- Wolves vs Fulham 1-2 รายงาน: ผู้เข้าชมย้อนกลับไปด้วยการชนะที่ Molineux
- Chelsea vs Southampton 4-0 รายงาน: Blues กลับไปสู่การชนะด้วย Saints Ramming
- Brighton vs Bournemouth 2-1 รายงาน: เชอร์รี่แพ้เกมย้อนกลับ
- Crystal Palace vs Aston Villa 4-1 รายงาน: Sarr Bags Brace in Villa Rout
- Brentford vs Everton Preview: Toffees ‘Resurgence เพื่อดำเนินการต่อที่สนามกีฬาชุมชน Gtech?
- Manchester United vs Ipswich Preview: Home Comforts จะทำงานได้อีกครั้งสำหรับปีศาจแดงหรือไม่?
- Tottenham vs Manchester City Preview: สเปอร์สมองหาแชมป์เปี้ยนที่ครองราชย์สองครั้ง
- Liverpool vs Newcastle Preview: Anfield Dreams of Premier League ชื่อเป็น Magpies เยี่ยมชม
Author: admin
จากการที่พรีเมียร์ลีกเข้าใกล้จุดสรุปเข้าทุกที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะต้องเร่งเครื่องแล้วหากยังอยากไปเล่นในศึก ยูฟ่าฯ แชมป์เปียนส์ ลีก อยู่ ในหกเกมที่เหลือนี้พวกเขาจะต้องเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด แม้จะต้องเจอกับทีมใหญ่ทั้งลิเวอร์พูล อาร์เซนอล และเชลซี ที่พร้อมจะขัดขาอยู่ตลอดก็ตาม ด้านทีมเยือนนอริช ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง แต่ก็ยังมีลุ้นหนีตกชั้นอยู่ หากพวกเขาสามารถชนะรวดได้ในทุกเกมที่เหลือของพวกเขา
ในเกมที่ผ่านมา อาร์เซนอลที่ถูกถล่มไปถึง 3-0 จากการไปเยือนคริสตัล พาเลซ โดยเรียกได้ว่าพวกเขาถูกสอนเชิงและสู้ไม่ได้ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย ด้านทีมนกนางนวล พวกเขากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตกอย่างหนัก ในสิบเอ็ดเกมล่าสุดในลีก พวกเขาชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น โดยลูกทีมของเกรแฮม พ็อตเตอร์ ออกสตาร์ตฤดูกาลได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่นับจากนั้นพวกเขาแพ้ไปถึงหกจากเจ็ดเกมล่าสุด และไม่ชนะใครเลยในช่วงเจ็ดเกมดังกล่าว
เลสเตอร์ ซิตี้ VS คริสตัล พาเลซ : พลพรรคจิ้งจอกจะต้องเป็นฝ่ายรับการมาเยือนของทีมปราสาทเรือนแก้วในศึกกลางตารางประจำอาทิตย์นี้ ในสามสิบเอ็ดนัดก่อนหน้านี้ พวกเขาแทบจะอยู่อันดับเดียวกัน โดยทั้งสองทีมมี 37 คะแนนเท่ากัน โดยพาเลซมีลูกได้เสียที่ดีกกว่า แต่ทีมจิ้งจอกยังลงเล่นน้อยกว่าอยู่สองนัด ทีมเจ้าบ้านปัจจุบันกำลังฟอร์มแรง ในห้าเกมล่าสุดพวกเขาชนะสาม เสมอหนึ่ง แพ้หนึ่ง หลังจากมีช่วงสี่เดือนก่อนหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะในสิบสี่เกมในช่วงก่อนหน้า พวกเขาชนะได้เพียงสามเกม เสมอสี่ แพ้ไปถึงเจ็ดเกม
เดือนเมษาสุดคิวแน่นของเวสต์แฮมยังคงดำเนินต่อไป เมื่อพวกเขาจะต้องออกไปเยือนเบรนต์ฟอร์ด ที่เบรนต์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรกในศึกพรีเมียร์ลีก ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ หลังจากเพิ่งเสมอกับลียง 1-1 ในเลกแรกของเกมยูโรป้าลีกรอบแปดทีมมาหมาด ๆ ทีมขุนค้อนจะเดินทางข้ามไปอีกฟากของลอนดอนเพื่อไปเยือนเบรนต์ฟอร์ดในเกมนี้ สำหรับทางเจ้าบ้าน เป้าหมายหลักของพวกเขาน่าจะเป็นหนีการตกชั้นให้ได้ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดีทีเดียว ปัจจุบันพวกเขาเก็บได้ถึง 33 คะแนน จาก 31 นัด รั้งอันดับที่ 14 ของตาราง และอยู่เหนือโซนตกชั้นทีมสุดท้ายอย่างเบิร์นลีย์ถึงเก้าคะแนน อย่างไรก็ดีเบิร์นลีย์ยังคงลงเล่นน้อยกว่าพวกเขาถึงสองนัด
พลพรรคนกขมื้นยังอยู่ห่างจากโซนปลอดภัยถึงเจ็ดคะแนน ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียงแปดเกมเท่านั้น จากนัดล่าสุดที่ออกไปเสมอไบรท์ตันได้แบบไร้สกอร์ 0-0 ส่วนทางฝั่งเบิร์นลีย์ปัจจุบันรั้งอันดับ 18 ของตาราง ตามหลังโซนปลอดภัยเพียงคะแนนเดียว และยังลงเล่นน้อยกว่านอริช และ วัตฟอร์ด อยู่หนึ่งนัด ทีมเยือนนั้นแพ้มาถึงสี่เกมติดก่อนที่จะหยุดสถิติไว้ได้ด้วยการชนะเอฟเวอร์ตัน 3-2 ได้ที่เทิร์ฟ มัวร์ ในคืนวันพุธที่ผ่านมา แม้จะตามหลังไปก่อน 2-1 ก็ตาม โดยแมกซ์เวลล์ คอร์เนต์ยังคงเป็นดาวซัลโวของทีมที่เจ็ดประตู และมีเจย์ โรดริเกวซ เป็นดาวซัลโวร่วมที่เจ็ดประตู (รวมทุกรายการ) เช่นกัน
วัตฟอร์ดจะเปิดสนามวิคาราจ โร้ด ต้อนรับการมาเยือนของลีดส์ในวันเสาร์นี้ ในศึกหนีตายท้ายตารางประจำสัปดาห์นี้ เวลาในการหนีตกชั้นของวัตฟอร์ดนั้นเหลือไม่มากแล้ว การปลดรานิเอรี่ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้วเปลี่ยนกุนซือใหม่เป็นกุนซือจอมเก๋าอย่างรอย ฮอดจ์สันก็ดูจะเป็นการตัดสินใจที่ดี แต่ปู่รอยไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ดีเท่าที่คิดไว้ จากการคุมทีมของเขาในฤดูกาลนี้ วัตฟอร์ดชนะได้สองเกมก็จริง แต่ในเก้านัดหลังสุด พวกเขาแพ้ไปถึงหกเกม ส่งผลให้พวกเขายังคงจมอยู่ในโซนตกชั้นจนถึงตอนนี้ ด้านลีดส์เจ้าบ้านก็ได้มีการแก้ไขสถานการณ์เช่นกัน ด้วยการทำใจยอมปลดกุนซือที่พาพวกเขาขึ้นมาเมื่อสองฤดูกาลก่อน อย่างมาร์เซโล บิเอลซ่า
เซาแธมป์ตันจะพบกับเชลซีในเกมลีกวันเสาร์นี้ โดยทั้งสองทีมต่างอยากกลับมาคืนฟอร์มเก่งและหาชัยชนะให้ได้อีกครั้ง ลูกทีมของ ฮัสเซนฮุตเทิล ฟอร์มดรอปไปมากทีเดียวในช่วงหลัง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหยุดสถิติแพ้รวดสี่นัดเอาไว้ได้ในเกมก่อน จากการเสมอลีดส์ 1-1 ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 12 ของตาราง และจะต้องเจอกับของแข็งอย่างเชลซีที่ไม่เคยเป็นงานง่ายในเกมนี้ โดยทั้งสองทีมพบกันมาแล้วสองครั้งในปีนี้ ผลคือเสมอกันทั้งสองครั้ง แต่เกมล่าสุดที่พบกันเป็นเชลซีของทูเคิลเอาชนะไปได้ในการดวลจุดโทษ ในศึกคาราบาวคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย และก่อนที่เกมนี้จะลงฟาดแข้งกัน สื่อดังอย่างเดอะ ฮาร์ด แท็กเคิล ก็จะวิเคราะห์เกมนี้อย่างละเอียดด้วย
สองทีมที่กำลังต้องการสามคะแนนทั้งคู่จะลงทำการแข่งขันกันในวันเสาร์นี้ ในเกมที่เอฟเวอร์ตันจะเปิดสนามกูดิสัน พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลพรรคท๊อฟฟี่นั้นเข้าใกล้โซนตกชั้นเข้าทุกทีแล้ว หลังจากเกมที่พวกเขาไปพลาดแพ้เบิร์นลีย์ ซี่งเป็นคู่แข่งหนีตกชั้นทางตรงไป 3-2 ส่วนทางด้านทีมเยือนก็เพิ่งห่างจากท็อป 4 ไปอีกก้าวเช่นกัน หลังพลาดเสมอกับเลสเตอร์ ซิตี้ไป แม้จะได้เล่นในบ้านของตัวเองก็ตาม โดยในเกมนี้ ทีมปีศาจแดงไม่อยู่ในโหมดที่จะพร้อมทำแต้มหลุดมืออีกแล้ว อย่างไรก็ดีพวกเขาก็ยังต้องการสามคะแนนเป็นอย่างมาก เพื่อโอกาสในการลุ้นท็อป 4 ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หวังว่าจะคืนฟอร์มเก่งและหยุดความพ่ายแพ้ต่อเนื่องนี้เสียที ในเกมที่พวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์สในเกมพรีเมียร์ลีกศุกร์นี้ เจ้าบ้านจะลงเล่นในเกมนี้แบบที่แพ้มาติดต่อกันสามครั้งในพรีเมียร์ลีกสามเกมก่อนหน้า และพวกเขาก็น่าจะต้องการที่จะพลิกสถานการณ์อันย่ำแย่นี้เป็นอย่างมาก ส่วนทางฝั่งทีมเยือน พวกเขาชนะมาสามนัดจากสี่นัดล่าสุดในลีก และอยู่ในอันดับที่แปดของตาราง โดยรวมแล้วพวกเขามีทั้งฟอร์มและผู้เล่นที่ดีกว่าเจ้าบ้านอย่างไม่ต้องสงสัย ก็ต้องรอดูต่อไปว่าพวกเขาจะสามารถเอาสามคะแนนกลับมาและสร้างความปวดใจให้กับแฟน ๆ สาลิกาดงได้หรือไม่ ในเกมสัปดาห์นี้
เกมวัดทางตรงสำหรับการหนีตกชั้นของทั้งสองทีม จะลงฟาดแข้งกันที่เทิร์ฟ มัวร์ ในเกมที่เอฟเวอร์ตันจะออกไปเยือนเบิร์นลีย์ในสัปดาห์นี้ เอฟเวอร์ตันปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 17 ของตาราง โดยแพ้เวสต์แฮม 2-1 เมื่อเกมก่อนในวันอาทิตย์ เป็นผลจากใบแดงของไมเคิล คีน กองหลังตัวเก่ง ทำให้ทีมเหลือสิบคนและแพ้ไปในที่สุด ทำให้ในตอนนี้พวกเขาอยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงสามแต้มเท่านั้น ด้านฝั่งเจ้าบ้าน ตอนนี้รั้งอันดับ 19 ของตาราง โดยแพ้แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงมา2-0 เมื่อวันเสาร์ ส่งผลให้พวกเขาแพ้รวดมาสี่นัดติดแล้ว