก ส่วนทีมนกนางนวลต้องแพ้อาร์เซนอลคาบ้านไปแบบน่าผิดหวัง 4-2 แม้ว่าจะเล่นได้ดีในครึ่งหลังและมียิงได้ตีตื้นมาบ้าง และแม้ว่าคาโอรุ มิโตมะจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม แต่จากภาพรวม ทีมนกนางนวลแพ้อาร์เซนอลไปแบบทุกกระบวนท่า และไม่มีความหวังสามคะแนนเลยในเกมเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด เอฟเวอร์ตัน – แพ้,เสมอ,แพ้,แพ้,เสมอ ไบรท์ตัน – แพ้,ชนะ,แพ้,ชนะ,ชนะ สถิติระหว่างทั้งสองทีม ทั้งสองฝ่ายเจอกันมาแล้วสิบครั้ง เป็นเอฟเวอร์ตันที่ทำได้ดีกว่า ชนะได้ห้าครั้ง เสมอกันสองครั้ง และไบรท์ตันชนะได้สามครั้ง เอฟเวอร์ตันชนะใครไม่เป็นมาห้านัดแล้ว และการมาเยือนของทีมนกนางนวลก็ส่อแววให้เห็นถึงนัดที่หกอยู่รำไรแล้ว นักเตะคีย์แมนของทั้งสองทีม เดมาราย เกรย์ อดีตดาวเตะของเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแสงสว่างและความหวังของทีมท๊อฟฟี่สีน้ำเงินมาตลอดในฤดูกาลนี้ ความเร็วและการจบสกอร์ที่รุนแรงของเขานั้นอันตรายมากไม่ว่าจะเป็นกับทีมไหนในลีก ดูตัวอย่างจากลูกที่เขายิงตีเสมอแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ได้ คาโอรุ มิโตมะ ปีกพ่อมดชาวญี่ปุ่นโชว์เวทย์มนต์ของเขาอีกครั้งในเกมก่อน และได้แสดงให้อาร์เซนอลให้เต็ม ๆ ว่าทำไมเขาถึงได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องและค่าตัวสูงขึ้นด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดเกม พร้อมกับหนึ่งประตูสุดสวยเป็นของแถม
ผลการแข่งขันที่คาด อาร์เซนอล 2-1 นิวคาสเซิล ถ้าเทียบกับปีที่แล้วหรือปีอื่น ๆ การเจอกันของสองทีมนี้มันคนละเรื่องกันเลย ในปีที่แล้ว นี่ก็คงจะเป็นอีกเกมทั่ว ๆ ไป ที่อาร์เซนอลน่าจะเอาชนะไปได้สบาย ๆ แต่ในปีนี้ ทุกอย่างมันต่างออกไป ในทางกลับกัน นี่จะเป็นบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดของทัพปืนใหญ่ในลีกฤดูกาลนี้เลย อย่างน้อยก็ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผ่านมา 16-17 นัดแน่ ๆ ในเกมที่พวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมสาลิกาดงในวันอังคารนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะทีมปืนใหญ่ของมิเกล อาร์เตต้านั่นยังไม่ได้ลงเล่นเจอกับทีมอันดับสองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้น ตามหลักแล้วเกมกับทีมอันดับสามอย่างนิวคาสเซิลก็น่าจะเป็นเกมที่หนักที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แล้ว แม้ว่าทัพปืนใหญ่จะนำห่างอันดับสองอยู่ถึงเจ็ดคะแนนก็ตาม ทั้งสองทีมแพ้ไปแค่ทีมละครั้งเท่านั้นในลีกฤดูกาลนี้ และนิวคาสเซิลน่าจะแอบคิดอยู่ว่าถ้าพวกเขาบุกไปเอาชนะอาร์เซนอลได้ถึงเมืองหลวงล่ะก็ พวกเขาจะกลายมาเป็นอีกทีมที่ลีกจะต้องเกรงกลัวพวกเขา และน่าจะหวังถึงการลุ้นแชมป์ลีกในปีนี้ได้เลย และอย่าลืมว่า เมื่อฤดูกาลก่อนที่อาร์เซนอลไม่ติดท็อปโฟร์ก็เพราะแพ้ให้กับนิวคาสเซิลในช่วงสำคัญนี่แหละ ครั้งนี้พวกเขาจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างแน่นอน เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญ อาร์เซนอลเก็บชัยชนะในลีกได้ถึง 71% ในปี 2022 (ชนะ 25 ครั้งจาก 35 เกม) มากที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สโมสร รองจากปี 2002 ที่พวกเขาทำได้ 72% (ชนะ 28 ครั้งจาก 39 เกม) ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก มีแค่สองทีมเท่านั้นที่ทำผลงานได้ดีกว่าอาร์เซนอลของมิเกล อาร์เตต้าปีนี้ หลังผ่านไป 16 เกมในลีก นั่นก็คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2017/18 และ ลิเวอร์พูล ในปี 2019/20 ปัจจุบันหลังผ่านไป 16 นัด นิวคาสเซิลมีเกมรับที่ดีที่สุดในลีก เสียไปเพียง 11 ประตูเท่านั้น และน่าจะหวังว่าจะไม่เสียประตูหรือเสียประตูให้น้อยที่สุดในเกมนี้กับอาร์เซนอล เช่นเดียวกับทีมปืนใหญ่ นิวคาสเซิลก็พลาดท่าแพ้ในลีกไปเพียงครั้งเดียวเท่ากัน และมันก็น่าแปลกใจว่าด้วยผลงานระดับนี้ ทำไมผู้คนถึงไม่ยกให้นิวคาสเซิลเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงแชมป์ลีกสักที ฟอร์ม: อาร์เซนอล ถ้าใครบอกว่าผลงานในช่วงต้นฤดูกาลของอาร์เซนอลคือการฟลุคล่ะก็ ทีมเดอะ กันเนอร์ส ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาคือของจริง ตอนนี้พวกเขานำโด่งอยู่ถึงเจ็ดคะแนน และตารางคะแนนก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขานั้นเหมาะสมกับตำแหน่งจ่าฝูงอย่างแท้จริง ในบทความทำนายฤดูกาลนี้ของเรา เราเคยบอกไว้อาร์เซนอลมีสิทธิลุ้นแชมป์ได้เลยในปีนี้ ถึงแม้ว่ามันจะดูเวอร์ไปหน่อยในตอนแรก แต่ในตอนนี้ทุกอย่างมันดูมีภาพและเป็นไปได้ขึ้นมาแล้ว เดอะ กันเนอร์ส เป็นทีมที่กำลังฟอร์มแรง และเป้าหมายที่หลาย ๆ ทีมเล็งจะหยุดให้ได้ในตอนนี้ เพราะตอนนี้…
สารบัญ โมเมนต์สุดท้ายของเปเล่ รำลึกความยิ่งใหญ่ของเปเล่ ย้อนรอยสถิติและรางวัลต่าง ๆ ของเปเล่ เปเล่เปลี่ยนแปลงฟุตบอลไปอย่างไรบ้าง คำพูดต่าง ๆ เกี่ยวกับความสำเร็จของเปเล่ บทส่งท้าย โลกฟุตบอลต้องตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจ เพียงไม่กี่อาทิตย์เท่านั้นหลังจากเพื่งฉลองแชมป์ฟุตบอลโลกกันไป เอ็ดสัน อรานเตส โด นาสซิเมนโต้ หรือในชื่อที่รู้จักและมีแฟนคลับกันทั้งโลกอย่าง “เปเล่” ได้จากโลกนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย แล้ว หลังจากสู้กับอาการมะเร็งลำไส้ใหญ่มาสักพัก เขาตายเมื่อมีอายุได้ 82 ปี แต่จะอยู่ในหัวใจของครอบครัว, แฟนบอลบราซิล และ โลกฟุตบอลตลอดไปอย่างแน่นอน จริง ๆ มันก็มีข่าวลือออกมาว่าเขาอาการไม่ค่อยดีนัก ในช่วงวิกฤตโคโรนาไวรัสในปี 2020 บางสื่อถึงขนาดพาดหัวว่าเปเล่ใกล้เสียชีวิตแล้ว และจะอยู่กับเราไปได้อีกไม่นาน มองย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าข่าวลือเหล่านั้นจะออกมาเร็วไปสักสองปี เพราะในวันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา เปเล่ก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างตลอดกาล ชายผู้ทำให้ฟุตบอลกลายมาเป็นกีฬาระดับโลกขวัญใจมหาชนด้วยลีลาท่าทางของเขานั้นได้จากไปแล้ว และสิ่งที่เราทำได้ทั้งหมดในตอนนี้ก็คือย้อนไปดูว่าเปเล่นั้นทำอะไรไว้บ้างเพื่อโลกฟุตบอล วันนี้เราจะมาลองดูในเรื่องของชีวิตส่วนตัวและความยิ่งใหญ่ของเปเล่ นักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกฟุตบอลอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะดูสถิติประกอบหรือไม่ก็ตาม ความยิ่งใหญ่ของเปเล่มีอะไรบ้าง เอ็ดสัน อรานเตส โด นาสซิเมนโต้ เกิดในประเทศที่คลั่งใคล้ฟุตบอลอย่างบราซิล และในเวลาที่ทุกอย่างมันเริ่มชัดเจนขึ้นแล้วว่าฟุตบอลสามารถเป็นกีฬาที่มีอะไรมากกว่าความบันเทิงเพียงอย่างเดียว เขาค่อย ๆ ขยับจากคนดูไปเป็นผู้เล่น จากนั้นเขาก็ถูกยกให้เป็นเพชรเม็ดใหม่ของวงการฟุตบอลที่สามารถทำอะไรได้มากกว่าแค่เล่นสนุก ๆ มาก ไม่นาน โอกาสของเขาก็มาถึง เมื่อเขาก็ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิล และไปลุยฟุตบอลโลกในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ฟุตบอลโลกครั้งนั้นเป็นครั้งที่เขาจารึกตำนานของเขาเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยล่ะ โลกฟุตบอลก็มีดาวเตะระดับอัจฉริยะอยู่ทุกยุคทุกสมัย ทั้งก่อนหน้าและหลังยุคของเปเล่ หนึ่งในนั้นก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ ที่เพิ่งฉลองแชมป์ฟุตบอลโลกไปได้ไม่นาน แต่เปเล่นั้นถือเป็นราชาของโลกฟุตบอลอย่างแท้จริง และน่าจะเป็นคนแรกด้วยที่ได้รับการยกย่องด้วยตำแหน่งนี้ ไม่แปลกที่เขาได้รับการยกย่องให้เป็น “เดอะ คิง” หรือราชาลูกหนังจากผลงานในสนามของเขา ซึ่งลำพังแค่นี้ก็เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากแล้ว แต่เรื่องนอกสนามของเปเล่ เช่นเรื่องต่าง ๆ ที่เขาช่วยเหลือองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นนั้นก็เป็นเรื่องที่มีผลต่อตำนานของเขาไม่แพ้กันเลย ตำนานและความสำเร็จของเขามันยิ่งใหญ่เสียจนนักเตะคนไหนที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่แล้วก็ต้องเอาดีกรีของตัวเองมาเทียบกับเปเล่นี่แหละ หากอยากจะพิสูจน์ว่าตัวเขาคือของจริงเหมือนกัน สถิติและความสำเร็จต่าง ๆ ของเปเล่ ผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สามสมัย วัยรุ่น (อายุ 19 ปีหรือน้อยกว่า) คนแรกจากสองคนในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์กิตติมศักดิ์ เจ้าของสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในฟุตบอลโลกหนึ่งครั้ง (เจ็ดครั้งในฟุตบอลโลกปี 1970) ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกได้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก (ฟุตบอลโลกปี 1958)…
เมื่อข่าวหลุดออกมาว่าฮาลันด์เตรียมจะเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันทำให้ทุกทีมสั่นกลัวตาม ๆ กันไปหมด ดาวเตะวัย 22 ปี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าที่มากความอันตรายมาหลายปีแล้ว ทั้งกับทีมชาติและสโมสร ถึงแม้สโมสรของเขาจะอยู่ในลีกเล็ก ๆ จนบางครั้งมันไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรนักก็เถอะ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านักเตะคนนี้มีของจริง ๆ อย่างไม่น่าจะมีใครกล้าคัดค้าน หลังจากนั้น เขาก็ย้ายมาร่วมทีมเรือใบสีฟ้าของเป็ป กวาดิโอล่า ผู้จัดการทีมที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ การผสมผสานกันระหว่างกุนซือที่เปลี่ยนแปลงฟุตบอลไปตลอดกาลกับศูนย์หน้าที่โดดเด่นเรื่องการทำประตูในระดับปรากฏการณ์นั้นเป็นอะไรที่กุนซือทีมอื่น ๆ น่าจะปวดหัวในการรับมือไม่น้อย รวมถึงแฟน ๆ ทีมอื่นก็ต้องมีนั่งไม่ติดพนักกันบ้างล่ะ และหลังจากผ่านไป 20 เกมรวมทุกรายการ ฮาลันด์ก็ยิงไปถึง 26 ประตูเข้าให้แล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทีมอื่นกลัวกันจะเกิดขึ้นจริงนะ ถือว่าลูกชายของมิดฟิลด์ระดับตำนานทีมชาตินอร์เวย์มาไกลมากแล้ว ณ จุดนี้ เรามาลองดูและวิเคราะห์ถึงความสามารถในการทำประตูของเขากันหน่อยดีกว่า ไฮไลต์: ฮาลันด์ยิงไปกี่ประตูแล้วในฤดูกาลนี้ (2022/2023) สถิติรางวัลดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกจนถึงปัจจุบัน (2022/2023) รวมตลอดการค้าแข้ง ฮาลันด์ยิงไปแล้วกี่ประตู ฮาลันด์ยิงได้กี่ประตูในฤดูกาลก่อน (2021/2022) ฮาลันด์ยิงไปกี่ประตูแล้วในฤดูกาลนี้ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ตอนนี้ฮาลันด์ทำได้ทั้งสิ้น 26 ประตู จาก 20 เกมรวมทุกรายการในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างไรก็ดี ณ ตอนที่เขียนบทความนี้ ทีมเรือใบสีฟ้าลงเล่นไปแล้ว 24 นัด หมายความว่าหัวหอกวัย 22 ปี ก็ไม่ได้ลงสนามช่วยทีมทุกนัด และพลาดการลงสนามไปแล้วอย่างน้อยสี่นัดด้วยกัน ไม่ว่าจะจากอาการบาดเจ็บต่าง ๆ หรือการโรเตชั่นนักเตะของเป็ป กวาดิโอล่า แต่ถึงขนาดเขาลงเล่นไม่ครบทุกนัด สถิติการทำประตูของเขาก็ยังเป็นระดับท็อปของยุโรปอยู่ดี หากนับแค่พรีเมียร์ลีกอย่างเดียว ณ ตอนที่เขียนบทความนี้ ฮาลันด์ซัลโวไปทั้งสิ้น 20 ประตูจาก 14 เกม และยังเหลืออีก 23 เกมให้เขาลงเล่นและทำประตูเพิ่ม เอาแบบไม่ต้องย้อนไปดูสถิติให้มากมาย เราคิดว่าใคร ๆ ก็น่าจะพอดูออกว่าการยิงประตูได้มากขนาดนี้ในแค่ 14 เกมพรีเมียร์ลีกนั้นมันน่ามหัศจรรย์มาก แต่ถ้าอยากเปรียบเทียบกันอย่างละเอียดหน่อย เราลองมาดูจำนวนประตูของเหล่าเจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำในพรีเมียร์ลีกและรองเท้าทองคำของยุโรปในฤดูกาลที่ผ่าน ๆ มากันหน่อยดีกว่า ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก (2018-2022) 2018 – โมฮาเหม็ด ซาลาห์…
ผลการแข่งขันที่คาด เบรนต์ฟอร์ด 1-2 ลิเวอร์พูล เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญ ลิเวอร์พูลได้สามคะแนนกลับมาจากการไปเยือนเลสเตอร์ ถึงแม้ว่าสองประตูที่พวกเขาได้นั้นจะมาจากการทำเข้าประตูของเวาต์ ฟาส เซนเตอร์แบ็คของเลสเตอร์ทั้งสองประตูก็ตาม เพราะอันที่จริงพวกเขาโดนคีย์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์ยิงนำไปก่อนด้วย และคงจะลำบากแน่หากไม่ได้สองประตูสุดพิลึกนี้มา เบรนต์ฟอร์ดโชว์ให้เห็นถึงคลาสบอลและความนิ่งในเกมที่พวกเขาบุกไปเอาชนะเวสต์แฮมได้ถึงโอลิมปิก สเตเดี้ยม และยิงได้ถึงสองประตู อย่างไรก็ดีพวกเขาก็เฮไม่สุดเนื่องจากดาวยิงตัวแบกของทีมอย่างไอแวน โทนี่ย์ คนทำประตูแรกของทีมได้รับอาการบาดเจ็บในเกมนี้ ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด เบรนต์ฟอร์ด – ชนะ,เสมอ,ชนะ,เสมอ,เสมอ ลิเวอร์พูล – ชนะ,ชนะ,ชนะ,ชนะ,แพ้ สถิติระหว่างทั้งสองทีม ทีมผึ้งพิฆาตน่าจะหมดสิทธิใช้งานหัวหอกตัวหลักของทีมอย่าง ไอแวน โทนี่ย์ ที่ยิงไปถึง 12 ประตูแล้วในฤดูกาลนี้ ทั้งสองฝ่ายเจอกันในพรีเมียร์ลีกมาสองครั้ง โดยเป็นลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้หนึ่งครั้ง และเสมอกันไปอีกหนึ่งครั้ง นักเตะที่น่าจับตามอง ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของเบรนต์ฟอร์ดในปีนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว แต่เขาอาจจะต้องเรียกฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ หากหวังที่จะหยุดเกมรุกของลิเวอร์พูลที่เต็มไปด้วยกองหน้าความเร็วสูง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายของทีมหงส์แดงเพิ่งทำลายสถิติแอสซิสต์มากที่สุดตลอดกาลของตำแหน่งกองหลังไป และเขาก็น่าจะหวังคืนฟอร์มอีกครั้งในเกมนี้ หลังจากช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก
สารบัญ เส้นทางการค้าแข้งของเมสซี่ เมสซี่ช่วยสโมสรคว้าแชมป์อะไรได้บ้าง เมสซี่ช่วยทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์อะไรได้บ้าง สถิติโลกในกินเนสส์บุ๊กของเมสซี่ การโต้เถียงกันในเรื่องของนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลระหว่างเมสซี่กับโรนัลโด้ เส้นทางการค้าแข้งของเมสซี่ หลังจากอาชีพการค้าแข้งที่เขาท้าทายมาแล้วทุกโอกาส, ทำลายสถิติมาแล้วนับไม่ถ้วน, คว้าถ้วยแชมป์มาแล้วมากมายและได้รับความเคารพจากคู่แข่ง ลิโอเนล เมสซีได้คว้าแชมป์ที่น่าหลงใหลที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลจากทั้งหมดทั้งมวล นั่นก็คือแชมป์ฟุตบอลโลก และเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้แบบชนิดที่ยังฝีเท้าเหนือกว่าคู่แข่งแบบเหลือ แม้จะอายุ 35 ปีแล้วก็ตาม การโต้เถียงกันว่าใครเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬานั้นได้รับการตัดสินโดยคนที่ใช้ตรรกะในการตัดสิน สำหรับคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ต่างยังคงเดือดกันอยู่ แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร เมสซีได้พาตัวเองไปอยู่ในระดับต้น ๆ ของเทพเจ้าแห่งวงการฟุตบอลเพื่อเป็นแรงบันดาลใจไปเป็นทีเรียบร้อยแล้ว และถ้าการโต้เถียงเหล่านั้นยุติลงในที่สุด คงไม่มีคำตอบอื่นใดสำหรับคำถามที่ว่า “นักเตะคนไหนคือนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” นอกเสียจากจะเป็นลิโอเนล เมสซี่ เด็กน้อยจากเมืองโรซาริโอ้ในประเทศอาร์เจนติน่านั้นถือว่ามาได้ไกลเอามาก ๆ เรามาดูเส้นทางการค้าแข้งของเขากันเลยดีกว่า เมสซี่ช่วยสโมสรคว้าแชมป์ได้ในระดับไหน เมสซี่ในวัย 35 ปีนั้นเกิดในวันที่ 24 มิถุนายน 1987 เขาเริ่มต้นด้วยการขีดเขียนตำนานที่บาร์เซโลน่า ที่นั่น เขาคว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้ไปถึง 6 สมัยในสมัยที่ยังเป็นนักเตะของบาร์เซโลน่า รางวัลบัลลงดอร์สมัยที่ 7 ของเขานั้นได้จากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมกับบาร์เซโลน่า แต่เขาย้ายมาที่เปแอสเชก่อนที่รางวัลจะประกาศผลนั่นเอง แน่นอนว่ารางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัยของเขานั้นถือเป็นสถิติที่เป็นนักเตะที่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์มากที่สุดนับตั้งแต่สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสก่อตั้งขึ้นในปี 1956 เนื่องจากรางวัลนี้ขึ้นอยู่กับผลงานส่วนตัวและการมีส่วนร่วมกับประตูของทีม นอกจากนี้มันยังหมายความว่ารางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัยของเมสซี่นั้นแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่มีอิมแพ็คให้กับทีมได้มากที่สุดโดยไม่มีใครเทียบได้กับรางวัลต่าง ๆ ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยแชมป์กว่า 42 รายการของเขา (35 แชมป์กับบาร์เซโลน่า, 5 แชมป์กับอาร์เจนติน่าและทีมชุดใหญ่และอีก 2 แชมป์กับเปแอสเช) เขาเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล สถิติของเขาที่บาร์เซโลน่านั้นไม่ใช่แค่ดีที่สุดเท่าที่สโมสรเคยมีมาเท่านั้น แต่ยังสร้างอิมแพ็คมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาอีกด้วย ก่อนหน้าที่เขาจะลงเล่นให้กับบาร์เซโลน่า บาร์เซโลน่าคว้าแชมป์ลาลีกาได้เพียง 16 สมัย ซึ่งมากกว่าจำนวนแชมป์ที่ทีมได้ตามมาหลังจากนั้นเกือบสองเท่า เมสซี่เข้ามาและกลายเป็นไอค่อนของนักฟุตบอลรุ่นหลังที่ยกระดับบาร์เซโลน่าขึ้นมาอยู่ในจุดที่พวกเขากำลังยืนอยู่และได้แฟนบอลเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งแฟนบอลที่ชื่นชอบและไม่ชอบ เขาคว้าแชมป์ลาลีกา 10 สมัย รวมเป็น 26 สมัย ในเวลานั้น เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในลาลีก้าสเปน คว้าแชมป์ได้เพียง 4 สมัยเท่านั้น เมสซี่เป็นผู้นำในการช่วยให้บาร์เซโลน่าลดช่องว่างให้เหลือน้อยกว่า 10 สมัยหลังจากเล่นลงเล่นในลีกสูงสุดของสเปนมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ เขาช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยการทำลายสถิติการทำประตูและแอสซิสต์มากมายในสเปน หลังจากที่เขสลงสนามไป 520 เกมในลีก เขายิงไปได้ 474 ประตู จนกลายมาเป็นดาวซัลโวในลีก…
ผลการแข่งขันที่คาด วูล์ฟ 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญ ทีมหมาป่าเริ่มต้นเส้นทางกับกุนซือใหม่อย่างจูเลน โลเปเตกี ได้ดี ด้วยการประเดิมสนามนัดแรกเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้ถึงถิ่นกูดิสัน พาร์คของพวกเขา โดยวูล์ฟได้รายาน อัต-นูรี่ เป็นฮีโร่ทำประตูชัยในนาทีสุดท้าย ช่วยให้ทีมคว้าสามคะแนนเต็มได้สำเร็จ ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่กำลังหนีตกชั้นไปได้แบบสบาย ๆ มาเช่นกัน สามประตูของมาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยัล และ เฟร็ด ก็มากพอแล้วที่จะทำให้ทีมปีศาจแดงเปิดบ้านคว้าสามคะแนนเต็มไปได้ ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด วูล์ฟ – ชนะ,แพ้,แพ้,เสมอ,แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ชนะ,ชนะ,แพ้,ชนะ,เสมอ สถิติระหว่างทั้งสองทีม วูล์ฟเป็นทีมที่ทีมปีศาจแดงชอบแพ้ทางและพลาดท่าแพ้ให้บ่อย ๆ ในช่วงหลัง ดูจากสถิติการเจอกันได้เลย เพราะครั้งล่าสุดที่เจอกันก็เป็นวูล์ฟที่บุกมาเอาชนะทีมปีศาจแดงได้ถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-0 จากลูกยิงสุดสวยของเจา มูตินโญ่ เมื่อปีก่อนทั้งสองทีมก็มีคิวลงเตะกันช่วงปีใหม่เหมือนกันเปี๊ยบ แต่ครั้งนั้นเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ป้องกันบ้านได้สำเร็จ เอาชนะวูล์ฟไปได้ 1-0 นักเตะที่น่าจับตามอง มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวเตะวัย 25 ปี กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรง และเป็นตัวเต็งที่จะทำประตูได้ในเกมนี้ เพราะเช็คจากประวัติแล้วดูเจ้าตัวจะชอบยิงใส่วูล์ฟอยู่ไม่น้อย และยิงใส่ทีมหมาป่าได้บ่อยครั้งในช่วงหลัง รูเบน เนเวส กองกลางชาวโปรตุกีสเป็นผู้บัญชาการแดนกลางของทีมหมาป่ามาตลอดในฤดูกาลนี้ และน่าจะหวังให้เพื่อนร่วมทีมของเขาโชว์ฟอร์มให้ดีขึ้นบ้างเพื่อเบางานในมิดฟิลด์ของเขา ในเกมใหญ่กับทีมปีศาจแดงที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้