- West Ham vs Southampton Preview: Saints เล่นเพื่อความภาคภูมิใจในตอนท้ายของฤดูการตกชั้นที่น่าหดหู่
- Brentford vs Brighton Preview: Mid-Table Duel ด้วยความหวังในยุโรปที่ Gtech
- Crystal Palace vs Bournemouth Preview: เชอร์รี่มองที่จะชนะที่ Selhurst Park ใน Chase for Europe
- Everton vs Manchester City Preview: Moyes ยินดีต้อนรับ Guardiola เป็นสื่อมวลชนที่ได้รับการฟื้นฟูในการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก
- การถ่ายโอนพรีเมียร์ลีก: Van Dijk Loyalty, Rashford Links และ Major Club Moves
- Aston Villa vs Newcastle Preview: UCL 6-pointer ที่ Villa Park
- Chelsea vs Legia 1-2 รายงาน: บลูส์แพ้ที่บ้าน แต่มีคุณสมบัติสำหรับ uecl semis
- แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับลียง 5-4 (AET) รายงาน: ผู้ชายของ Amorim ล่วงหน้าหลังจาก Old Trafford Thriller
Author: admin
ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ จะลงเตะเกมแชมเปียนส์ลีกเกมแรกของพวกเขาในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ โดยจะเป็นการเปิดบ้านรับการมาเยือนของโอลิมปิก มาร์กเซย์ และดูจากภาพรวมแล้ว เกมนี้สนุกสูสีแน่นอน ทีมจากลอนดอนเหนือเข้ามาเล่นแชมเปียนส์ลีกได้เป็นครั้งที่หก และดูเหมือนว่าจะถูกวางให้เป็นตัวเต็งในการคว้าแชมป์กลุ่มดีได้ หรือเข้ารอบได้เป็นอย่างน้อยแน่นอน ด้านทีมเยือนมาร์กเซย์ก็น่าจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าบ้านได้ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะพวกเขาก็เปิดฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าเช่นกัน สรุปแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำผลงานในลีกได้ค่อนข้างดีทั้งคู่ และ จะวัดกันแบบทางตรงในการลงฟาดแข้งกันในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ (คืนพุธต่อพฤหัส) โดยเกมนี้จะเป็นเกมแรกที่ทั้งสองฝ่ายเจอกันด้วย แต่เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเกมนี้ที่ลอนดอนเหนือน่าจะเป็นเกมที่สนุก และสามารถออกได้ทั้งสามหน้าแน่นอน ฟอร์ม : สเปอร์ส ทัพไก่เดือยทองเป็นหนึ่งในสองทีมในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ร่วมกับทีมเรือใบสีฟ้า และตามหลังอาร์เซนอลจ่าฝูงอยู่เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น ตั้งแต่อันโตนิโอ ตอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียนเข้ามาคุมทีมในฤดูกาลก่อน ทีมก็เปลี่ยนไปในทางทีดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของผลงานและความทุ่มเทของนักเตะ ในการเล่นเต็มที่จนกว่าจะหมดเวลา ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม สเปอร์สเอาชนะฟูแล่มมาได้ 2-1 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และก็เป็น แฮร์รี่ เคน อีกครั้ง ที่เป็นคนทำประตูให้กับทีม โดยกัปตันทีมชาติอังกฤษนั้นทำผลงานได้โดดเด่นมากภายใต้การคุมทีมของคอนเต้ เขายิงไปแล้วถึงห้าประตูจากการลงสนามหกนัดในฤดูกาลนี้ และจะเป็นตัวอันตรายที่มาร์กเซย์จะต้องจับตามองอย่างแน่นอน ในการปะทะกันครั้งนี้ ฟอร์ม : มาร์กเซย์ มาร์กเซย์ทีมเยือนเริ่มค้นฤดูกาลของพวกเขาได้อย่างร้อนแรง โดยพวกเขายังไม่แพ้ใครเลยในเกมลีกห้านัดที่ผ่านมา และเป็นจ่าฝูงร่วมกับเปเอสเชที่ 16 คะแนน และชัยชนะในเกมกับโอแซร์ 2-0 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นส่งผลให้พวกเขาชนะรวดติดกันมาสี่นัดแล้ว และยิงได้อย่างน้อยสองประตูในสามจากสี่เกมล่าสุดด้วย พวกเขากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีดและกุนซืออย่าง อิกอร์ ทูดอร์ นั้นน่าจะคาดหวังถึงการมีแต้มออกมาจากถิ่น ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดียม แล้ว และอาจมองถึงชนะได้ด้วย อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือเกมนี้อาจจะแอบมีกลิ่นอายของนอร์ธลอนดอนดาร์บิ้อยู่เล็กน้อย ก็เพราะในทีมมาร์กเซย์นั้นมีนักเตะที่เป็นเด็กเก่าของอาร์เซนอลอยู่เต็มทีม ไม่ว่าจะเป็นมัตเตโอ เกนดูซี, อเล็กซิส ซานเชซ, นูโน ทาวาเรส และ เซอัด โคลาซินาช ผลการแข่งขันที่คาด ด้วยฟอร์มของทั้งสองฝ่ายที่กำลังร้อนแรงทั้งคู่ มันไม่ใช้เรื่องง่ายเลยในการทำนายผลคู่นี้แบบฟันธง 100% เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีดีพอที่จะเอาชนะและลงโทษคู่แข่งได้หากฝ่ายไหนพลาดท่าให้ อย่างไรกีดี เราคาดว่าเกมนี้น่าจะมีประตูค่อนข้างเยอะพอสมควร เมื่อลองพิจารณาจากคุณภาพนักเตะแนวรุกของทั้งสองฝ่ายแล้ว จริง ๆ มันก็มีโอกาสที่มาร์กเซย์ทีมเยือนจะพลิกล็อกเอาชนะได้เหมือนกัน แต่เราคงต้องทำใจเลือกสเปอร์สเป็นผู้ชนะในเกมนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะพวกเขาจะได้เล่นในบ้าน และมีผู้จัดการทีมจอมเขี้ยวลากดินที่พร้อมจะงัดทุกกลเม็ดออกมาเพื่อให้ทีมคว้าสามคะแนนให้จงได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เราเชื่อว่าเกมนี้จะสูสีกว่าที่แฟน ๆ ส่วนใหญ่คาดมาก แต่เราก็ยังเชื่อว่าสเปอร์สจะเอาตัวรอดในเกมนี้ได้และคว้าสามคะแนนเต็มได้ และเปิดรอบแบ่งกลุ่มด้วยชัยชนะ…
พลพรรคเรือใบสีฟ้าจะเปิดประเดิมนัดแรกในศึก ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ของพวกเขาด้วยการออกไปเยือนยอดทีมจากแคว้นอันดาลูเซียอย่างเซบีย่า ที่สนาม รามอน ซานเชซ ปิซฆวน ของเซบีย่าเจ้าบ้าน โดยแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลก่อนอย่างซิตี้นั้นเป็นตัวเต็งในการเป็นแชมป์กลุ่มจี และ จ่อเข้ารอบแบบใส ๆ อยู่แล้ว แต่ตอนนี้บางสำนักถึงกับยกให้พวกเขาเป็นเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์บิ๊กเอียร์ในปีนี้อีกด้วย อย่างไรก็ดีนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกวางให้เป็นเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์ เพราะใน 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา หลายสำนักก็ยกให้พวกเขาเป็นเต็งหนึ่งเช่นกัน พวกเขาผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้สองครั้งซ้อน ๆ ในสองฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นความคาดหวังของพวกเขาในปีนี้ก็คงจะเป็นการออกสตาร์ตรอบแบ่งกลุ่มให้ได้ดีเหมือนเคยนั่นแหละ ถ้วยยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก นั้นเป็นถ้วยเดียวที่เป็ป กวาดิโอล่านั้นยังไม่เคยได้ในฐานะกุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแฟนบอลส่วนใหญ่ก็เชื่อว่ากองหน้าตัวใหม่อย่างเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ นั้นคือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะพาพวกเขาไปถึงฝั่งฝันได้เสียที ฟอร์ม : เซบีย่า เจ้าบ้านนั้นมีฟอร์มที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก และไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนที่จะต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของเรือใบสีฟ้าที่กำลังร้อนแรง ด้วยฟอร์มที่กระท่อนกระแท่นแบบนี้ ลูกทีมของฆูเลน โลเปเตกีนั้นออกสตาร์ตฤดูกาลได้ไม่ค่อยนัก แพ้ไปถึงสามจากสี่เกมแรกในลีก และยังชนะใครไม่เป็น สี่นัดผ่านไป พวกเขาเก็บได้เพียงคะแนนเดียวถ้วน โดยคาดว่าปัญหาฟอร์มบู่นี้มาจากเกมรุกที่ไม่เฉียบคมเหมือนเคย ในสี่นัดที่ผ่านมา พวกเขายิงได้เพียงสามประตูเท่านั้น ในเกมล่าสุด พวกเขาก็โดนทีมเจ้าบุญทุ่มบุกมาถล่มคาบ้านไปถึง 3-0 พวกเขาก็คงได้แต่หวังว่าเกมแชมเปียนส์ลีกกลางสัปดาห์นี้จะเป็นเกมที่พวกเขาได้พักหายใจ และพลิกโมเมนตัมทีมกลับมาได้ในที่สุด เพราะเกมยุโรปนั้นไม่เหมือนเกมลีก มันมีบรรยากาศบางอย่างที่ต่างออกไป เจ้าบ้านก็คงหวังลึก ๆ ว่าพวกเขาจะสามารถหักปากกาเซียนและพลิกล็อกมีแต้มหรือเอาชนะทีมเรือใบสีฟ้าได้ในเกมนี้ ฟอร์ม : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมที่แล้ว เป็ป กวาดิโอล่าน่าจะหมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าสามแต้มแบบเต็มกำลัง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อพวกเขาทำได้เพียงแค่เสมอกับแอสตัน วิลล่าไป 1-1 ชนิดไม่มีใครอยากจะเชื่อสายตาตัวเอง อย่างไรก็ดี ทีมเรือใบสีฟ้านั้นยังแพ้ใครไม่เป็นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่ทีมกลับมีจังหวะหลุดและพลาดเสียประตูแบบง่าย ๆ บ่อยครั้ง ซึ่งเราไม่ได้เห็นความผิดพลาดแบบนี้บ่อยนักจากพวกเขา นี่อาจจะเป็นจุดที่เซบีย่าเล็งจะโจมตีอยู่ก็ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทีมเยือนก็ยังเป็นต่อมากในการเจอกันครั้งนี้ และเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็น่าจะอยากยิงต้อนรับนัดประเดิมสนามเกมยุโรปเกมแรกของเขาในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วย ผลการแข่งขันที่คาด ทัพเรือใบสีฟ้าน่าจะอยากกลับมาเก็บชัยชนะรัว ๆ เหมือนเดิมอีกครั้งให้ได้เร็วที่สุด และพวกเขาน่าจะเปิดหน้าแลกใส่เจ้าบ้านเซบีย่าแบบเต็มกำลังอย่างแน่นอน ถึงมันจะเป็นความจริงที่แผงหลังของซิตี้นั้นไม่ได้เหนียวแน่นเหมือนกับฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ แต่เราก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าเจ้าบ้านก็ไม่มีเกมรุกที่ดีพอจะใช้จุดอ่อนนี้ให้เป็นประโยชน์เช่นกัน แต่ในทุกนัดที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ เหมือนกับว่าเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ จะยิงได้เป็นว่าเล่น ไม่ว่าซิตี้จะชนะหรือไม่ก็ตาม โดยในตอนนี้ ดาวยิงหนุ่มชาวนอร์เวย์ยิงไปแล้วถึง…
หลังจากทำได้เพียงแค่เสมอกับคู่กัดร่วมเมืองอย่างเอฟเวอร์ตันไป 0-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พลพรรคหงส์แดงจะต้องลงเตะเกมหนักอีกครั้ง ในเกมที่พวกเขาจะต้องจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีเพื่อไปเยือนนาโปลี ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เกมนี้ทั้งสองฝ่ายคงจะรู้ทางกันเป็นอย่างดี เพราะในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ห้าปีหลังสุด พวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันถึงสามครั้ง และก็ใช่ว่านาโปลีเจ้าบ้านจะพ่ายให้กับลิเวอร์พูลที่ดูจะเป็นต่อทุกครั้ง โดยนาโปลีเคยเอาชนะลิเวอร์พูลมาแล้วหลายครั้งด้วยกัน และก็น่าจะหมายมั่นปั้นมือที่จะเอาชนะทีมหงส์แดงให้ได้อีกครั้ง ในเกมนี้ที่พวกเขาจะเปิดสนามดิเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า ต้อนรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล กลุ่มของพวกเขาถือว่าเป็นกลุ่มที่ยากพอสมควรเลย นอกจากสองทีมที่ลงแข่งกันในคู่นี้ ทีมที่เหลือก็มีอาแจ็กซ์ อัมสเตอดัม และ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส สองทีมที่พร้อมจะตัดแต้มและแซงเข้ารอบได้ทั้งคู่ โดยจะเรียกว่ากลุ่มนี้เป็น “กรุ๊ปออฟเดธ” ก็ไม่ผิดนัก แต่อย่างไรก็ดี ทุกสำนักก็ยังยกให้ลิเวอร์พูลและนาโปลีเป็นเต็งหนึ่งและสองในการผ่านเข้ารอบทั้งคู่ และถ้าหากมีฝ่ายไหนเล็งที่จะคว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่มล่ะก็ สามคะแนนในเกมนี้จะเป็นสามคะแนนใหญ่สำคัญในการตัดสินตำแหน่งแชมป์กลุ่มแน่นอน ฟอร์ม : นาโปลี นาโปลีจะลงเล่นเกมนี้ด้วยขวัญกำลังใจที่ดีไม่น้อย หลังจากเพิ่งไล่แซงเอาชนะลาซิโอมาได้ 2-1 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะตามหลังไปก่อน 1-0 ก็ตาม โดยทีมจากแคว้นเนเปิลส์ออกสตาร์ตฤดูกาลของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยม รั้งตำแหน่งจ่าฝูงร่วมกับแชมป์เก่า เอซี มิลาน อยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ดี ลูเซียโน่ สปาเล็ตติ นายใหญ่ของทีม น่าจะเป็นกังวลเรื่องการทำประตูของทีมอยู่ไม่น้อย เพราะลูกทีมของเขานั้นทำได้เพียงสามประตูจากสามนัดล่าสุด จากการเสมอฟิออเรนติน่า 0-0 ไปแบบสุดบู่ ต่อด้วยการเสมอกับเลชเช่ต่ออีกด้วยสกอร์1-1 ก่อนจะมายิงได้สองประตูในนัดล่าสุดที่พวกเขาแซงเอาชนะทัพอินทรีฟ้าขาวไปได้ 2-1 ครั้งสุดท้ายที่สองทีมนี้เจอกันต้องย้อนไปถึงปี 2019 และก็เป็นเกมที่ทั้งสองฝ่ายกินกันไม่ลง เสมอกันไป 1-1 ที่แอนฟิลด์ แต่ในเกมนี้ นาโปลีเจ้าบ้านน่าจะไม่ได้หวังแค่หนึ่งคะแนนแน่นอน ฟอร์ม : ลิเวอร์พูล ฟอร์มของลิเวอร์พูลนั้นห่างไกลกับตอนที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีกมาก และห่างไกลจากมาตรฐานของทีมระดับสูงมากเช่นกัน โดยถึงตอนนี้ เริ่มมีเสียงวิจารณ์หนาหูขึ้นเรื่อย ๆ ว่าโอกาสลุ้นแชมป์ของพวกเขานั้นเหลือน้อยมากแล้ว พลพรรคหงส์แดงทำแต้มหล่นแบบไม่น่าเชื่อบ่อยครั้งมากในฤดูกาลนี้ พวกเขาทำได้เพียงเสมอกับฟูแล่ม และ คริสตัล พาเลซ รวมถึงพลาดท่าแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย ถึงชัยชนะเหนือบอร์นมัธแบบท่วมท้นถึง 9-0 ดูเหมือนว่าจะช่วยดึงโมเมนตัมทีมกลับมาได้บ้าง แต่นัดต่อไปพวกเขาก็กลับไปฟอร์มบู่เหมือนเดิม และต้องลุ้นจนหืดจับกว่าจะเอาชนะนิวคาสเซิลได้ ในเกมที่มีข้อโต้เถียงมากมายหลายประเด็นเหลือเกิน ส่วนในเกมล่าสุดกับเอฟเวอร์ตัน พวกเขาตกเป็นรองเกือบทั้งเกมและเกือบจะแพ้ด้วยซ้ำ…
เชลซีจะเปิดประเดิมนัดแรกในศึก ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ของพวกเขาด้วยการออกไปเยือน สตาดิโอน มักซิเมียร์ รังเหย้าของดินาโม ซาเกร็บ ยอดทีมจากแดนโครเอเชีย โดยแม้ทีมเจ้าบ้านจะถูกมองว่าเป็น “หมูของกลุ่ม” หรือทีมที่อ่อนที่สุดในกลุ่มนี้ แต่สำหรับใครที่คิดว่าเกมนี้เชลซีจะเก็บสามคะแนนได้แบบสบาย ๆ ล่ะก็ คุณคิดผิดถนัดเลยล่ะ ถึงแม้ว่าเชลซีจะเสริมทัพไปหลายตำแหน่งในตลาดหน้าร้อนนี้ แต่ฟอร์มของทีมก็ยังไม่สู้ดีนัก และยังไม่มีความสม่ำเสมออีกด้วย โดยผ่านมาเพียงหกนัดในฤดูกาลนี้ เชลซีแพ้ไปแล้วถึงสองเกม รวมถึงมีสถิติการเสียประตูที่เยอะผิดกับมาตรฐานของพวกเขาที่เคยดีกว่านี้มาก อย่างไรก็ดี ทุกสำนักก็ยังเชื่อว่าลูกทีมของโธมัส ทูเคิลนั้นยังเป็นต่ออยู่ในเกมนี้ และน่าจะเล็งถึงการคว้าสามคะแนนกลับบ้านได้ ฟอร์ม : ดินาโม ซาเกร็บ ทีมเจ้าบ้านจะลงเล่นเกมนี้ด้วยกำลังใจที่เต็มเปี่ยมแน่นอน จากการที่พวกเขาเพิ่งเอาชนะรีเยก้า ในเกมลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ 3-1 ส่งผลให้ตอนนี้ พวกเขาชนะมาสี่เกมติดแล้ว โดยทุกนัดที่เล่นในบ้าน พวกเขาเก็บชัยชนะได้ทั้งสามครั้ง และยิงได้มากกว่าสามประตูทุกเกมอีกด้วย มิสลาฟ ออร์ซิช ปีกความเร็วสูงของทีมกำลังฟอร์มแรงในขณะนี้ ยิงไปแล้วถึง 5 ประตูกับทำอีก 5 แอสซิสต์จากการลงเล่น 8 เกมในลีก และน่าจะเป็นตัวทีเด็ดของซาเกร็บในการเจาะเกมรับของเชลซีที่รั่วกว่าที่เคยได้ โดยในแปดเกมที่ผ่านมาในลีก พวกเขาเอาชนะได้ถึงเจ็ดนัด สะดุดเสมอไปเพียงนัดเดียวเท่านั้น รวมถึงยิงไปได้ถึง 27 ประตู และกุนซือของทีมอย่างอันเต้ กาชิช ได้ออกมาประกาศกร้าวว่าพวกเขาพร้อมจะสู้กับทุกทีมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน พวกเขาก็ไม่กลัวทั้งนั้น ฟอร์ม : เชลซี ทีมสิงห์บลูส์มีผลงานกระท่อนกระแท่นในฤดูกาลนี้ และแพ้ไปถึงสองเกมแล้วในลีก ให้กับลีดส์และเซาแธมป์ตันตามลำดับ โธมัส ทูเคิล นายใหญ่ของทีมเริ่มเก้าอี้ร้อนแล้ว หลังจากผลงานของทีมไม่ค่อยดีนักในช่วงหลัง และแฟน ๆ ก็ต้องการให้ทีมกลับมาคืนฟอร์มเก่งโดยเร็ว เพราะในตอนนี้ ฟอร์มของพวกเขาออกทะเลเอามาก ๆ โดยเฉพาะเกมเยือนที่อาการหนักสุด ๆ แม้ว่าทีมจะทุ่มเงินกับการซื่อกองหลังใหม่ไปมากมายในช่วงตลาดหน้าร้อนที่ผ่านมา แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะทีมเสียไปแล้วถึงเก้าประตูในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ดี ถือว่าทีมยังโชคดีที่สามารถเอาชนะเวสต์แฮมไปได้ 2-1 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่ารูปเกมจะไม่ได้ดูเป็นต่อเลยก็ตาม ไม่ใช่แค่เกมรับเท่านั้นที่มีปัญหา ทีมสิงห์บลูส์ยังมีปัญหาในเกมรุกอีกด้วย เกมรุกของพวกเขาปืนฝืดเอามาก ๆ ในปีนี้ จากการที่ไม่มีกองหน้าธรรมชาติในทีมเลยแม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ดีการที่ทีมเพิ่งคว้าตัว ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง มาร่วมทีมได้นั้นก็น่าจะพอช่วยแก้ปัญหานี้ได้บ้าง…
เกมบิ๊กแมตช์ประจำพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่ 7 แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะเปิดเอทิฮัด สเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สในเกมที่จะเผยให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของทั้งสองฝ่ายในฤดูกาลนี้ เกมที่น่าตื่นเต้นกำลังรออยู่และพวกเราจะพาคุณไปดูทุก ๆ สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับเกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ ฟอร์ม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เพิ่งอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมสำหรับเกมนี้อย่างมีสไตล์จากการที่พวกเขาจัดการถล่มเซบีญ่าในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ไปด้วยสกอร์ 4-0 พวกคุณเดาถูกแล้วล่ะที่ว่าเออร์ลิ่ง ฮาลันด์นั้นได้มีส่วนร่วมกับประตูอีกเช่นเคย หลังจากที่เขาเป็นคนเหมา 2 ประตูกับการลงสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเกมแรกให้กับเรือใบสีฟ้า เขาแทบจะเปลี่ยนทุก ๆ อย่างให้กลายเป็นประตูได้เลยล่ะ ฟอร์ม: ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สก็เก็บชัยชนะได้ในเกมเมื่อกลางสัปดาห์ได้เช่นเดียวกัน หลังจากที่ริชาร์ลิซอนทำคนเดียว 2 ประตูให้ไก่เดือยทองเอาชนะมาร์กเซย์ไปได้ในเกมนัดเปิดสนามแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยผลงานล่าสุดของพวกเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันโตนิโอ คอนเต้และลูกทีมต่างก็หวังถึงโอกาสของพวกเขาที่จะพลิกล็อกเอาชนะแชมป์เก่าให้ได้อีกครั้ง สถิติต่าง ๆ ของเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส แมนเชสเตอร์ ซิตี้แพ้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สไปถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบกัน (ชนะ 1), มากที่สุดเท่ากับในช่วง 19 เกมก่อนหน้านี้ที่ฃพวกเขาพบกัน (ชนะ 12 เสมอ 3) ท็อตแน่มเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ทั้งเหย้าและเยือนในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว คิดเป็น 67% ของความพ่ายแพ้ทั้งหมดในลีกของเหล่าเรือใบสีฟ้า พวกเขาอาจจะเป็นทีมแรกที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่นำโดยเป๊ป กวาร์ดิโอล่าได้ 3 เกมติดต่อกันอีกด้วย ทีมไก่เดือยทองเก็บชัยชนะไปได้ 4 จาก 9 เกมหลังสุดที่พวกเขาเป็นฝ่ายออกไปเยือนทีมแชมป์เก่า (เสมอ 2 แพ้ 3) มากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำได้ในช่วง 49 เกมก่อนหน้านี้ ความพ่ายแพ้ 4 นัดจากทั้งหมด 29 นัดของเรือใบสีฟ้าในฤดูกาลที่พวกเขาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นเป็นความพ่ายแพ้ให้กับสเปอร์ส – ไม่มีทีมไหนที่เอาชนะพวกเขาได้มากกว่าไก่เดือยทองอีกแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้เก็บชัยชนะรวดในเกมพรีเมียร์ลีกที่พวกเขาเล่นในบ้าน 7 นัดหลังสุด แถมยังยิงอย่างต่ำ 3 ลูกอีกด้วย…
ลิเวอร์พูล พลพรรคหงส์แดงยังคงฟอร์มบู่ต่อเนื่อง ทั้งศึกในอย่างพรีเมียร์ลีก และ ศึกนอกอย่างยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก การทำได้เพียงแค่เสมอกันไปแบบสุดกร่อยในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ กับเอฟเวอร์ตัน ในเกมที่ถือว่าพวกเขาโชคดีมากแล้ว ที่ยังยันเสมอจนมีแต้มออกมาได้ อย่างไรก็ดี ในเกมต่อมา พวกเขาก็โดนนาโปลีถล่มไปแบบหมดรูปถึง 4-1 ในเกมแรกของพวกเขาในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ลิเวอร์พูลได้หลุยซ์ ดิอาซ ที่ทำประตูเดียวของทีม ไล่ตีตื้นมาเป็น 4-1 ได้ ซึ่งเขาก็น่าจะเป็นนักเตะคนเดียวในทีมในขณะนี้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และสมค่าตัวของเขา เพราะพูดตามตรง นอกจากดาวเตะชาวโคลัมเบียแล้ว นักเตะที่เหลือนั้นในทีมโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานของพวกเขามาก และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานของทีมเครื่องจักรสีแดงนั้นกราวรูดลงขนาดนี้ และถึงฟอร์มของปราการหลังตัวหลักอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ จะน่าเป็นห่วงมากในขณะนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็มีเรื่องอื่นที่น่ากังวลกว่ามากมาย และควรจะพาขวัญกำลังใจของทีมกลับมาให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมหมาป่าในสุดสัปดาห์นี้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ลูกทีมของบรูโน ลาจ เริ่มที่จะต้ังหลักได้และกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้งได้แล้ว หลังจากเฉือนชนะเซาแธมป์ตันไปได้ในเกมก่อนจากประตูโทนของดาเนียล โพเดนซ์ ทำให้บรรยากาศความเครียดในทีมลดลงไปได้มากทีเดียว เพราะทีมหมาป่าออกสตาร์ตฤดูกาลได้ไม่ค่อยดีนัก ชัยชนะนัดล่าสุดเหนือเซาแธมป์ตันเป็นชัยชนะนัดสำคัญที่ช่วยระบายความกดดัน ของพวกเขาได้มากโข และทำให้พวกเขาพร้อมที่จะเปิดรับศึกครั้งต่อไปอีกครั้ง ในเกมที่พวกเขาจะต้องออกไปเยือนลิเวอร์พูล ที่กำลังเมาหมัดได้ที่อยู่ในขณะนี้ ผลการแข่งขันที่คาด ลิเวอร์พูล 2-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส สูง 1.5 ประตู ต่อลิเวอร์พูล -1
ฟูแล่ม ลูกทีมของมาร์โก้ ซิลวาได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขานั้นไม่หมู และเป็นทีมที่ยากที่จะเอาชนะได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ พวกเขาได้พัฒนาขึ้นจากเดิมที่เคยเป็นทีมขาจรสำหรับพรีเมียร์ลีกที่มักจะวนเวียนอยู่กับพรีเมียร์ลีกและลีกแชมเปี้ยนชิพอยู่ชนิดปีเว้นปี ต้องขอบคุณการแก้ปัญหาของมาร์โก้ ซิลวาในการสร้างทีมใหม่ด้วยการเซ็นคว้าตัวนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาร่วมทีมหลายราย หัวหอกตัวความหวังของทีมอย่างอเล็กซานเดอร์ มิโตรวิชได้ระเบิดฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมาในฤดูกาลนี้ ดาวยิงทีมชาติเซอร์เบียยังคงรักษาฟอร์มการถล่มประตูเอาไว้ได้อย่างสุดยอด ด้วยการทำประตูตีตื้นในนาทีที่ 83 ในเกมที่พวกเขาพบกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ในเกมก่อน แม้สุดท้ายจะไล่ไม่ทันและแพ้ไป 1-2 ก็ตาม ก่อนที่เขาจะทำประตู สเปอร์สเบิกสกอร์แรกจากประตูสุดสวยในครึ่งแรกของปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก จากนั้น แฮร์รี่ เคนทำประตูหนีห่างออกเป็น 2-0 และสเปอร์สก็เกือบจะได้ประตูนำห่างเป็น 3-0 และจากริชาร์ลิซอน แต่ก็ถูกวีเออาร์สกัดดาวรุ่งไว้ ด้วยการริบประตูแรกของเขาในสีเสื้อสเปอร์สไป เกมถัดไปของฟูแล่มคือเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ซึ่งพวกเขาจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เชลซี ในตอนนี้ ทีมสิงห์บลูส์กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก สถานการณ์ของพวกเขากำลังวุ่นวายไปหมด และมันก็เป็นเรื่องน่าขันเล็ก ๆ ว่าเม็ดเงินที่พวกเขาได้ลงทุนไปจำนวนมหาศาลนั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่คืนทุนในเร็ววันนี้แน่ ๆ หลังจากที่เกือบจะโดนเวสต์แฮมแบ่งแต้มคาบ้านในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เชลซีก็ออกเดินทางไปยังเมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชียเพื่อดวลเกือกกับดินาโม ซาเกร็บในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกนัดเปิดสนามในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาคาดหวังว่าจะใช้ผลการแข่งขันของเกมนัดนี้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในทีมของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิดและพวกเขาก็แพ้ให้กับดินาโม ซาเกร็บจากประตูโทนของมิสลาฟ ออร์ซิช เป็นเรื่องที่ช็อกโลกเอามาก ๆ ที่เจ้าของทีมคนใหม่อย่างท็อดด์ โบห์ลี่ย์ที่ได้ตัดสินใจไล่โธมัส ทูเคิ่ลออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังจากผ่านไปเพียง 100 วันที่เขาได้เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรต่อจากโรมัน อบราโมวิช ตอนนี้ เชลซีกำลังนัดหมายกับบอสใหญ่ของไบรท์ตันอย่างเกรแฮม พ็อตเตอร์ให้มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีมและอาจจะทำให้มีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นในเกมวันเสาร์นี้ก็เป็นได้ ผลการแข่งขันที่คาด ฟูแล่ม 1-2 เชลซี ต่ำ 3.5 ลูก รองฟูแล่ม +1.50 ลูก
ลีดส์ ยูไนเต็ด เหล่ายูงทองประสบปัญหาฟอร์มที่ดิ่งลงในช่วงหลัง โดยถึงแม้ว่าพวกเขาจะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ได้ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม แต่ดูเหมือนว่าฟอร์มแย่ ๆ ในช่วง 2-3 นัดที่ผ่านมาจะดับความกระหายของทีมจากยอร์กเชียร์ลงไปได้พอสมควรเลยล่ะ เกมในนัดที่ออกไปเยือนเบรนท์ฟอร์ดนั้นมักจะเป็นเรื่องยากสำหรับลีดส์อยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของพวกเขาดูค่อนข้างน่าเป็นห่วงเมื่อเราได้เห็นเห็นอีแวน โทนี่ย์กดแฮตทริกพาผึ้งพิฆาตเอาชนะลีดส์ไปได้ 5-2 เกมถัดไปสำหรับลีดส์คือการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ที่ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในฤดูกาลนี้ ทีมเจ้าป่าได้ลงทุนอัพเกรดทีมโดยการดึงทั้งนักเตะมากประสบการณ์และนักเตะพลังหนุ่มเข้ามาเสริมทัพมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนเหล่านั้นยังไม่ได้ตอบแทนความคาดหวังของพวกเขาเลย เนื่องจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ต้องเจอกับปัญหาในเรื่องของฟอร์มการเล่นทั่วทุกตำแหน่ง พวกเขาพลาดการเก็บ 3 คะแนนอย่างเจ็บแสบจากการที่ขึ้นนำบอร์นมัธ ทีมที่ก็มีฟอร์มย่ำแย่พอกันไปก่อนถึง 2 ประตู แต่กลับโดนคู่แข่งยิงแซงจนแพ้คาบ้านไปด้วยสกอร์ 3-2 ในเกมนัดที่ผ่านมา เกมถัดไปที่พวกเขาจะพบกับลีดส์ถือเป็นเกมที่ท้าทายพวกเขาอีก 1 เกมและพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องงัดฟอร์มเก่งออกมาในเกมที่จะออกไปเยือนถิ่นเอลแลนด์ โร๊ดในสุดสัปดาห์นี้ ผลการแข่งขันที่คาด ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-1 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ สูง 2.5 ลูก รองลีดส์ +1 ลูก
คริสตัล พาเลซ ทีมปราสาทเรือนแก้วเก็บผลเสมอ 1-1 ในเกมที่พวกเขาเปิดบ้านพบกับเบรนท์ฟอร์ด ในเกมนั้น วิลฟรีด ซาฮายิงประตูสุดสวยให้พาเลซออกนำไปก่อน แต่ประตูในช่วงท้ายเกมของโยอัน วิสซ่าก็ทำให้เบรนท์ฟอร์ดบุกมาแบ่งแต้มได้ในท้ายที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม เกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาไม่แม้กระทั่งทำประตูได้และพวกเขาก็บุกไปยื้อนิวคาสเซิลไปด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์ อย่างไรก็ดี เกมนัดดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยข้อกังขา เนื่องจากไทเรลล์ มิตเชลล์ถูกตั้งข้อสงสัยว่าไปผลักนักเตะของนิวคาสเซิลและทำเข้าประตูตัวเอง แต่วีเออาร์กลับไม่เห็นและริบประตูกลับเนื่องจากเป็นการทำฟาวล์ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดซะอย่างงั้น อย่างไรก็ตาม ทีมปราสาทเรือนแก้วจะต้องดึงฟอร์มที่สุดยอดออกมาให้ได้เนื่องจากพวกเขาจะเปิดบ้านเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กำลังคืนฟอร์ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เราได้เห็นฟอร์มที่เลวร้ายของเหล่านักเตะและความวิบัติในฤดูกาลที่ควรจะเป็นพื้นที่ในการฟื้นตัวของยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษ ปิศาจแดงเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยการพ่าย 2 นัดซ้อนให้กับไบรท์ตันและเบรนท์ฟอร์ดด้วยฟอร์มที่น่าผิดหวัง จากนั้นพวกเขาก็เก็บชัยชนะ 4 นัดติดต่อกันและพึ่งจะเอาชนะจ่าฝูงอย่างอาร์เซน่อลไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 ในการเล่นรูปแบบสวนกลับสุดอันตราย แต่อย่างไรก็ตาม เอริค เทน ฮากจะต้องหาทางให้ลูกทีมของเขาได้คุมเกมให้ได้มากขึ้น เนื่องจากเขาจำเป็นจะต้องทำแบบนี้ให้ได้บ่อยขึ้นกับทีมที่อ่อนกว่าพวกเขา เกมถัดไปสำหรับเหล่าปิศาจแดงคือการเดินทางออกไปเยือนคริสตัล พาเลซเพื่อสานต่อการคืนฟอร์มสุดยิ่งใหญ่ของพวกเขา ผลการแข่งขันที่คาด คริสตัล พาเลซ 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูง 1.5 ลูก ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด -1 ลูก
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมขุนค้อนกำลังเซ็งสุดขีดหลังจากที่ประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกมกับเชลซีนั้นโดนวีเออาร์ริบคืน ทำให้พวกเขาพลาดการเก็บ 1 คะแนนออกจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมเริ่มต้นขึ้นด้วยการเล่นอย่างระมัดระวังเนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงแบ่งกันเป็นฝ่ายครองเกมในช่วงแรก ๆ ของเกม แต่อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮมเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนจากลูกยิงชุลมุนที่หน้าปากประตูของมิคาอิล อันโตนิโอจากการที่เชลซีเคลียร์บอลจากลูกเตะมุมไม่ขาด จากนั้น สิงห์บลูก็เป็นฝ่ายตอบโต้กลับด้วยการเปลี่ยนตัวแก้เกมและหนึ่งในนักเตะที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามอย่างเบน ชิลเวลล์ก็ทำประตูตีเสมอให้กับทีมได้จากการสัมผัสบอลแรกที่สุดยอดและจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ไค ฮาเวิร์ตซ์ที่ตอนนี้กลายมาเป็นนักเตะจอมยิงประตูในช่วงท้ายเกมนั้นพาเจ้าถิ่นให้เป็นฝ่ายพลิกกลับมานำด้วยลูกยิงที่คมกริบจากลูกเปิดของเบน ชิลเวลล์เพื่อเก็บ 3 คะแนนไปได้ เกมถัดไปของเวสต์แฮมคืออีกหนึ่งบททดสอบสำคัญ ในเกมที่พวกเขาจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ลูกทีมของเอ็ดดี้ ฮาวกำลังค่อย ๆ กลายมาเป็นทีมที่เชี่ยวชาญในการเก็บผลเสมอจากผลการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเกมที่พวกเขาเสมอกับคริสตัล พาเลซนั้นจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่หนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับประตูที่โดนวีเออาร์ริบคืน จากนั้นนิวคาสเซิลก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปในก้นตาข่ายของคู่แข่งได้อีกเลย แต่พวกเขายังคงรักษาความแข็งแกร่งในแนวรับเอาไว้ได้ ทัพสาลิกาดงจะมองหาโอกาสในการกลับมาเก็บ 3 คะแนนในเกมที่พวกเขาจะออกเดินทางไปลอนดอนเพื่อพบกับเวสต์แฮม ผลการแข่งขันที่คาด เวสต์แฮม 1-2 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สูง 2.5 ลูก รองเวสต์แฮม +1.50 ลูก