- Tottenham vs Nottingham Forest Preview: ผู้เข้าชมหวังว่าจะได้รับไอน้ำในการแข่งขัน 5 อันดับแรก
- อันดับ 15 Wonderkids ที่ดีที่สุดในการแข่งขันชิงแชมป์และลีกวัน
- Crystal Palace vs Bournemouth 0-0 รายงาน: Cherries Drop Points อีกครั้ง
- Everton vs Manchester City 0-2 รายงาน: Cityzens March on on Quest for UCL Spot
- Aston Villa vs Newcastle 4-1 รายงาน: Emery’s Side Secure Secure Vital ชนะในการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นขอบคุณเป้าหมายต้นและครึ่งหลัง Blitz
- Fulham vs Chelsea Preview: West London Derby ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายผลักดันให้ยุโรป
- Manchester United vs Wolves Preview: Amorim’s Men to มุ่งเน้นไปที่ UEL ในขณะที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพการฟื้นคืนชีพของหมาป่า
- เวสต์แฮมกับเซาแธมป์ตัน 1-1 รายงาน: เซนต์สคว้าออกมาสายดึก
Author: admin
ผลการแข่งขันที่คาด นิวคาสเซิล 2-0 เชลซี เกร็ดน่ารู้ มิเกล อัลมิร่อนยิงไปแล้ว 8 ประตูจากการลงสนามในพรีเมียร์ลีก 14 เกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งน้อยกว่าที่เขาทำได้จากการลงสนามถึง 110 นัดก่อนหน้านั้นรวมกันทุกรายการเพียง 1 ประตูเท่านั้น และเขายังมีสิทธิ์ที่จะเป็นนักเตะนิวคาสเซิลคนแรกที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 5 เกมติดต่อกันนับตั้งแต่สถิติของโจ วิลล็อคที่ยิงติดต่อกันได้ถึง 7 นัดในช่วงท้ายฤดูกาล 2020-21 มีเพียงเควิน เดอ บรอยน์ (45 ครั้ง) และแอนเดรียส เปเรย์ร่า (34 ครั้ง) เท่านั้นที่สร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมในพรีเมียร์ลีกมากกว่าคีแรน ทริปเปียร์ของนิวคาสเซิล (32 ครั้ง) ฟูลแบ็คทีมชาติอังกฤษวัย 32 ปีสร้างโอกาสอย่างน้อยมากกว่า 2 เท่าของนักเตะนิวคาสเซิลทุกคนในฤดูกาลนี้ ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – ชนะชนะชนะชนะเสมอ เชลซี – แพ้-แพ้-เสมอ-เสมอ-ชนะ สถิติต่าง ๆ ในเกมระหว่างนิวคาสเซิล vs เชลซี นิวคาสเซิลแพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่เปิดบ้านเจอกับเชลซี (ชนะ 1) เยอะเท่ากับที่พวกเขาเคยแพ้ตลอด 14 เกมหลังสุด มีเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาเปิดบ้านแพ้ให้กับเชลซีในเกมลีก 3 เกมติดต่อกัน ซึ่งต้องย้อนกลับไปถึงช่วงเดือนเมษายน 1957 ถึงช่วงกันยายน 1958 เชลซีเอาชนะได้ถึง 7 จาก 8 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่เจอกับนิวคาสเซิล (แพ้ 1) รวมถึงเอาชนะได้ 4 เกมรวดโดยไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว นักเตะที่น่าจับตามอง มิเกล อัลมิร่อน มิดฟิลด์ทีมชาติปารากวัยกลายมาเป็นฮีโร่แห่งเซนต์ เจมส์ ปาร์คด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขากำลังอยู่ในช่วงนี้ฟอร์มดีที่สุดในชีวิตและเขาก็มีสิทธิ์ที่จะพังประตูในเกมนี้อีกครั้ง มาเตโอ โควาซิช ความสำคัญของมิดฟิลด์ชาวโครแอตกับเกมการแข่งขันในนัดนี้นั้นไม่ได้เวอร์เกินจริงเลย เนื่องจากเชลซีต้องการผลงานระดับเวิร์ลคลาสจากกองกลางของพวกเขาเพื่อจะหยุดแดนกลางของนิวคาสเซิลให้ได้
ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เบรนท์ฟอร์ด เกร็ดน่ารู้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังคงโชว์ฟอร์มเยี่ยมไล่บี้อาร์เซน่อลอย่างสุดมัน ยักษ์ใหญ่จากเมืองแมนเชสเตอร์เก็บชัยชนะได้จากลูกจุดโทษท้ายเกมจากเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ หลังจากที่เควิน เดอ บรอยน์ถูกทำฟาวล์ในกรอบ 18 หลา เบรนท์ฟอร์ดพลาดโอกาสในการเก็บ 3 คะแนนสุดสำคัญในเกมที่พวกเขาออกไปเยือนน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ถึงซิตี้ กราวด์ แต่อย่างไรก็ตาม ประตูในช่วงท้ายเกมของซานก้าที่ทำเข้าประตูตัวเองนั้นทำให้ทั้งคู่ต้องแบ่งแต้มกันไปทีมละ 1 คะแนนด้วยสกอร์ 2-2 ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ชนะ-ชนะ-ชนะ-เสมอ-ชนะ เบรนท์ฟอร์ด – เสมอ-เสมอ-แพ้-เสมอ-ชนะ สถิติต่าง ๆ ในเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs เบรนท์ฟอร์ด ทั้งสองทีมเคยเจอกันเพียงแค่ 2 ครั้งในพรีเมียร์ลีกและเบรนท์ฟอร์ดก็แพ้ไปทั้งสองเกม เบรนท์ฟอร์ดยังไม่ชนะใครเลยตลอด 4 เกมหลังสุดและแน่นอนว่านี่เป็นคู่แข่งที่เลวร้ายที่สุดที่คุณต้องเจอในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาน่าจะกลับบ้านมือเปล่าอีก 1 เกม นักเตะที่น่าจับตามอง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ความสำคัญของดาวยิงของทีมเรือใบสีฟ้านี้ไม่ได้เวอร์เกินจริงเลย ประตูของเขาและการจบสกอร์ระดับคุณภาพจะเกิดขึ้นอีกครั้งในเกมนี้ ดาบิด ราย่า มือกาวหนุ่มชาวสเปนเพิ่งถูกเรียกติดทีมชาติมา หลังจากในช่วงก่อนหน้านี้นั้นเขาโชว์ฟอร์มให้กับทีมผึ้งพิฆาตได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ เขากับอีแวน โทนี่ย์ถือเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทีมในเวลานี้
ผลการแข่งขันที่คาด ลิเวอร์พูล 2-0 เซาแธมป์ตัน เกร็ดน่ารู้ ลิเวอร์พูลกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง โดยที่พวกเขาเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สมาได้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์เหมาคนเดียว 2 ประตูพาหงส์แดงเก็บ 3 คะแนนได้ถึงถิ่นท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส สเตเดี้ยม เซาแธมป์ตันกำลังอยู่ในช่วงช็อค เพราะพวกเขาโดนนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดบุกมาถล่มยับคาบ้าน อย่างไรก็ดีนั่นเป็นเพราะนิวคาสเซิลกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในเวลานี้ ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูล – ชนะ-แพ้-แพ้-ชนะ-ชนะ เซาแธมป์ตัน – แพ้-แพ้-เสมอ-ชนะ-เสมอ สถิติต่าง ๆ ในเกมระหว่างลิเวอร์พูล vs เซาแธมป์ตัน ลิเวอร์พูลมีปัญหาในการเจอกับทีมที่อยู่ครึ่งล่างของตารางคะแนน โดยพวกเขาพ่ายให้กับทีมอย่างลีดส์และน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แน่นอนว่าเซาแธมป์ตันพร้อมที่จะทำให้สถิตินั้นยังคงอยู่ต่อไปในสุดสัปดาห์นี้ เซาแธมป์ตันจะลงเล่นในเกมนี้โดยไม่มีผู้จัดการทีมคนก่อนคอยคุมอยู่ข้างสนามเป็นเกมแรกหลังจากที่เขาโดนไล่ออกหลังจากจบเกมที่พวกเขาพ่ายยับให้กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-1 นักเตะที่น่าจับตามอง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์กลับมาโชว์ฟอร์มร้อนแรงอีกครั้งและเขาก็ทำประตูได้บ่อยมากขึ้นในช่วงหลัง มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้พักในเกมคาราบาวคัพในสัปดาห์นี้ ดังนั้นเขาจะฟิตสมบูรณ์พร้อมสำหรับเกมนี้ เขาอยู่ในฟอร์มที่ดีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากทำสองประตูพาหงส์แดงบุกไปเอาชนะท็อตแน่มได้ถึงถิ่นในเกมนัดที่แล้ว เกวิน บาซูนู ผู้รักษาประตูมือกาวชาวไอริชพึ่งเสียถึง 4 ประตูคาบ้านมาหมาด ๆ ให้กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในฤดูกาลนี้และเขาจำเป็นจะต้องโชว์ฟอร์มอีกครั้งหากหวังที่จะไม่ให้ลิเวอร์พูลพังประตูในแอนฟิลด์ได้ในเกมนี้
ผลการแข่งขันที่คาด บอร์นมัธ 1-2 เอฟเวอร์ตัน เกร็ดน่ารู้ บอร์นมัธกลับบ้านมือเปล่าในเกมก่อนหน้านี้ ซึ่งพวกเขาโดนประตูในช่วงท้ายเกมของคริเซนซิโอ้ ซัมเมอร์วิลล์ที่กำลังท็อปฟอร์ม เกมจบลงการที่พวกเขาพ่ายให้กับลีดส์ด้วยสกอร์ 3-4 ทางฝั่งของเอฟเวอร์ตันก็แพ้แบบต้องช็อคตาตั้ง เมื่อพวกเขาโดนเลสเตอร์ ซิตี้ที่ฟอร์มยังไม่ค่อยดีมากนักบุกมาเอาชนะได้ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 0-2 ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด บอร์นมัธ – แพ้-แพ้-แพ้-แพ้-ชนะ เอฟเวอร์ตัน – แพ้-เสมอ-ชนะ-แพ้-แพ้ สถิติต่าง ๆ ในเกมระหว่างบอร์นมัธ vs เอฟเวอร์ตัน ทั้งสองทีมมีสถิติในฤดูกาลนี้ที่ใกล้เคียงกันมาก โดยเอฟเวอร์ตันอยู๋เหนือกว่าบอร์นมัธ 1 อันดับในตารางคะแนน โดยแพ้น้อยกว่า 1 นัดและเสมอมากกว่า 1 นัด นอกจากนี้ สถิติที่ทั้งสองทีมเจอกันเองนั้นก็น่าสนใจเอามาก ๆ จาก 10 เกมหลังสุดที่ทั้งสองทีมนั้นเจอกัน พวกเขาผลัดกันเอาชนะไปได้ทีมละ 4 เกมและเสมอไปอีก 2 เกมที่เหลือ นักเตะที่น่าจับตามอง ฟิลิป บิลลิ่ง อดีตนักเตะของฮัดเดิลสฟิลด์ ทาวน์โชว์ฟอร์มได้ดีในการคุมแดนกลางของทีม ถึงแม้ว่าในทีมจะขาดคุณภาพในแดนกลางไปบ้าง แต่เขาก็ช่วยแก้ปัญหานั้นได้เยอะเลยทีเดียว จอร์แดน พิคฟอร์ด มือกาวเบอร์ 1 ของทีมชาติอังกฤษกำลังโชว์ฟอร์มให้เข้าตาเซาธ์เกต เพื่อหวังจะยึดตำแหน่งมือหนึ่งของทัพสิงโตคำรามต่อไปด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม
ผลการแข่งขันที่คาด ฟูแล่ม 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกร็ดน่ารู้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ยิงใส่ฟูแล่มไปแล้วถึง 7 ประตูตลอด 7 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก – มีเพียงแอสตัน วิลล่าและท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สเท่านั้น (8 ประตู) ที่เขายิงประตูใส่ได้มากกว่าในพรีเมียร์ลีก บรูโน่ เฟอร์นันเดสจะลงสนามในพรีเมียร์ลีกครบ 100 เกมในเกมนี้ เขาทำไปแล้ว 38 ประตูกับอีก 26 แอสซิสต์ตลอด 99 เกมให้กับปิศาจแดง มีนักเตะเพียง 3 คนเท่านั้นที่มีส่วนร่วมกับประตูมากกว่าเขาในการเล่น 100 เกมแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีก – เอริค คันโตน่า (84 ประตู), รุด ฟาน นิสเทลรอย (78 ประตู) และสไวท์ ยอร์ค (66 ประตูจาก 96 เกม) ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด ฟูแล่ม – แพ้-เสมอ-ชนะ-ชนะ-เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – แพ้-ชนะ-เสมอ-ชนะ-เสมอ สถิติต่าง ๆ ในเกมระหว่างฟูแล่ม vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟูแล่มเอาชนะได้เพียง 2 เกมจาก 25 เกมหลังสุดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เสมอ 5 แพ้ 18) และยังหาชัยชนะเหนือปิศาจแดงไม่ได้เลย 13 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่พวกเขาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ 2 เกมติดต่อกันในปี 2009 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะเกมที่พวกเขาออกไปเยือนฟูแล่มในพรีเมียร์ลีกได้ตลอด 5 เกมหลังสุด มากกว่าที่พวกเขาเคยทำได้จาก 10 เกมก่อนหน้านี้ที่ออกไปเยือนทีมเจ้าสัวในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย (ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 2) นักเตะที่น่าจับตามอง…
ผลการแข่งขันที่คาด ไบรท์ตัน 2-1 แอสตัน วิลล่า เกร็ดน่ารู้ มีนักเตะเพียง 2 คนในฤดูกาลนี้ ที่มีโอกาสยิงตรงกรอบ 10 ครั้งขึ้นไปโดยที่ยังไม่สามารถพังประตูในพรีเมียร์ลีกได้– คือสองนักเตะของไบรท์ตันอย่างซอลลี่ มาร์ช (11 ครั้ง) และแดนนี่ เวลเบ็ค (10 ครั้ง) เจค็อบ แรมซี่ย์ยิงหนึ่งประตูบวกกับอีกแอสซิสต์ในเกมที่แอสตัน วิลล่าเปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเกมนั้นเพียงเกมเดียว เขามีส่วนร่วมกับประตูมากเท่ากับที่เขาเคยทำได้ตลอดการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 21 เกมก่อนหน้ารวมกันเลย (1 ประตู, 1 แอสซิสต์) ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด ไบรท์ตัน – ชนะ-ชนะ-แพ้-เสมอ-แพ้ แอสตัน วิลล่า – ชนะ-แพ้-ชนะ-แพ้-แพ้ สถิติต่าง ๆ ในเกมระหว่างไบรท์ตัน vs แอสตัน วิลล่า ไบรท์ตันเอาชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 6 เกมหลังสุดที่เจอกับแอสตัน วิลล่าในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 2 แพ้ 3) โดยพวกเขาเอาชนะแอสตัน วิลล่าได้ถึงถิ่นวิลล่า ปาร์คด้วยสกอร์ 2-1 ในเดือนพฤศจิกายน 2020 แอสตัน วิลล่ายังไม่แพ้เลยตลอด 6 เกมเยือนในพรีเมียร์ลีกกับไบรท์ตัน (ชนะ 2 เสมอ 4) นับตั้งแต่ที่พวกเขาแพ้ให้กับไบรท์ตัน 1-0 ในฤดูกาลที่พวกเขาเป็นแชมป์ในปี 1980-81 พวกเขาเอาชนะไบรท์ตันได้ในเกมที่ออกไปเยือนเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งวิลล่าก็หวังที่จะเก็บชัยชนะในเกมที่ออกไปเยือนไบรท์ตันติดต่อกันเป็นเกมที่ 2 เป็นครั้งแรกให้ได้ นักเตะที่น่าจับตามอง เจค็อบ แรมซี่ย์ นักเตะดาวรุ่งทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและนี่น่าจะช่วยให้เขามีความมั่นใจเต็มร้อยในเกมนี้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมถือเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของไบรท์ตันมาโดยตลอดในฤดูกาลนี้และอิมแพ็คของเขาน่าจะช่วยให้ไบรท์ตันเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ได้ในท้ายที่สุด
กระแสของฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้รับจากทั้งปฏิกิริยาในเชิงบวกและเชิงลบจากแฟน ๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ ในด้านบวก นี่คือฟุตบอลโลกและไม่มีทัวร์นาเมนต์ไหนในกีฬาฟุตบอลที่จะใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว โอกาสที่คุณจะได้เชียร์ทีมชาติโปรดในขณะที่พวกเขาไล่ตามความสำเร็จนั้นไม่เป็นสองรองถ้วยไหนแน่นอน แต่อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่าทุกอย่างมันก็ไม่ได้มีแต่ด้านดี ๆ เพียงอย่างเดียว เรื่องทางการเมืองในกาตาร์และการกระทำต่าง ๆ ของพวกเขาในการสร้างทัวร์นาเมนต์นี้และอื่น ๆ นั้นทำให้การดำเนินการต่าง ๆ กลับหยุดชะงักไป ยิ่งไปกว่านั้น การตัดสินใจจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในฤดูหนาวซึ่งจะต้องจัดในช่วงระหว่างที่ฤดูกาลของฟุตบอลสโมสรนั้นทำให้เกิดความคับข้องใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการจัดทัวร์นาเมนต์นี้ สมาคมฟุตบอลในประเทศและระดับทวีปจำเป็นต้องย่อตารางการแข่งขันของสโมสรลง ซึ่งหมายความว่าเหล่านักเตะชั้นยอดจำเป็นจะต้องลงแข่งขันหนึ่งเกมในทุก ๆ 3 วัน และเช่นเคย นักเตะพรีเมียร์ลีกในฟุตบอลโลกนั้นมักจะได้รับความสนใจอยู่เสมอ แต่ก็มีปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกเพียงไม่นาน จากการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงนี้ ทำให้นักเตะคนสำคัญในพรีเมียร์ลีกและในลีกอื่น ๆ จากทุกทวีปได้รับบาดเจ็บไปตาม ๆ กัน เรามาดูเหตุการณ์โชคร้ายล่าสุดซึ่งทำให้เหล่านักเตะชั้นนำในพรีเมียร์ลีกบางคนจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสฟุตบอลโลกในปีนี้ อาร์เธอร์ เมโล่ – ลิเวอร์พูล, บราซิล อาร์เธอร์ย้ายจากยูเวนตุสมาอยู่กับลิเวอร์พูลในรูปแบบการยืมตัวในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เนื่องจากเขาต้องการเวลาในการลงสนามที่มากขึ้นในอังกฤษ พร้อมกับโอกาสในการติดทีมชาติบราซิลไปฟุตบอลโลก แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคาดหวัง มิดฟิลด์วัย 26 ปีมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณต้นขาในระหว่างการซ้อมในเดือนตุลาคมและทำให้เขาต้องพลาดการลงสนามตลอด 3 เดือน โดยเขามีโอกาสลงเล่นให้กับลิเวอร์พูลไปเพียง 13 นาทีเท่านั้น อาร์เธอร์ลงเล่นให้กับทีมชาติบราซิลไปแล้ว 22 นัดและเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติบราซิลชุดแชมป์โคปา อเมริกาในปี 2019 รีซ เจมส์ – เชลซี, อังกฤษ ดูเหมือนว่ารีซ เจมส์นั้นจะจองตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาในนามทีมชาติเอาไว้ได้แล้วแท้ ๆ หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดทั้งรุกและรับให้กับทั้งในนามของสโมสรกับทีมชาติ แต่อาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่าในเกมที่พบกับเอซี มิลานในแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นทำให้เขาต้องพักถึง 8 สัปดาห์ด้วยกัน เขายังคงฝึกซ้อมเรียกความฟิตเพื่อให้หายเจ็บทันฟุตบอลโลกและมีรายงานว่าเขานั้นมีการฟื้นตัวที่เร็วกว่ากำหนดและมีสิทธิ์ที่จะหายจากอาการบาดเจ็บเร็วกว่ากำหนด เจมส์ในวัย 22 ปีนั้นลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 15 นัด เขาจำเป็นจะต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์เลยล่ะหากเขาอยากที่จะลงเล่นในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ได้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ – เชลซี, ฝรั่งเศส หนึ่งในนักเตะตัวสำคัญในทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกปี 2018 จะหมดสิทธิ์ลงเล่นในฟุตบอลโลกปีนี้เนื่องจากเอ็นโกโล่ ก็องเต้มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ห้องเครื่องวัย 31 ปีเริ่มมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนทำให้เขาไม่ได้ลงสนามนานกว่า 2 เดือนก่อนที่เขาจะกลับมาเจ็บในจุดเดิมอีกครั้ง อาการบาดเจ็บในครั้งที่สองของเขานั้นทำให้เขาพลาดโอกาสในการลงสนามไปอีก 3 เดือน ซึ่งมันทำให้เขาอดไปเล่นในฟุตบอลโลกอย่างแน่นอนเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ก็องเต้ถือเป็นนักเตะตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสด้วยการลงเล่นให้กับทีมชาติไปแล้วกว่า…
ผลการแข่งขันที่คาด เซเนกัล 2 – 2 เนเธอร์แลนด์ สนาม: อัล ทูมาน่า สเตเดี้ยม ทีมดีกรีแชมป์แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์อย่างเซเนกัลถือเป็นหนึ่งในทีมจากแอฟริกันที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก ซึ่งพวกเขาทะลุไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในฟุตบอลโลกปี 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อีกด้วย แต่ประตูในนาทีที่ 94 ของตุรกีทำให้พวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทีมที่ได้แค่เกือบ เฉียดไปเฉียดมาอยู่ตลอดเมื่อดูจากประวัติศาสตร์ พวกเขามีทีมและนักเตะระดับตำนานมากมาย แต่กลับไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย ฟอร์ม: เซเนกัล ทีมระดับแชมป์ทวีปแอฟริกัน 1 สมัยพึ่งคว้าแชมป์สมัยแรกมาได้สำเร็จในช่วงเดือนมกราคมและพร้อมที่จะลงเล่นในกลุ่มเอด้วยความมั่นใจ ทีมของพวกเขาเต็มไปด้วยนักเตะที่สร้างชื่อให้กับทวีปแอฟริกามามากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฟอร์มของพวกเขาก็กำลังได้ที่อีกด้วย ซึ่งพวกเขาแพ้เพียงแค่เกมเดียวตลอด 6 เกมหลังสุด (ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1) ฟอร์ม: เนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ถึง 3 ครั้งและเข้าชิงชนะเลิศอีก 1 ครั้งในฟุตบอลโลกปี 2014 พวกเขาคว้าอันดับที่ 3 ได้หลังจากที่แพ้ให้กับสเปนในนัดชิงชนะเลิศปี 2010 หลายปีมานี้ พวกเขาพยายามที่จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่และพวกเขาก็ยังไม่แพ้ใครเลยตลอด 6 เกมหลังสุด รวมถึงเกมที่พวกเขาปราบเบลเยียม, โปแลนด์และเวลส์มาได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมที่จะโชว์ฟอร์มเด็ดในทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์อย่างแน่นอน ทิศทางในเกมนี้จะเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าทีมอัศวินสีส้มจะมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยม แต่เซเนกัลก็เต็มไปด้วยนักเตะที่มีความเร็วและความอึด แทคติกของอลิอู ซิสเซ่ โค้ชของเซเนกัลนั้นยังถือเป็นลำดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย แน่นอนว่านี่คือเกมที่น่าสนใจและมีสิทธิ์ที่จะจบลงด้วยผลเสมอ
ผลการแข่งขันที่คาด โปรตุเกส 2- 0 กาน่า สนาม: สเตเดี้ยม 974 นอกเหนือจากเซร์คิโอ้ รามอสและลิโอเนล เมสซี่แล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ถือเป็นหนึ่งในสามนักเตะที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกปี 2006 และจะได้ลงเล่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ด้วย ในขณะที่เรื่องนี้อาจจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเกมนี้ แต่มันก็อาจจะทำให้เพื่อนร่วมทีมลงเล่นแบบถวายหัวให้กับนักเตะคนที่ถือว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในนามทีมชาติโปรตุเกส และเช่นกัน กาน่าก็ถือว่าเป็นทีมที่ไม่ยากนักสำหรับโรนัลโด้ที่จะทำประตู เพราะเขาต้องตกอยู่ในช่วงที่ฟอร์มไม่เป็นใจจากโอกาสในการทำประตูของเขาที่น้อยลงไปทุกวัน ฟอร์ม: โปรตุเกส โปรตุเกสเอาชนะได้ 3 จาก 6 เกมหลังสุด โดยสกอร์รวมจากชัยชนะ 3 นัดของพวกเขานั้นรวมได้เป็น 10-0 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่ขึงใส่คู่แข่งอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม การได้เจอกับทีมที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกด้วยกันแล้วล่ะก็ พวกเขากลับทำได้เพียงแค่เสมอ พร้อมกับแพ้ไปอีก 2 เกม ซึ่งก่อนที่จะลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ พวกเขาหวังพึ่งการจบสกอร์ที่เฉียบขาด, การสร้างสรรค์โอกาสและความสามารถในการยิงไกลซึ่งพวกเขามีนักเตะหลายคนที่มีความสามารถเหล่านั้น ฟอร์ม: กาน่า กาน่าถือเป็นทีมที่ด้อยกว่าทุกทีมที่มาจากแอฟริกาที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และนี่ถือเป็นผลสะท้อนจากสถิติ 6 เกมหลังสุดของพวกเขาก่อนที่จะเดินทางมาถึงเกมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ชนะ 1, เสมอ 3 และแพ้ไป 2 ซึ่งด้วยสถิติแบบนี้ จะมีใครกล้าที่จะมั่นใจในผลการเตรียมตัวแบบนี้ ว่าจะสามารถเจอกับทีมอย่างโปรตุเกสได้ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงมีนักเตะหน้าใหม่ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมและพร้อมที่จะคืนฟอร์มของพวกเขาแบบในฟุตบอลโลกปี 2010 ให้ได้ ทิศทางในเกมนี้จะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าโปรตุเกสเป็นทีมเต็งที่จะเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้และมันก็ยากที่จะมองยังไงให้โปรตุเกสพลาดไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ เพราะพวกเขาเหนือกว่าทั้งชื่อชั้นและฟอร์มการเล่น ทีมแชมป์ยูโร 2016 จะมองหาการออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมในเกมนัดแรกในกลุ่มนี้เพื่อพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในกลุ่มและทัวร์นาเมนต์
ผลการแข่งขันที่คาด เม็กซิโก 1 – 1 โปแลนด์ สนาม: สเตเดี้ยม 974 เม็กซิโกจะลงสนามในฟุตบอลโลกเกมแรกพบกับโปแลนด์ แต่เป้าหมายหลักของพวกเขาน่าจะเป็นที่เกมที่จะเจอกับอาร์เจนติน่า คู่ปรับที่ถือเป็นอริใหญ่แห่งทวีปอเมริกาใต้มากกว่า เม็กซิโกเป็นทีมชาติเดียวที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เกิน 10 ครั้งแต่ยังไม่สามารถคว้าแชมป์โลกได้เลย เหตุผลหลัก ๆ เลยส่วนหนึ่งก็คืออาร์เจนติน่านั่นเอง โปแลนด์ถือเป็นบททดสอบที่ดีเลยหากพวกเขาตั้งเป้าที่จะเอาชนะแชมป์โคปา อเมริกาสมัยล่าสุด ฟอร์ม: เม็กซิโก เม็กซิโกจะลงสนามดวลกับโปแลนด์หลังจากที่พึ่งพ่ายให้กับโคลัมเบีย ทีมที่เกือบจะแย่งตั๋วฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจากเอกวาดอร์ ซึ่งพลาดตั๋วไปเพราะมีประตูได้เสียน้อยกว่าเท่านั้น ชัยชนะเหนือไนจีเรีย, อุรุกวัยและปารากวัยจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมพร้อมรับมือโปแลนด์อยู่นั้น สิ่งที่พวกเขาควรกังวลมากที่สุดควรจะเป็นเรื่องของการพังประตู ซึ่งเห็นได้ชัดจาก 6 เกมหลังสุดของพวกเขา ฟอร์ม: โปแลนด์ โปแลนด์นั้นน่าจะเล่นได้ตามเกมของพวกเขาเองอย่างแน่นอน เมื่อดูจากฟอร์มของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่งสามารถปรับตัวเข้ากับสโมสรใหม่อย่างบาร์เซโลน่าได้อย่างรวดเร็ว อดีตดาวยิงของบาเยิร์น มิวนิคจะลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายและเขาก็พร้อมที่จะโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมาให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม รูปแบบในการสร้างโอกาสการทำประตูนั้นถือเป็นสิ่งที่ดาวยิงคนนี้ต้องกังวลและเม็กซิโกนั้นก็แข็งแกร่งพอที่จะหยุดไม่ให้พวกเขาสร้างโอกาสให้กับเลวานดอฟสกี้ได้ ทิศทางของเกมจะเป็นอย่างไร ทั้งสองทีมจะลงสนามฟาดแข้งกับเป็นเกมที่ 10 ในประวัติศาสตร์ ซึ่งตลอด 9 เกมที่ผ่านมา สถิติของทั้งสองทีมนั้นเรียกได้ว่าเท่ากันทุกระเบียดนิ้ว เนื่องจากสถิติที่พบกันมาก่อนหน้านี้คือต่าง ฝ่ายต่างแบ่งกันเก็บชัยชนะไปได้ทีมละ 3 เกมและเสมอกันอีก 3 เกม โดยเกมนัดนี้ทั้งสองฝ่ายน่าจะเน้นไปที่การตั้งรับแล้วสวนกลับ แต่ผลเสมอดูจะเป็นทางออกที่โอเคที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม เม็กซิโกมีสิทธิ์ที่จะเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ได้เช่นกัน