- Tottenham vs Nottingham Forest Preview: ผู้เข้าชมหวังว่าจะได้รับไอน้ำในการแข่งขัน 5 อันดับแรก
- อันดับ 15 Wonderkids ที่ดีที่สุดในการแข่งขันชิงแชมป์และลีกวัน
- Crystal Palace vs Bournemouth 0-0 รายงาน: Cherries Drop Points อีกครั้ง
- Everton vs Manchester City 0-2 รายงาน: Cityzens March on on Quest for UCL Spot
- Aston Villa vs Newcastle 4-1 รายงาน: Emery’s Side Secure Secure Vital ชนะในการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นขอบคุณเป้าหมายต้นและครึ่งหลัง Blitz
- Fulham vs Chelsea Preview: West London Derby ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายผลักดันให้ยุโรป
- Manchester United vs Wolves Preview: Amorim’s Men to มุ่งเน้นไปที่ UEL ในขณะที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพการฟื้นคืนชีพของหมาป่า
- เวสต์แฮมกับเซาแธมป์ตัน 1-1 รายงาน: เซนต์สคว้าออกมาสายดึก
Author: admin
ผลการแข่งขันที่คาด เยอรมัน 2 – 1 ญี่ปุ่น สนาม: คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม แชมป์โลก 4 สมัยอย่างเยอรมันต้องทนกับฟอร์มที่ย่ำแย่มาโดยตลอดนับตั้งแต่ที่พวกเขาเถลิงคว้าแชมป์โลกได้ในปี 2014 พวกเขาโดนเขี่ยตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2018 และก็ค่อย ๆ สร้างทีมใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขายังเป็นทีมแรกที่ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกด้วย ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังจะกลับมาครองความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และก็เช่นเดียวกับคู่แข่งของพวกเขาในเกมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ญี่ปุ่นก็เป็นทีมที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน ฟอร์ม: เยอรมัน เยอรมันกำลังกลับมาคืนฟอร์มและฟุตบอลโลกในครั้งนี้จะเป็นผลงานของการสร้างทีมใหม่โดยผู้จัดการทีมอย่างฮานซี่ ฟลิค แต่อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของพวกเขาในช่วงก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์นี้นั้นดูค่อนข้างน่าเป็นห่วง พวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 6 เกมหลังสุด โดยเสมอไปถึง 4 เกมและแพ้ไปอีก 1 เกม ถือว่าเป็นอะไรที่ห่างไกลจากคำว่า “พร้อม” มาก แต่เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ทีมยังขาดประสบการณ์ เนื่องจากฮานซี่ ฟลิคกำลังรวบรวมหนึ่งในทีมชุดดาวรุ่งอายุน้อยที่สุดที่เคยเป็นตัวแทนของประเทศในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกในครั้งนี้ ฟอร์ม: ญี่ปุ่น คู่แข่งของพวกเขาอย่างญี่ปุ่นนั้นมีเหล่านักเตะตัวเก๋ามากมายซึ่งพวกเขาเคยฉายแสงมาแล้วทั่วทั้งยุโรป ทีมซามูไรบลูจะลงเล่นในเกมนัดแรกของกลุ่มอีด้วยสถิติเก็บชัยชนะได้ 3 จาก 6 เกมหลังสุด หนึ่งในนั้นรวมถึงเกมที่พวกเขาเอาชนะสหรัฐอเมริกามาได้อีกด้วย พวกเขายังมีการจบสกอร์ที่เฉียบคมอีกด้วย ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับเยอรมันอย่างแน่นอน ทิศทางของเกมจะเป็นอย่างไร มันถือเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาผลการแข่งขันของเกมนัดนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากสถิติแล้ว ญี่ปุ่นมักจะมีปัญหาในการเจอกับเยอรมันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเยอรมันที่เอาชนะญี่ปุ่นไปได้ 2 เกมและเสมอกันไปอีก 2 นัดตลอด 4 เกมหลังสุดที่ทั้งสองทีมนั้นเจอกัน
ผลการแข่งขันที่คาด ฝรั่งเศส 3 – 0 ออสเตรเลีย สนาม: อัล จานูบ สเตเดี้ยม แชมป์โลกปี 2018 อย่างฝรั่งเศสโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ในช่วงปีที่ผ่านมา แต่นักเตะในทีมชุดนี้ก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกทีมหนึ่งอยู่ดี คุณภาพของนักเตะในทีมชาติฝรั่งเศสนั้นดีจนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ทีมที่ลุ้นแชมป์ได้ทั้งคู่เลยทีเดียวล่ะ โดยเกมนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ของพวกเขาจะเป็นการเจอกับทีมที่ไม่แข็งแกร่งมากนักในภารกิจป้องกันแชมป์โลกของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียมีสิ่งที่จะต้องพิสูจน์ให้โลกได้เห็นเช่นเดียวกับทีมอื่น ๆ ที่มาจากทวีปเอเชีย และการเอาชนะฝรั่งเศสในเกมนี้ได้น่าจะถือว่าเพียงพอแล้วล่ะ ฟอร์ม: ฝรั่งเศส ฝรั่งเศสแพ้มาถึง 3 จาก 6 เกมหลังสุดของพวกเขาและเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวจากการเอาชนะออสเตรียได้ ความพ่ายแพ้ต่อเดนมาร์ก, โครเอเชีย 2 ทีมที่พวกเขาเอาชนะมาได้ก่อนที่เถลิงขึ้นไปคว้าแชมป์โลกปี 2018 มาได้นั้นบอกถึงระดับของสภาพจิตใจของทีมได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของพวกเขาก็ดูไม่ไกลเกินเอื้อม เนื่องจากเหล่านักเตะตัวรุกของทีมกำลังสนุกไปกับฟอร์มอันร้อนแรงกับสโมสรของพวกเขา การรวบรวมพวกเขาลงเล่นด้วยกันนั้นเป็นภารกิจของดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ที่ต้องหล่อหลอมให้ฝรั่งเศสรวมเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ ฟอร์ม: ออสเตรเลีย ในขณะที่ออสเตรเลียเก็บชัยชนะได้ 3 จาก 6 เกมหลังสุด ถึงแม้ว่าคุณภาพของคู่แข่งนั้นจะเทียบกับทีมที่ฝรั่งเศสเจอไม่ได้ก็ตาม แต่ทีมจากแดนจิงโจ้ก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจากชัยชนะ 3 เกมติดต่อกันก่อนที่จะเริ่มลงฟาดแข้งในฟุตบอลโลก พวกเขาน่าจะต้องปรับปรุงเรื่องความสามารถในการสร้างโอกาสและทำประตู ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องเจอกับปัญหาในการทะลุเข้าถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอยู่เสมอ ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ฝรั่งเศสจะลงสนามในทัวร์นาเมนต์นี้ในฐานะหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ ซึ่งก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียถือเป็นทีมที่เบามากหากพวกเขาหวังที่จะป้องกันแชมป์ให้ได้ เรามองเห็นชัยชนะแบบใส ๆ สำหรับอดีตแชมป์โลก 2 สมัยและแน่นอนว่าคีเลี่ยน เอ็มบัปเป้จะโชว์ฟอร์มร้อนเป็นไฟราวกับทะเลทรายในกาตาร์เลยล่ะ
ผลการแข่งขันที่คาด บราซิล 2 – 1 เซอร์เบีย สนาม: ลูซอยล์ ไอคอนิค สเตเดี้ยม ในที่สุดแชมป์โลก 5 สมัยอย่างบราซิลก็กลับมาครองอันดับ 1 ในฟีฟ่า เวิร์ลด์ แรงค์กิ้งได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2017 ได้สำเร็จและพวกเขาก็พร้อมที่จะครองแชมป์ในปีนี้ให้ได้ ส่วนคู่แข่งของพวกเขาอย่างเซอร์เบียนั้นถือเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งและเป็นคู่แข่งที่เหมาะสมสำหรับพวกเขาในการที่จะพิสูจน์ถึงคุณภาพของพวกเขาในการที่กลับมาครองอันดับ 1 อีกครั้ง หากรวมเกมนัดแรกของทุกกลุ่มแล้ว นี่ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าตื่นเต้นที่สุดเพราะว่าทั้งสองทีมนั้นต่างก็ถือเป็นยอดทีมด้วยกันทั้งคู่ ฟอร์ม: บราซิล ทีมแซมบ้าเตรียมกลับมาลงฟาดแข้งในฟุตบอลโลกอีกครั้งด้วยความมั่นใจ โดยพวกเขาเก็บชัยชนะได้ 6 เกมรวดจาก 6 นัดหลังสุด ตอนนี้ พวกเขาเป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในโลกและสมควรแล้วที่จะได้กลับไปอยู่ในอันดับที่ 1 ในฟีฟ่า เวิร์ลด์ แรงค์กิ้ง นอกเหนือจากชัยชนะเหนือโบลิเวียและชิลีแล้ว ชัยชนะของพวกเขาต่อทีมที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกก็มีเช่นกัน มันยากมากที่จะชี้จุดอ่อนของทีมแซมบ้าชุดนี้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ซึ่งพวกเขาเป็นทีมที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งที่หมายจะคว้าแชมป์ให้จงได้ ฟอร์ม: เซอร์เบีย เซอร์เบียมีสถิติ 6 นัดหลังสุดที่ดี ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นพร้อมที่จะลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้เรียบร้อยแล้ว ชัยชนะ 4 นัด เสมอ 1 นัดและแพ้เพียง 1 นัดนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะเพิ่มความมั่นใจให้กับทุก ๆ ทีมบนโลกใบนี้ แต่คุณภาพของคู่แข่งในการเตรียมทีมของพวกเขานั้นก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยังวางใจไม่ได้ เนื่องจากตลอด 6 เกมหลังสุดนั้นเป็นเกมในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งแต่ละชาติก็ไม่ได้จริงจังอะไรอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เกมในฟุตบอลโลกนั้นเป็นอะไรที่แตกต่างออกไปมาก เพราะทุกชาติพร้อมที่จะใส่เกินร้อยเพื่อทุกแต้มในรายการนี้ ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ทีมชาติบราซิลถือเป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาเป็นทีมเต็งที่จะเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ด้วย นอกจากนี้ สถิติที่ทั้งสองทีมนั้นพบกันนั้นยังถือว่าเข้าทางพวกเขาอีกด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะเซอร์เบียได้มากกว่าเพียงครั้งเดียวก็ตาม แต่ถึงกระนั้น มันก็จะเป็นเกมที่น่าอึดอัด แต่สุดท้ายแล้วก็คงจะเป็นบราซิลที่เบียดเอาชนะไปได้ในที่สุด
ผลการแข่งขันที่คาด เบลเยียม 3 – 0 แคนาดา สนาม: อาห์เหม็ด อาลี สเตเดี้ยม ฟุตบอลโลก 2022 ถือเป็นโอกาสสุดท้ายของยุคทองของทีมชาติเบลเยียมแล้ว ซึ่งพวกเขายอมเสี่ยงเทหมดหน้าตักเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่ง การได้ขึ้นไปมีแต้มสะสมของฟีฟ่าขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะโดนบราซิลแย่งคืนในปีนี้ พวกเขานั้นไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลยในทุกทัวร์นาเมนต์ที่พวกเขามีส่วนร่วม ซึ่งแคนาดาก็ถือว่าอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่พวกเขาแค่ไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่าคู่แข่งของพวกเขาในเกมนัดแรกของพวกเขา ฟอร์ม: เบลเยียม เบลเยี่ยมแพ้ไป 2 จาก 6 เกมหลังสุดในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ความพ่ายแพ้ทั้งสองเกมนั้นมาจากเนเธอร์แลนด์ ส่วนในเกมที่พวกเขาเจอกับเวลส์และโปแลนด์ ทีมที่ดูจะอ่อนกว่าพวกเขาเมื่อดูจากรายชื่อนักเตะแล้ว พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างไม่มีปัญหา สถิตินี้แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่ติด ๆ ขัด ๆ ของพวกเขาตั้งแต่ศึกยูโร 2020 ซึ่งพวกเขาตกรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่อ่อนกว่า พวกเขาก็จะเปล่งประกาย แต่เมื่อต้องเจอกับคู่แข่งที่อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน พวกเขามักเจอกับปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงพึ่งพาความคิดสร้างสรรค์ในทีมของพวกเขาได้อยู่เสมอ ฟอร์ม: แคนาดา แคนาดากำลังจะปรากฏตัวในฟุตบอลโลกเพียงครั้งที่สองเท่านั้นนับตั้งแต่ปี 1986 พวกเขาสร้างทีมที่แข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยนักเตะมากพรสวรรค์ที่พร้อมจะครองโลกในทุก ๆ ลีกที่พวกเขาลงเล่น ฟอร์มเหล่านั้นถือเป็นการเตรียมตัวเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ในกาตาร์ โดยพวกเขาเก็บชัยชนะได้ 3 จาก 6 เกมหลังสุด แต่อย่างไรก็ดีเมื่อพวกเขาต้องเจอกับเหล่าทีมที่ได้สิทธิลงเล่นในฟุตบอลโลก พวกเขากลับไม่สามารถทำประตูได้เลยแม้แต่ประตูเดียว ทิศทางของเกมจะเป็นอย่างไร เบลเยียมจะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย เนื่องจากประสบการณ์ของพวกเขามีมากกว่าฝั่งของแคนาดาอยู่มากโข ไม่น่าเกิดเรื่องพลิกโผได้ในเกมนี้ ถึงแม้ว่าเบลเยียมจะส่งนักเตะตัวสำรองลงสนามก็ตาม
ในอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ข้างหน้า กาตาร์จะเป็นประเทศที่ต้อนรับเหล่ายอดทีมจากทั่วทุกทวีปบนโลก ในศึกฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะต้อนรับเหล่านักเตะที่ดีที่สุดในโลก ที่ต่างก็อยากจะสร้างชื่อให้กับพวกเขาเองและทำให้มันจารึกอยู่ในหน้าของประวัติศาสตร์ฟุตบอลไปตลอดกาล ฟุตบอลเป็นเกมแห่งเรื่องราวต่าง ๆ มากมายและฟุตบอลโลกก็ถือเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มาพร้อมกับการเดิมพันที่สูงที่สุดและอยู่ในจุดสูงสุดของวงการกีฬา ไม่เพียงแค่เหล่าทีมชาติเท่านั้นที่พร้อมจะแบกภาระอันหนักอึ้งนี้ แต่เหล่านักเตะก็เช่นกัน เหล่าดาวรุ่งหน้าใหม่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพื่อมาสร้างชื่อให้โลกได้เห็น แต่อีกฟากหนึ่ง เหล่านักเตะตัวเก๋าที่เคยลงเล่นในฟุตบอลโลกมาแล้วหลายครั้งก็จะลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของอาชีพการค้าแข้งและจำเป็นที่จะต้องคว้าแชมป์ให้ได้ในครั้งนี้ ครั้งสุดท้ายของพวกเขา จากทั้งหมดที่เราเกริ่นมานั้น พวกเราจะมาดู 10 นักเตะที่อาจจะได้ลงเล่นในฟุตบอลโลก 2022 เป็นครั้งสุดท้าย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ “สำหรับผมแล้ว มันเยี่ยมเลยครับ ผมหวังว่าฟุตบอลโลกที่กาตาร์จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายสำหรับผม” นี่คือคำพูดของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่พูดถึงฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ สำหรับกัปตันทีมชาติโปรตุเกสแล้ว พวกเราไม่จำเป็นจะต้องแนะนำอะไรอีกแล้ว เขาจะจบอาชีพการค้าแข้งของเขาด้วยการเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน มีเพียงไม่กี่คนในวงการฟุตบอลที่จะสามารถทำสิ่งที่เขาทำได้และมีอีกเพียงน้อยนิดที่จะสามารถก้าวข้ามผ่านสถิติของเขาได้ ดาวยิงวัย 37 ปีเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูมากที่สุดในนามทีมชาติและพาทีมชาติโปรตุเกสทะลุมาถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ แต่แชมป์ฟุตบอลโลกยังเป็นแชมป์รายการเดียวที่เขายังไม่เคยก้าวไปถึงซักที เขาจะลงสนามในเกมฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 5 ของเขาในฐานะกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ทีมชาติที่เต็มไปด้วยเหล่านักเตะพรสวรรค์มากมายซึ่งพร้อมที่จะจบทัวร์นาเมนต์นี้ในฐานะแชมป์โลกและเป็นดาวซัลโวสูงสุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเราจะได้เป็นสักขีพยานของจุดจบแห่งยุคคู่ปรับตลอดกาลของคริสเตียโน่ โรนัลโด้อย่างลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งเขาจะลงเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกับโรนัลโด้ แน่นอนว่าเมสซี่จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลเคียงข้างโรนัลโด้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ เช่นเดียวกับโรนัลโด้ เมสซี่เคยคว้าแชมป์ในระดับทวีปมาแล้ว และเขาก็พร้อมที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้เช่นเดียวกัน เรื่องราวที่ทุกคนรอคอย หากอาร์เจนติน่าเจอกับโปรตุเกสในนัดชิงชนะเลิศ มันคงจะน่าดูไม่น้อย จากความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2014 เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัยเป็นคนที่รู้ดีที่สุดถึงความเจ็บปวดของการเฉียดเข้าใกล้การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก หากคุณนับรวมถึงเกมที่อาร์เจนติน่าพ่ายให้กับฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกปี 2018 อาร์เจนติน่าจะเป็นทีมที่แพ้ให้กับทีมที่คว้าแชมป์โลกทีมล่าสุดทั้ง 2 สมัยติดต่อกันเลยทีเดียว ในปี 2022 ลิโอเนล เมสซี่และทีมงานไม่ต้องการที่จะกลับบ้านมือเปล่าอีกต่อไปแล้ว เมสซี่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 และพวกคุณก็ไม่สามารถมองข้ามเขาไปได้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงระดับตำนานของทีมชาติโปแลนด์ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรุ่นของตัวเขาเองและอาจจะเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโปแลนด์เลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังไม่เคยโชว์ฟอร์มเก่งในฟุตบอลโลกได้เลยซักครั้ง ในช่วงที่อายุ 34 ปี มันเป็นโอกาสที่ดีที่โอกาสการได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ของเลวานดอฟสกี้ที่อาจจะกลายเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว ฟุตบอลโลกครั้งแรกของเขานั้นกลับไม่ได้เป็นไปตามแผนการที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ซึ่งทีมชาติโปแลนด์กระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มโดยที่เขายิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว โปแลนด์อาจจะไม่ใช่ประเทศที่เป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก แต่เลวานดอฟสกี้จะมองหาโอกาสในการพาทีมชาติโปแลนด์อยู่ในทัวร์นาเมนต์นี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ลูก้า โมดริช เจ้าของรางวัลบอลทองคำของฟุตบอลโลกปี 2018 ตั้งเป้าว่าจะพาทีมชาติโครเอเชียไปให้ไกลกว่ารองแชมป์โดยการคว้าแชมป์โลกให้กับประเทศบ้านเกิดของเขา ลูก้า โมดริชลงเล่นในฟุตบอลโลกมาแล้ว 4 ครั้งและหวังว่าครั้งที่ 5 ของเขาจะกลายเป็นตัวเลขนำโชค…
ผลการแข่งขันที่คาด สหรัฐอเมริกา 1 – 1 เวลส์ สนาม: อาห์หมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม มันถือเป็นฟุตบอลโลกที่สุดแสนจะวิเศษสำหรับทีมชาติเวลส์ เพราะนับตั้งแต่ปี 1958 พวกเขานั้นไม่เคยดีพอที่จะผ่านทะลุมาถึงรอบสุดท้ายได้เลย เหล่านักเตะชุดที่ดีที่สุดในรอบหลายทศวรรษของพวกเขากำลังออกเดินทางไปที่กาตาร์เพื่อลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก และจะมองฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะโชว์ฝีมือของพวกเขาให้โลกได้เห็นเสียที ในทางกลับกัน ทีมชาติสหรัฐอเมริกาก็หวังที่จะรักษาฟอร์มที่ร้อนแรงเอาไว้ต่อไปในเวทีโลกหลังจากที่โชว์ฟอร์มครองทวีปอเมริกาเหนือมาแล้ว ฟอร์ม: สหรัฐอเมริกา ทีมชาติสหรัฐอเมริกาถือเป็นทีมที่มีนักเตะดาวรุ่งเยอะที่สุดในฟุตบอลโลกที่กำลังจะเริ่มต้นในอีกไม่ถึงเดือนนี้ ด้วยการที่ทีมมีนักเตะที่มีอายุ 24 ปีหรือต่ำกว่ามากถึง 15 คน และมีนักเตะที่อายุเกิน 30 ปีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ดีทีมรวมพลังดาวรุ่งแบบนี้อาจจะยังขาดประสบการณ์ในเกมใหญ่ ๆ อยู่บ้าง เราสามารถดูได้จากผลการแข่งขัน 6 เกมล่าสุดที่พวกเขาแพ้ไป 2 เกม ในเกมที่พวกเขาพบกับคอสตาริก้าและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสองทีมที่จะลงแข่งขันในฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วย การคุมทีมของเกร็ก เบอร์ฮอลเตอร์จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในครั้งนี้ ฟอร์ม: เวลส์ ในทางกลับกัน ทีมมังกรแดงนั้นมีนักเตะจอมเก๋ามากประสบการณ์อยู่เต็มทีม แม้ว่าพวกเขาจะได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี ประสบการณ์ที่เหนือกว่านี้น่าจะช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ในเกมที่พวกเขาต้องเจอกับทีมชาติสหรัฐอเมริกาในเกมนัดเปิดสนามของกลุ่มบี แต่อย่างไรก็ตาม ฟอร์มที่ย่ำแย่ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเดินทางมาถึงนั้นเป็นอะไรที่คู่แข่งนั้นสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนั้นได้ เวลส์เอาชนะได้เพียงแค่เกมเดียวตลอด 6 เกมหลังสุด ด้วยฟอร์มที่ย่ำแย่ในการเจอกับทีมที่ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกด้วย ทิศทางในเกมนี้จะเป็นอย่างไร การขาดประสบการณ์จะเป็นปัจจัยหลักของทั้งสองทีม แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองทีมเป็นทีมที่สร้างโอกาสได้ดีมากพอ ซึ่งหมายความว่าอย่างน้อยแต่ละทีมน่าจะสามารถพังประตูได้ แต่ทั้งสองทีมน่าจะเล่นอย่างระมัดระวังและไม่บุกสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน ซึ่งดูแล้วผลเสมอกันในเกมนี้มีสิทธิ์ที่จะไปได้มากที่สุด
ผลการแข่งขันที่คาด อุรุกวัย 2 – 1 เกาหลีใต้ สถานที่: เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม ทั้งสองทีมจะตบเท้าเข้าสู่ฟุตบอลโลกด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม หลังจากผลงานที่ดีในรอบปีที่ผ่านมาในรายการต่าง ๆ ทีมชาติเกาหลีใต้ถูกมองว่าเป็นม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์นี้ แต่อย่างไรก็ตาม บททดสอบในเกมนัดเปิดสนามของพวกเขาจะเป็นการพบกับอุรุกวัยที่ห่างหายจากการชูถ้วยมานานเกือบทศวรรษ นี่จะเป็นศึกใหญ่ที่ทุกสายตาจับตามองอย่างแน่นอน โดยเฉพาะที่กัปตันทีมอย่างหลุยส์ ซัวเรซและซอน ฮึง-มิน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เป็นนักเตะที่หวังจะพิสูจน์ตัวเองในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ให้จงได้ ฟอร์ม: อุรุกวัย เจ้าภาพชาติแรกและอดีตแชมป์ฟุตบอลโลกกำลังตามล่าแชมป์โลกสมัยที่สองของพวกเขานับตั้งแต่ปี 1950 และนับตั้งแต่ที่คว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2011 การเตรียมความพร้อมของพวกเขาสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้นั้นถือว่าดีเอามาก ๆ โดยพวกเขาเอาชนะได้ถึง 3 จาก 6 เกมหลังสุด พวกเขาน่าจะต้องพัฒนาเกมรับและเรื่องของความคมในการจบสกอร์ในช่วงอีก 1 อาทิตย์ก่อนที่จะลงเล่นในฟุตบอลโลกที่กาตาร์นี้ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ขยับเข้าใกล้ทีมที่มีเกมรุกที่แทบจะไร้ที่ติเข้าไปทุกขณะแล้วล่ะ ฟอร์ม: เกาหลีใต้ จากการที่พวกเขายังไม่แพ้ใครเลยมา 5 เกมติดนั้นน่าจะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ก่อนที่จะลงฟาดแข้งในฟุตบอลโลกอย่างแน่นอน พวกเขามีความเร็ว, ความแม่นยำและความอึดที่จะคอยฟัดกับคู่แข่งและแถมยังมีการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงพ่ายแพ้แทบทุกครั้งที่ต้องลงสนามเจอกับทีมระดับเวิร์ลด์คลาสและนี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลในการลงเล่นในเกมเปิดสนามเจอกับอุรุกวัย ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร เกมนี้ออกได้ทั้ง 3 หน้า ซึ่งทั้งสองทีมต่างมีจุดแข็งในแบบของตัวเอง สไตล์การเข้าบอลหนักของอุรุกวัยและความเร็วของเกาหลีใต้จะต้องมาเจอกัน เพราะงั้นแล้วมันจะเป็นศึกที่ว่าใครเป็นฝ่ายจบสกอร์ได้เฉียบคมมากกว่ากัน ถ้าเราจะต้องฟันธงจริง ๆ ผลเสมอถือว่าเป็นอะไรที่ดูจะเซฟที่สุดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม นักเสี่ยงดวงทั้งหลายสามารถเลือกเองตามใจชอบได้เลยว่าจะเลือกฝ่ายไหนเป็นฝ่ายเข้าวินไปในเกมนัดนี้
ผลการแข่งขันที่คาด สวิตเซอร์แลนด์ 2 – 1 แคเมอรูน สนาม: อัล จานูบ สเตเดี้ยม ทีมแชมป์แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ 5 สมัยอย่างแคเมอรูนกำลังเลียแผลใจจากฟอร์มที่เล่นได้อย่างน่าผิดหวังในทัวร์นาเมนต์ระดับทวีปที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพจัดเองด้วย โดยเป็นอียิปต์ที่เขี่ยพวกเขาตกรอบไปในปีนั้น ทำให้แคเมอรูนพลาดโอกาสในการคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ไปอย่างน่าเจ็บแสบ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังจบอันดับที่ 3 ของทัวร์นาเมนต์ไปได้ จากผลงานของดาวยิงระดับตำนานของแคเมอรูนอย่างซามูเอล เอโต้ที่ผันตัวไปเป็นผู้นำในคณะกรรมการบริหารฟุตบอลของแคเมอรูน พวกเขาได้รับการเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่แล้ว และพร้อมแล้วที่จะออกไปประกาศศักดาในฟุตบอลโลกที่กาตาร์เพื่อศักดิ์ศรีของทวีปแอฟริกา ฟอร์ม: สวิตเซอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ดูจะเป็นทีมที่ดีกว่าหากเทียบกันระหว่างฟอร์มของทั้งสองทีม ต้องขอบคุณทีมที่ทั้งสองได้เจอตลอด 6 เกมหลังสุดก่อนที่จะลงฟาดแข้งกันที่กาตาร์ 2022 สวิตเซอร์แลนด์เอาชนะได้ถึง 3 เกมในการพบกับทีมที่ได้สิทธิ์ลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบนี้อย่างโปรตุเกส, สเปนและสาธารณรัฐเช็ก ทีมที่พลาดตั๋วฟุตบอลโลกไปอย่างน่าเสียดาย โดยฟอร์มของผู้รักษาประตูของพวกเขาอย่างแยนน์ ซอมเมอร์ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเขาคือฟันเฟืองตัวสำคัญในการพาพวกเขามาอยู่ในจุด ๆ นี้ ฟอร์ม: แคเมอรูน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะครองทวีปแอฟริกามาตลอดหลายปี แต่แคเมอรูนก็ต้องพบกับปัญหาในการเจอกับคู่แข่งระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดของพวกเขาที่พ่ายให้กับอุซเบกิสถานไป 2-0 ซึ่งเป็นทีมที่ไม่ได้อยู่ใน 50 อันดับแรกของอัโลกด้วยซ้ำ มันแสดงให้เห็นว่าฟอร์มของพวกเขานั้นแตกต่างออกไปเมื่อต้องเจอทีมในระดับนานาชาติ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องความฟิตของพวกเขานั้นยังยอดเยี่ยมแบบไม่มีข้อกังขาอย่างแน่นอนและนี่ถือเป็นอาวุธหลักของพวกเขาในฟุตบอลโลกครั้งนี้เลยล่ะ ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร สวิตเซอร์แลนด์มีปัญหาในการจบสกอร์และนี่อาจจะเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาในการที่จะต้องเจอกับแคเมอรูนที่วิ่งแบบชนิดไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย แต่อย่างไรก็ตาม ชัยชนะน่าจะเป็นของทีมจากทวีปยุโรปและถึงแม้ว่าพวกเขาจะลงเล่นได้ด้วยฟอร์มที่ไม่ดีมากนักในเกมนั้น หรืออย่างแย่ที่สุด พวกเขาก็น่าจะยังพอเอาตัวรอดเก็บ 1 คะแนนได้สำเร็จอยู่ดี
ผลการแข่งขันที่คาด สเปน 2 – 1 คอสตาริก้า สนาม: อัล ธูมาน่า สเตเดี้ยม แชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 อย่างสเปนนั้นฟอร์มค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับหลังจากที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูโร 2008 แล้วแชมป์โลกปี 2012 ด้วยเหล่านักเตะชุดใหม่ที่ค่อย ๆ เรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับมา หลุยส์ เอ็นริเก้หวังที่จะสร้างตำนานในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนคู่แข่งอย่างคอสตาริก้านั้นก็ไม่ใช่ทีมหน้าใหม่ในทัวร์นาเมนต์นี้แต่อย่างใด แถมพวกเขายังโชว์ฟอร์มหรูได้บ้างในฟุตบอลโลกในอดีตอีกด้วย มันจะเป็นเกมที่แสดงให้เห็นว่าทีมไหนจะมีอีโก้ในการที่จะครองโลกมากกว่ากัน ฟอร์ม: สเปน สเปนจะลงสนามในเกมนี้ด้วยสถิติชนะ 3 เสมอ 2 และแพ้เพียงเกมเดียวตลอด 6 นัดหลังสุด โดยทั้ง 6 เกมนั้นเป็นเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์กระชับมิตร แต่มันก็เป็นเกมที่มีการเดิมพันสูงกว่าเกมที่ลงเล่นนอกยุโรปอยู่ดี ด้วยชัยชนะเหนือทีมที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกอย่างโปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์ เช่นเดียวกับสาธารณรัฐเช็กนั้นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถเก็บผลการแข่งขันตามที่ต้องการได้ ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับทีมที่มีประสบการณ์ก็ตาม ฟอร์ม: คอสตาริก้า คอสตาริก้าโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นในช่วงก่อนที่จะถึงฟุตบอลโลก ด้วยสถิติชนะไปถึง 5 เกมและเสมออีก 1 เกมตลอด 6 นัดหลังสุดนั้นถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจก่อนที่พวกเขาจะต้องลงสนามเจอกับทีมที่มักจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากคุณจะเลือกหนุนหลังคอสตาริก้า หากคุณเทียบจากระดับการเตรียมความพร้อมของพวกเขา – ชัยชนะของพวกเขานั้นมาจากทีมอย่างอุซเบกิสถานและเอล ซัลวาดอร์ แต่การประเมินแบบนี้ก็อาจจะเป็นการดูถูกความสามารถของพวกเขาได้เช่นกัน ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ สเปนจะลงเล่นในเกมนี้ในฐานะทีมเต็งที่จะเก็บ 3 คะแนน เมื่ออิงจากสถิติแล้ว สามารถบอกได้เลยว่าสเปนนั้นถือว่าเหนือกว่า ด้วยการที่พวกเขาสามารถเอาชนะได้ 2 จาก 3 ครั้งที่เจอกันด้วยสกอร์รวม 7-1 แต่อย่างไรก็ตาม คอสตาริก้าจะสู้จนหลังชนฝาและนี่จะเป็นเกมที่กดดันสำหรับทีมกระทิงดุอย่างแน่นอน
ผลการแข่งขันที่คาด กาตาร์ 1 – 1 เอกวาดอร์ สนาม: อัล บายท์ สเตเดี้ยม เจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 และเจ้าภาพครั้งแรกอย่างกาตาร์จะลงแข่งขันในเกมนัดเปิดสนามพบกับเอกวาดอร์ ทีมที่ทะลุมาถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 4 แม้ว่าทั้งสองทีมจะลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยความหวังจะไปถึงแชมป์อย่างแน่นอน แต่ว่าแฟน ๆ ของพวกเขาทั้งสองทีมก็คงไม่ได้คาดหวังอะไรกับพวกเขามากนักและก็พร้อมที่จะสนุกไปกับการลงสนามของทั้งสองทีม มันอาจะเป็นหนึ่งในเกมเปิดสนามที่ไม่ได้มีทีมชาติระดับบิ๊กเนมลงสนาม แต่ทั้งสองทีมก็จะต้องพิสูจน์ให้ทั้งโลกได้เห็นพวกเขาก็สามารถเล่นฟุตบอลระดับที่เอ็นเตอร์เทนคนดูได้ไม่แพ้ทีมใหญ่ ๆ เหมือนกัน ฟอร์มของทั้งสองทีม: กาตาร์ กาตาร์เพิ่งแพ้ไปเพียงแค่เกมเดียวตลอด 5 เกมหลังสุด แต่ในช่วงเวลานั้น พวกเขาก็เอาชนะได้เพียงเกมเดียวเหมือนกัน ส่วนสามเกมที่เหลือจบลงด้วยผลเสมอ หากพิจารณาจาก 6 เกมหลังสุดของพวกเขา พวกเขาเอาชนะได้ 2 เกม ชัยชนะทั้ง 2 เกมนั้นเป็นเกมที่พวกเขาเอาชนะทีมอย่างบัลแกเรียและกัวเตมาลา ซึ่งเป็นทีมที่พวกเขามีอันดับโลกเหนือกว่าทั้งคู่ สไตล์การเล่นของพวกเขานั้นเน้นเกมรุกเป็นหลัก และเกมรุกที่น่ากลัวของพวกเขานั้นก็อาจสร้างปัญหาให้กับหลาย ๆ ทีมที่ต้องเจอกับพวกเขาก็เป็นได้ ฟอร์ม: เอกวาดอร์ ในขณะที่ยอดทีมจากแดนอเมริกาใต้ก็ยังแพ้ใครไม่เป็นเลยตลอด 6 เกมหลังสุด ซึ่งเป็นอะไรที่น่าจะข่มขวัญคู่แข่งของพวกเขาในเกมเปิดสนามได้บ้างอย่างแน่นอน แต่ผิดกับกาตาร์ที่เอาชนะคู่แข่งที่อันดับต่ำกว่า เอกวาดอร์นั้นสามารถทำสถิติไร้พ่ายกับทีมที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา และมีอันดับโลกดีกว่าพวกเขาอย่างไนจีเรีย, อาร์เจนติน่า, เม็กซิโกและญี่ปุ่นได้ นั่นหมายความว่าทั้งคุณภาพของทีมและการเตรียมความพร้อมนั้นดีกว่าของทีมชาติกาตาร์มาก สไตล์การเล่นแบบเน้นรับและสวนกลับนั้นถือเป็นอาวุธหลักที่กาตาร์และทีมชาติอื่น ๆ ในกลุ่มเอควรที่จะต้องปวดหัวในการหาวิธีรับมืออย่างแน่นอน ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่ครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่ทั้งสองทีมเคยดวลแข้งกัน ซึ่งสถิติที่เจอกันมาสามนัดก่อนหน้านี้นั้น แบ่งเป็นต่างฝ่ายต่างชนะไปคนละ 1 เกมและเสมอกันไปอีก 1 เกม เมื่อดูจากประวัติการเจอกันของคู่นี้แล้ว ผลเสมอถือเป็นอะไรที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด เพราะทั้งสองทีมคงจะเล่นเน้นรัดกุมเพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดประเดิมนัดแรกด้วยความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน