Author: admin

ผลการแข่งขันที่คาด ไบรท์ตัน 1-2 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส สูง 2.5 ลูก รองไบรท์ตัน +1 ลูก เกร็ดน่ารู้ เลอันโดร ทรอสซาร์ทำประตูได้ถึง 5 ประตูจาก 7 เกมในพรีเมียร์ลีกให้กับไบรท์ตันในฤดูกาลนี้ รวมถึงแฮตทริคในเกมที่เจอกับลิเวอร์พูลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพียงแค่ในฤดูกาล 2021-22 (8 ประตู) เท่านั้นที่ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมทำประตูได้มากกว่านี้ในพรีเมียร์ลีก 1 ฤดูกาล ในขณะที่เขากำลังมองหาโอกาสในการทำประตูเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก แฮร์รี่ เคนของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูได้ 100 ประตูในพรีเมียร์ลีกในเกมที่พวกเขาพ่ายให้กับอาร์เซน่อลในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเคนทำประตูได้ 5 ประตูจาก 7 เกมหลังสุดในลีกที่พบกับไบรท์ตัน รวมถึง 3 ประตูใน 4 เกมที่ลงเล่นในถิ่นเอเม็กซ์ สเตเดี้ยมอีกด้วย ฟอร์ม ไบรท์ตัน: เสมอ-ชนะ-แพ้-ชนะ-ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส: แพ้-ชนะ-ชนะ-เสมอ-ชนะ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างไบรท์ตัน VS ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ไบรท์ตันเอาชนะได้ใน 2 จาก 3 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส (แพ้ 1) มากกว่าที่พวกเขาเคยทำได้ในการพบกับสเปอร์ส 7 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกเสียอีก (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 5)  หลังจากเอาชนะไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยนไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมที่ออกไปเยือนได้ในเดือนมีนาคม สเปอร์สกำลังมองหาชัยชนะในลีกสูงสุดติดต่อกันในการออกไปเยือนทีมนกนางนวลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เคยทำได้ 3 นัดติดต่อกันในระหว่างปี 1980-1982 นักเตะที่น่าจับตามอง เลอันโดร ทรอสซาร์ ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มร้อนแรงในฤดูกาลนี้ และดูเหมือนว่าเขาก็มีโอกาสที่จะทำประตูเพิ่มในเกมนัดนี้อีกด้วย แฮร์รี่ เคน เคนยังเป็นตัวอันตรายอยู่เสมอและเขาก็มีโอกาสที่จะทำได้ 1-2 ประตูในเกมนี้อีกด้วย

ผลการแข่งขันที่คาด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 เบรนท์ฟอร์ด สูง 1.5 ลูก ต่อนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด -1 ลูก เกร็ดน่ารู้ เช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมในเกือบครึ่งจาก 15 ประตูในพรีเมียร์ลีกของเบรนท์ฟอร์ดในฤดูกาลนี้ (5 ประตู 2 แอสซิสต์) อีวาน โทนี่ย์มีโอกาสยิงได้มากกว่า (23 ครั้ง) และสร้างโอกาสทำประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์ (10 ครั้ง) มากกว่านักเตะคนอื่น ๆ ของเหล่าผึ้งพิฆาตในฤดูกาลนี้ กองหน้าของนิวคาสเซิลอย่างคัลลั่ม วิลสันทำประตูไปแล้ว 5 ประตูจากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 5 นัดหลังสุดและเขาก็กำลังมองหาโอกาสในการทำประตูในบ้านได้ 3 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ฟอร์ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด: ชนะ-เสมอ-เสมอ-แพ้-เสมอ เบรนท์ฟอร์ด: เสมอ-แพ้-ชนะ-เสมอ-เสมอ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด VS เบรนท์ฟอร์ด 5  นัดหลังสุดที่ทั้งสองพบกันในเซนต์ เจมส์ ปาร์ค มีประตูเกิดขึ้นถึง 24 ประตู โดยมีค่าเฉลี่ยต่อเกมถึง 4.8 ประตูต่อเกม ตลอดทั้ง 5 เกมนั้นเกิดขึ้นในทศวรรษที่ต่างกัน (1930s, 1940s, 1990s, 2010s, 2020s) ทีมจากลอนดอนไม่สามารถทำประตูได้ใน 3 เกมหลังสุดที่พวกเขาออกไปเยือนนิวคาสเซิล – เดอะ แม็กพายส์เสียประตูอย่างน้อย 1 ประตูใน 12 เกมก่อนหน้านั้น รวมทั้งหมดเป็น 29 ประตู นักเตะที่น่าจับตามอง อัลลัน แซงต์ แม็กซิแม็ง ปีกเลือดน้ำหอมถือเป็นตัวรุกที่อันตรายที่สุดในทีมสาลิกาดง เพราะเขาสามารถสร้างสรรค์เกมได้ไปพร้อม ๆ กับการทำประตู อีวาน โทนี่ย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษถือเป็น 1 ในดาวยิงระดับท็อปในพรีเมียร์ลีกและเป็นนักเตะที่เพิ่งได้รับโอกาสติดทีมชาติอังกฤษจากการทำงานหนักและผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาในฤดูกาลนี้อีกด้วย

ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 เซาแธมป์ตัน สูง 3.5 ลูก ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ -2.00 ลูก สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาลนี้รวมทุกรายการ เซาแธมป์ตันแพ้ในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทำประตูได้เกิน 2.5 ลูกจาก 5 ใน 6 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ เซาแธมป์ตันเก็บคลีนชีทไม่ได้เลยตลอด 18 เกมเยือนในพรีเมียร์ลีก นี่ถือเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดของทีมนักบุญในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมีใครหยุดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ร้อนแรงได้มั้ย? มันดูเหมือนว่าจะยังไม่มีทีมไหนที่ดีพอจะหยุดพวกเขาได้นะ ทีมเรือใบสีฟ้ายังคงโชว์ฟอร์มได้แข็งแกร่งและพึ่งถล่มคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปเละเทะด้วยสกอร์ 6-3 พร้อมกับถล่มโคเปนเฮเก้นในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยสกอร์ 5-0 ในช่วงกลางสัปดาห์ เป็นเรื่องตามคาดที่ฮาลันด์สามารถทำประตูได้อีกครั้ง จากการสัมผัสบอลครั้งแรกในเกมของเขาอีกด้วย และตอนนี้เขามีอัตราเฉลี่ยในการยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกสุดบ้าคลั่งที่ 1.27 ประตูต่อเกม ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังของเกม แต่เรือใบสีฟ้าแจ้งว่าเขาไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไรและนั่นถือเป็นข่าวร้ายสำหรับทีมเยือนอย่างทีมนักบุญนั่นเอง ฟอร์ม: เซาแธมป์ตัน ชัยชนะนัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีกของเซาแธมป์ตันนั้นมาจากเกมที่พวกเขาเอาชนะเชลซีได้ แต่นับตั้งแต่นั้น พวกเขาก็แพ้ไปแล้วถึง 3 เกมติดต่อกัน รวมถึงเกมที่พ่ายให้กับเอฟเวอร์ตันด้วยสกอร์ 2-1 อีกด้วย ทีมนักบุญนั้นไม่ได้เล่นได้แย่เลย แต่พวกเขาเหมือนจะขาดโชคในการจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้าย พวกเขาต้องโคจรมาพบกับทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกและในขณะที่คงไม่มีใครกล้าโทษพวกเขาหากพวกเขาจะพ่ายให้กับทีมแชมป์เก่าในเกมนี้ มันก็คงจะดีกว่าในการที่ไม่ต้องแพ้แบบหมดรูป สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs เซาแธมป์ตัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้แพ้เพียงแค่เกมเดียวตลอด 12 เกมในพรีเมียร์ลีกที่พบกับเซาแธมป์ตัน (ชนะ 8 เสมอ 3) แต่ทั้ง 2 เกมที่ทั้งคู่เจอกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วนั้นจบลงด้วยผลเสมอทั้ง 2 เกม หลังจากที่เซาแธมป์ตันเอาชนะในการบุกไปเยือนเอทิฮัด สเตเดี้ยมได้เป็นครั้งแรกในลีกในเดือนเมษายน 2004 (ด้วยสกอร์ 3-1) หลังจากนั้น เซาแธมป์ตันก็เก็บได้เพียง 2 แต้มจาก 11 เกมที่ออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้…

ผลการแข่งขันที่คาด เชลซี 2-0 วูล์ฟ สูง 1.5 ลูก ต่อเชลซี -1 ลูก เกร็ดน่ารู้ ทั้งรูเบน เนเวสและเจา มูตินโญ่จะได้ลงเล่นให้กับวูล์ฟแฮมป์ตันในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมที่ 151 ซึ่งจะทำให้พวกเขาขึ้นทำเนียบนักเตะที่ลงสนามให้กับวูล์ฟมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับคอนอร์ โคอาดี้  ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าของวูล์ฟแฮมป์ตันทำประตูไปแล้ว 30 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์จากการลงเล่นตลอด 45 นัดในพรีเมียร์ลีกในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ มีค่าเฉลี่ย 1 ประตูหรือแอสซิสต์ทุกๆ 95 นาที ในบรรดานักเตะที่ลงสนามมากกว่า 1,000 นาทีให้กับเชลซีในพรีเมียร์ลีก มีเพียงดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (ทำประตูหรือแอสซิสต์ทุก ๆ 88 นาที) เท่านั้นที่มีค่าเฉลี่ยดีกว่าคอสต้า ฟอร์ม เชลซี: ชนะ-ชนะ-แพ้-ชนะ-แพ้ วูล์ฟ: แพ้-แพ้-ชนะ-เสมอ-เสมอ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างเชลซี vs วูล์ฟ เชลซียังคงควานหาชัยชนะไม่เจอตลอด 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พวกเขาพบกับวูล์ฟ (เสมอ 3 แพ้ 1) โดยการพบกัน 3 นัดหลังสุดจบลงด้วยผลเสมอทั้งหมด วูล์ฟก็ไร้ชัยชนะตลอด 9 นัดหลังสุดที่ออกไปเยือนเชลซีในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 4 แพ้ 5) นับตั้งแต่เอาชนะได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในเดือนมีนาคม 1979 พวกเขายิงประตูไม่ได้ถึง 6 จาก 9 นัดที่ออกไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ นับตั้งแต่ที่วูล์ฟกลับขึ้นมาอยู่ในพรีเมียร์ลีกในปี 2018 เชลซีทำแต้มหล่นไปถึง 8 แต้มจากเกมที่กำลังจะเก็บชัยชนะกับวูล์ฟ ซึ่งมากกว่าทุก ๆ ทีมที่พวกเขาเคยเจอในช่วงเวลานั้น นักเตะที่น่าจับตามอง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ดาวยิงทีมชาติกาบองทำไป 2 ประตูในช่วง 2 เกมหลังสุดและเขาก็กำลังมั่นใจเต็มถังในการที่จะเบิกสกอร์เพิ่ม…

ผลการแข่งขันที่คาด บอร์นมัธ 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้ สูง 2.5 ลูก รองบอร์นมัธ +1 ลูก เกร็ดน่ารู้ นี่จะถือเป็นเกมนัดที่ 100 ของบอร์นมัธในการลงสนามในบ้าน – มีเพียง 1 ใน 8 ทีมที่ลงเล่นอย่างน้อยถึง 100 นัดที่สามารถเอาชนะในเกมนัดที่ 100 ได้ (เสมอ 3 แพ้ 4) ทีมล่าสุดก็ถือเป็นทีมเดียวที่สามารถทำได้ถึงขณะนี้ นั่นก็คือน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ที่เอาชนะเวสต์แฮมไปได้ในเดือนสิงหาคม 1-0 บอร์นมัธไม่สามารถพังประตูในเกมพรีเมียร์ลีกในบ้านได้เลยตลอด 3 เกมที่ผ่านมา – มีเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกที่พวกเขายิงประตูในบ้านไม่ได้ติดต่อกัน 4 นัด ซึ่งต้องย้อนไปถึงในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2005 ตอนที่พวกเขาอยู่ในลีกวัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจมอยู่ในอันดับที่ 19 ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก แต่มีเพียง 5 ทีมเท่านั้นที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้มากกว่าเลสเตอร์ (14 ประตู) โดยทีมจิ้งจอกสยามทำประตูได้มากกว่าทุกทีมที่อยู่ในครึ่งล่างของตาราง อย่างไรก็ดีทีมจิ้งจอกสยามยังมีสถิติเกมรับที่ไม่ค่อยดีนัก เสียไปถึง 22 ประตู โดย 36 ประตูรวมทั้งได้และเสียของพวกเขาในฤดูกาลนี้นั้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร นับตั้งแต่ปี 1965-66 ภายใต้การคุมทีมของแมตต์ กิลลี่ส์ (ยิงได้ 16 ประตู เสีย 21 ประตู)  ฟอร์ม (5 นัดหลังสุด) บอร์นมัธ: เสมอ-เสมอ-ชนะ-เสมอ-แพ้  เลสเตอร์ ซิตี้ : ชนะ-แพ้-แพ้-แพ้-แพ้  สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างบอร์นมัธ vs เลสเตอร์ ซิตี้ บอร์นมัธไม่เคยแพ้ในบ้านให้กับเลสเตอร์ในพรีเมียร์ลีกมาก่อนเลย (ชนะ 3 เสมอ 2) – ไม่มีทีมไหนที่พวกเขาลงเล่นในบ้านโดยไม่เคยแพ้ให้เลยในพรีเมียร์ลีกนอกเสียจากทีมจิ้งจอกสยามเท่านั้น หลังจากที่ไม่สามารถเอาชนะบอร์นมัธได้เลยตลอด 7 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกที่เจอกัน เลสเตอร์ก็สามารถเอาชนะเดอะเชอร์รี่ส์ได้แล้วถึง 2 ใน…

ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 โคเปนเฮเก้น สูง 3.5 ลูก ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ -2.00 ลูก สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูจาก 3 ใน 4 เกมหลังสุดของพวกเขา และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังไม่เคยแพ้ใครในฤดูกาลนี้ รวมทุกรายการ โคเปนเฮเก้นทำประตูได้เพียง 3 ประตูใน 5 เกมรวมทุกรายการ โคเปนเฮเก้นเสียอย่างน้อย 2 ประตูจาก 3 ใน 5 เกมหลังสุดของพวกเขารวมทุกรายการ ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับแชมเปี้ยนส์ลีก ฟอร์มของพวกเขาในการไล่ถล่มเพื่อนร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปถึง 6-3 นั้นก็คงพอที่จะทำให้เราพอเห็นภาพได้แล้วล่ะ ว่าพวกเขาน่ะของจริงแค่ไหน ในขณะที่สกอร์ที่ออกมาอาจจะทำให้เราคิดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพอจะสู้ได้อยู่บ้าง แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเกมของเรือใบสีฟ้าอยู่ฝ่ายเดียวเลยล่ะ ปิศาจแดงไม่มีวิธีอะไรหรือใครที่จะหยุดเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ได้เลย ซึ่งตอนนี้เขาทำแฮตทริคในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 3 ครั้งจากการลงเล่นไปเพียง 8 เกมเท่านั้น ถ้าคุณคิดว่าเรือใบสีฟ้ามีแค่ฮาลันด์ที่อันตรายในตอนนี้แล้วล่ะก็ อยากให้คุณลองคิดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากฟิล โฟเด้นก็เป็นอีกคนที่ทำแฮตทริคได้ในเกมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าจะเป็นนักเตะคนไหนของเรือใบสีฟ้าก็สามารถทำประตูได้ทั้งนั้น ฟอร์ม: โคเปนเฮเก้น มันอาจจะเป็นเกมที่โคเปนเฮเก้นคงอยากที่จะรีบ ๆ เล่น และรีบ ๆ ลืมไปซะ เพราะพวกเขาจะต้องลงเล่นกับเรือใบสีฟ้าในช่วงที่พวกเขาโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก การออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ที่ไม่คงเส้นคงวาของโคเปนเฮเก้นนั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเกมนัดนี้ถึงจะกลายเป็นเกมของเรือใบสีฟ้าเพียงฝ่ายเดียว ในท้ายที่สุดแล้ว โคเปนเฮเก้นก็เก็บชัยชนะได้ในวันที่ 2 กันยายนในเกมลีกด้วยการเอาชนะอาร์ฮุสไปได้อย่างทุลักทุเลด้วยสกอร์ 1-0 ก่อนที่จะเก็บชัยชนะในนัดนั้น ลูกทีมของเจค็อบ นีสตรั้ปยิงประตูได้เพียง 2 ประตูรวมทุกรายการและทั้ง 2 ประตูนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นในแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย มันอาจจะเป็นความพ่ายแพ้อีกนัดที่เอทิฮัด สเตเดี้ยมและผู้มาเยือนจะถือว่าโชคดีเอามาก ๆ หากพวกเขาไม่โดนถล่มกลับบ้าน สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้…

ผลการแข่งขันที่คาด เชลซี 1-2 เอซี มิลาน สูง 2.5 ลูก รองเอซี มิลาน +1.00 ลูก สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ เชลซีเสียประตูทุกนัดตลอด 7 นัดหลังสุดของพวกเขา เชลซียังไม่แพ้ใครในบ้านในฤดูกาลนี้ นับตั้งแต่เดือนเมษายน มีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่เอซี มิลานยิงประตู เอซี มิลานเก็บคลีนชีทไม่ได้เลยตลอด 5 นัดหลังสุด ฟอร์ม: เชลซี เชลซีเก็บชัยชนะเหนือคริสตัล พาเลซไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทีมได้ประตูชัยจากคอเนอร์ กัลลาเกอร์ในช่วงท้ายเกม แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังห่างไกลจากคำว่าผลงานที่ยอดเยี่ยม สำหรับเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกของเกรแฮม พ็อตเตอร์ที่เข้ามาคุมทีมในเกมที่หลายคนคิดว่าติอาโก้ ซิลวาน่าจะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปแล้วด้วยซ้ำ ในขณะที่สิงห์บลูส์ยังคงโชว์ฟอร์มได้ไม่คงเส้นคงวาในลีก ฟอร์มในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกของพวกเขาก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วง โดยพวกเขามีเพียงแต้มเดียวหลังจากผ่านไปแล้วสองเกม แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาตามหลังจ่าฝูงของกลุ่มอย่างเอซี มิลานเพียงสามแต้มเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าชัยชนะในนัดนี้อาจเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเขาและกลุ่มนี้ไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็เป็นได้  ฟอร์ม: เอซี มิลาน เอซี มิลานโชว์ฟอร์มเตรียมรับเชลซี ด้วยการเกมชัยชนะเหนือเอ็มโปลีด้วยสกอร์ 3-1 ในเกมลีก เซเรีย อาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่สำหรับมิลาน มาจากความจริงที่ว่าพวกเขาจะไม่มีนักเตะคนสำคัญหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เตโอ เอร์นานเดซ, ซานโดร โตนาลี่และผู้รักษาประตูอย่างมิค เมญอง เรื่องนี้จะสร้างปัญหาที่ยากลำบากให้กับของสเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือของทีม ซึ่งยังมีโอกาสที่จะหมดสิทธิ์ใช้งานดาวยิงของทีมอย่างดิว็อก โอริกี้และอันเต้ เรบิชอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี พวกเขายังมีขุมกำลังที่ดีพอในการที่จะเก็บผลการแข่งขันที่น่าพอใจกลับบ้าน สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างเชลซี VS เอซี มิลาน ทั้งสองทีมเคยดวลกันมาแล้ว 5 ครั้งในศตวรรษก่อนหน้านี้ สถิติถือว่าสูสี โดยทั้งสองเอาชนะกันได้ทีมละครั้ง เสมอกัน 3 ครั้ง ยิงได้และเสียไป 5 ประตูเท่ากัน เชลซีจะลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดต่อไป โดยมีค่าเฉลี่ย 1.4 ประตูต่อเกมใน 10 นัดหลังสุด…

ผลการแข่งขันที่คาด แฟร้งค์เฟิร์ต 1-3 สเปอร์ส สูง 2.5 ลูก ต่อสเปอร์ส -1.00 ลูก สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ แฟร้งค์เฟิร์ตเอาชนะอูนิโอน เบอร์ลินได้ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าตอนนี้พวกเขาเอาชนะมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สพึ่งจบสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีก 14 นัดลงด้วยน้ำมือของอาร์เซน่อลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แฟร้งค์เฟิร์ตยิงประตูได้ 3 ลูกหรือมากกว่าใน 3 จาก 6 เกมหลังสุดของพวกเขา แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไม่สามารถเก็บคลีนชีทได้เลยใน 8 จาก 10 เกมหลังสุด ฟอร์ม: แฟร้งค์เฟิร์ต ในเกมก่อนลงเล่นในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตเอาชนะอูนิโอน เบอร์ลินไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมบุนเดสลีก้าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประตูในครึ่งแรกจากนักเตะตัวรุกอย่างมาริโอ เกิตเซ่และมิดฟิลด์ชาวเดนมาร์คอย่างเจสเปอร์ ลินด์สตรอมทำให้ลูกทีมของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าในครึ่งหลัง ศูนย์หน้าเลือดน้ำหอมอย่างแรนดาล โคโล่ มูอานี่จะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามก็ตาม ในแชมเปี้ยนส์ลีก มาร์กเซย์มีแต้มเท่ากันกับท็อตแน่มหลังจากผ่านมาแล้ว 2 เกมและชัยชนะในนัดนี้ก็จะทำให้พวกเขาขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีหลังจากจบเกมที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่ม ฟอร์ม: ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส เสียงเชียร์ของแฟนไก่เดือยทองน่าจะลดลงไปบ้างหลังจากที่ท็อตแน่มพ่ายให้กับอาร์เซน่อลในเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ไปด้วยสกอร์ 3-1 ในช่วงสุดสัปดาห์ ประตูจากโธมัส ปาร์เตย์, กาเบรียล เชซุสและกรานิต ชาก้าช่วยให้ปืนใหญ่เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จและประตูจากลูกจุดโทษของแฮร์รี่ เคนก็เป็นเพียงประตูปลอบใจในเกมที่เอเมอร์สัน รอยัลโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และไม่มีเวลาให้พวกเขามัวแต่จมอยู่กับความพ่ายแพ้ เนื่องจากการกลับมาเก็บ 3 คะแนนเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของอันโตนิโอ คอนเต้ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต VS ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส นี่คือเกมแรกในประวัติศาสตร์ที่ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตจะพบกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สในแชมเปี้ยนส์ลีก มิดฟิลด์เลือดซามูไรอย่างไดจิ คามาดะมีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 6 ลูกให้กับไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตในบุนเดสลีก้าในฤดูกาลนี้…

ผลการแข่งขันที่คาด ลิเวอร์พูล 2-1 เรนเจอร์ส สูง 2.5 ลูก รองเรนเจอร์ส +1.00 ลูก สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ ลิเวอร์พูลเอาชนะได้เพียง 3 เกมจาก 8 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ในทางกลับกัน เรนเจอร์สเอาชนะเกมลีกติดต่อกัน 5 นัดรวดและแพ้ไปเพียง 2 นัดจาก 8 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ซึ่ง 2 เกมที่พวกเขาแพ้ก็คือเกมในแชมเปี้ยนส์ลีกนั่นเอง ลิเวอร์พูลมีผลงานเปิดฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 ปีและความพ่ายแพ้อีกนัดจะทำให้พวกเขายิ่งแย่ลงไปอีก ฟอร์ม: ลิเวอร์พูล สิ่งต่าง ๆ ยังคงไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้สำหรับลิเวอร์พูล ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโชว์การคัมแบ็คจากการตามหลังถึง 2 ประตู ในเกมกับไบรท์ตันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนกลับมาแซงขึ้นนำได้ 3-2 แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรักษาสกอร์นั้นเอาไว้ได้ เนื่องจากเลอันโดร ทรอสซาร์ลงโทษแนวรับสุดหละหลวมของหงส์แดงได้อย่างเฉียบขาดทุกครั้ง เมื่อทีมหงส์แดงพลาดเปิดช่องให้กับดาวยิงชาวเบลเยียม ตอนนี้พวกเขาอยู่อันดับ 2 ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก หากพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเรนเจอร์สได้ในเกมนี้ อาจจะทำให้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและพวกเรามั่นใจได้เลยว่าหงส์แดงจะลงเล่นอย่างเต็มที่ในเกมนี้อย่างแน่นอน ฟอร์ม: เรนเจอร์ส ตรงกันข้ามกับลิเวอร์พูล เรนเจอร์สกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมลีกและพวกเขาก็พึ่งถล่มฮาร์ทส์มาได้ด้วยสกอร์ 4-0 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับแพ้ใน 2 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกและหากพวกเขาแพ้อีกนัดในเกมนี้ อาจจะทำให้พวกเขาถึงขั้นตกรอบเลยก็เป็นได้ แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง พวกเขาตามหลังลิเวอร์พูลและอาแจ็กซ์เพียง 3 คะแนนเท่านั้น เพราะงั้นพวกเขายังคงมีหวังในการผ่านเข้ารอบอยู่ สถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเกมระหว่างลิเวอร์พูล VS เรนเจอร์ส ลิเวอร์พูลเคยเจอกับเรนเจอร์สมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้และเกมนั้น หงส์แดงเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ ตัวรุกทีมชาติบราซิลอย่างโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นให้กับลิเวอร์พูล ศูนย์หน้าวัย 31 ปีมีส่วนร่วมไปแล้วถึง 8 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ดาวยิงตัวดังของทีมอย่างโมฮาเหม็ด ซาล่าห์กำลังมีฤดูกาลที่ไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างนักในฤดูกาลนี้ จากการที่เขามีส่วนร่วมกับประตูเพียง 5 ลูกในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลเก็บคลีนชีทได้เพียง 2 นัดจาก 9 นัดรวมทุกรายการ แบ็คขวาอย่างเจมส์ ทาเวอร์เนียร์มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้วถึง 6 ประตูในลีกให้กับเรนเจอร์ส นักเตะที่น่าจับตามอง…

ผลการแข่งขันที่คาด เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต่ำ 2.5 ลูก รองเลสเตอร์ ซิตี้ +1.00 ลูก สถิติต่าง ๆ ที่สำคัญ เลสเตอร์ยังคงเป็นทีมเดียวที่ยังคงไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (เสมอ 1 แพ้ 6) ในขณะที่พวกเขายังควานหาชัยชนะในเกมที่เล่นในบ้าน 4 เกมแรกในลีกฤดูกาล 2001-02 โดยจบอยู่บ๊วยของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้นอีกด้วย น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์แพ้เกมลีกมา 4 นัดติดต่อกัน โดยเสียประตูอย่างน้อย 2 ประตูจากทั้งหมด 4 นัด โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาแพ้ 5 นัดติดต่อกันในลีกในฤดูกาลเดียวนั้นต้องย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ปี 2004 เลยทีเดียว  หลังจากที่เลสเตอร์แพ้คาบ้าน 2 นัดติดในพรีเมียร์ลีก (แพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 และแพ้ให้กับเซาแธมป์ตัน 1-2) เบรนแดน ร็อดเจอร์สมีสิทธิ์ที่จะแพ้คาบ้านในลีก 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีม ไม่มีทีมไหนที่เสียประตูจากลูกตั้งเตะ (ไม่รวมลูกจุดโทษ) มากไปกว่าเลสเตอร์และน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์อีกแล้ว (ทั้งคู่เสียไปแล้ว 5 ประตู) ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ฟอร์ม: เลสเตอร์ ซิตี้ ถึงแม้ว่าช่วงพักเบรคทีมชาตินั้นเป็นสิ่งที่แฟนบอลไม่ค่อยจะถูกใจซักเท่าไหร่นัก แต่แฟน ๆ ของเลสเตอร์ ซิตี้ดูจะชอบใจที่จะมีช่วงให้พักหายใจบ้าง เพราะพวกเขาคือทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ยังคงไร้ชัยชนะในฤดูกาลนี้โดยรั้งตำแหน่งบ๊วยของตารางคะแนนอยู่ในขณะนี้ 2 แมตช์ล่าสุดของเลสเตอร์คือการแพ้เละให้กับไบรท์ตันและท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สด้วยสกอร์ 5-2 และ 6-2 ตามลำดับ โดยนี่เป็นการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ที่สุดใน 7 เกมแรกของฤดูกาลในทุก ๆ ดิวิชั่นตั้งแต่เริ่มต้นยุคของพรีเมียร์ลีก ทีมจิ้งจอกสยามจะกลับมาเปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมด้วยความความกดดันอย่างหนัก  เพราะก่อนหน้านี้ พวกเขาแพ้คาบ้านมาแล้ว 2 นัดติดต่อกันด้วย เรื่องนั้นดูเหมือนจะจุดประกายความกังวลในห้องประชุมของคณะผู้บริหาร โดยมีประธานสโมสรอย่างอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภาที่มีข่าวลือว่าจะเข้าร่วมการประชุมในเกมที่เลสเตอร์จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ บางที นั่นอาจจะหมายถึงการคุมทีมของผู้จัดการทีมอย่างเบรนแดน ร็อดเจอร์สนั้นกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายหากเขาแพ้ในบ้านติดต่อกันเป็นเกมที่…