Author: admin

ผลการแข่งขันที่คาด ญี่ปุ่น 1-1 คอสตาริก้า สนาม: ลูซอยล์ ไอคอนิค สเตเดี้ยม เกมการแข่งขันนัดที่ 2 ของกลุ่มอีอย่างญี่ปุ่นพบกับคอสตาริก้านั้นเป็นเกมที่น่าจะตัดสินได้ว่าใครจะเป็นทีมที่ต้องจบอันดับที่ 3 ของกุล่ม ซึ่งอีก 2 ทีมในกลุ่มอย่างเยอรมันและสเปนน่าจะเป็นฝ่ายการันตีเข้ารอบไปได้อย่างไม่มีปัญหา ฟอร์ม: ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นลงเล่นไปแล้ว 10 เกมในปีนี้ ในจำนวนนั้น พวกเขาเอาชนะไปได้ 6 เกม เสมอ 2 และแพ้ 2 หากนับจากฟอร์มนั้นแล้ว ก็ถือว่าพวกเขามีฟอร์มที่ดีพอใช้ได้ก่อนฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยจะมองหาโอกาสในการผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งที่ 2 ของประวัติศาสตร์ เพราะฉะนั้นเกมนี้จะเป็นเกมที่พวกเขาจำเป็นจะต้องเก็บชัยชนะให้ได้ ฟอร์ม: คอสตาริก้า คอสตาริก้าแพ้ไปเพียงเกมเดียวในปี 2022 พวกเขาเอาชนะไปได้ 7 เกมและเสมอไปเพียง 2 จาก 10 เกมหลังสุดในปีนี้ โดยยิงไปได้ 12 ประตูและเสียไป 6 ประตู พวกเขายังเก็บคลีนชีทไปได้ 7 เกมอีกด้วย แถมก็พร้อมที่จะลงสนามในฟุตบอลโลกครั้งนี้พร้อมกับเกมรับที่แข็งแกร่งซึ่งยากที่จะเจาะได้ แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกปี 2014 ซึ่งพวกเขาทะลุไปได้ถึงรอบก่อนรองชนะเลิศที่บราซิล แต่โอกาสที่พวกเขาจะทำได้แบบนั้นอีกครั้งก็ถือว่าน้อยเอามาก ๆ เลยทีเดียว ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร หากนับจากสถิติที่ทั้งสองทีมเจอกันแล้ว ญี่ปุ่นถือว่าเป็นทีมที่เป็นตัวเต็งที่จะเก็บ 3 คะแนนได้ เพราะทุกนัดที่ทั้งสองทีมพบกันในเกมนัดกระชับมิตร ญี่ปุ่นเอาชนะได้ทุกครั้ง แต่ทว่านี่ไม่ใช่เกมนัดกระชับมิตร นี่คือเกมฟุตบอลโลก ทั้งสองทีมรู้ว่าเกมนี้มีความหมายมากแค่ไหนและพร้อมที่จะจำกัดความผิดพลาดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันจะเป็นเกมที่ยากสำหรับทั้งสองฝั่งในการทำประตูอย่างแน่นอน มันจะต้องเป็น 90 นาทีที่สูสีและทั้งสองฝั่งน่าจะแบ่งแต้มกันไปในที่สุด

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด ฝรั่งเศส 3-2 เดนมาร์ก สนาม: สเตเดี้ยม 974 ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นสองเกมในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในทั้ง 2 เกมนั้น เป็นเดนมาร์กที่ทำได้ดีกว่าฝรั่งเศสอย่างชัดเจน เพราะพวกเขาเอาชนะฝรั่งเศสไปได้ทั้งสองเกมด้วยสกอร์ 2-0 และ 2-1 ตามลำดับ เดนมาร์กหวังที่จะเอาชนะฝรั่งเศสให้ได้อีกครั้งในเกมนี้ แต่ฝรั่งเศสจะปล่อยให้เรื่องเก่า ๆ นั้นเป็นอดีตไป และตั้งต้นใหม่ในศึกฟุตบอลโลกที่ถือเป็นเวทีของพวกเขามาตลอด เพราะพวกเขายังเป็นแชมป์เก่าอีกด้วย ดังนั้นทัพตราไก่จะไม่ยอมแพ้ในรายการที่พวกเขากำลังจะป้องกันแชมป์นี้อย่างแน่นอน ฟอร์ม: ฝรั่งเศส พูดตรง ๆ ฟอร์มก่อนเข้าสู่ฟุตบอลโลกในการป้องกันแชมป์ของพวกเขานั้นน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ชัยชนะเพียงนัดเดียวจาก 6 เกมในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกนั้นไม่ใช่ฟอร์มของทีมแชมป์โลกเลย พวกเขามีปัญหาในการจบสกอร์เป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้พวกเขาเก็บชัยชนะได้น้อยมากในปีนี้ พวกเขายิงประตูได้เพียง 5 ประตูจาก 6 เกม แถมยังเสียไปอีก 7 ประตูใน 6 เกมนั้นอีกด้วย พวกเขาจำเป็นจะต้องหาทางแก้ไข มิเช่นนั้นพวกเขาจะสุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่จะตามเทรนด์ของแชมป์โลก 2 ทีมล่าสุดที่กระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลโลกถัดมา ฟอร์ม: เดนมาร์ก เดนมาร์กจบรายการเนชั่นส์ ลีกด้วยสถิติที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับฝรั่งเศส ในรายการเนชั่นส์ ลีกนั้น พวกเขาเก็บชัยชนะไปได้ 4 เกมและแพ้ไปอีก 2 เกมจาก 6 เกมที่พวกเขาลงสนาม โดยทำประตูไปได้ 9 ประตูและเสียไปเพียง 5 ประตูเท่านั้น เมื่อดูจากฟอร์มล่าสุดของพวกเขาแล้ว พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเป็นตัวเต็งในการเก็บ 3 คะแนนจากฝรั่งเศสได้ แต่พวกเขาก็รู้ดีว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ทั้งสองทีมต่างเป็นสองทีมที่ถูกคาดการณ์ว่าจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ เพราะงั้นนี่ถือเป็นเกมที่จะตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม มันจะเป็นเกมสุดมันที่ทั้งสองทีมนั้นหวังที่จะครองเกมในพื้นที่แดนกลางให้ได้และฝรั่งเศสดูจะเป็นทีมที่ชิงพื้นที่ตรงนั้นไปได้ สถิติในแนวรับล่าสุดของพวกเขานั้นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะไม่สามารถเก็บคลีนชีทในเกมที่จะพบกับเดนมาร์กได้อย่างแน่นอน ซึ่งเดนมาร์กรู้ดีว่าจะเอาชนะฝรั่งเศสได้ด้วยวิธีใด เพราะงั้นทีมตราไก่ก็จะต้องหวังพึ่งความยอดเยี่ยมของคาริม เบนเซม่าและคีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ในการเฉือนเอาชนะเดนมาร์กให้ได้

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด อังกฤษ 2 – 1 สหรัฐอเมริกา สนาม: อัล บายท์ สเตเดี้ยม ทั้งสองทีมถือเป็นคู่ปรับกันแบบเงียบ ๆ มาตลอดในหน้าประวัติศาสตร์ของทั้งสองทีม แต่อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาก็ไม่เคยเป็นฝ่ายได้เปรียบเลยแม้แต่ครั้งเดียว เกมนี้ถือเป็นอีกเกมที่สำคัญและอังกฤษก็พร้อมที่จะกลับมาเรียกศรัทธาจากแฟน ๆ ของพวกเขาให้ได้ ในขณะที่ทีมชาติสหรัฐอเมริกาก็พร้อมที่จะโชว์ฟอร์มอุดปากแฟนบอลอังกฤษและนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเกมนี้ถึงมีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในเกมที่สนุกที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม ฟอร์ม: อังกฤษ ทีมชาติอังกฤษจะคอยจับตามองฟอร์มของสหรัฐอเมริกาในนัดแรกพวกเขาที่จะเจอกับอิหร่านมาในเกมนัดเปิดสนามอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เหนือกว่ามากในด้านของเทคนิค, แทคติกและคุณภาพของทีมที่พร้อมกับจัดการกับคู่แข่ง แกเร็ธ เซาธ์เกตจะเน้นเกมรับเป็นพิเศษเพื่อที่จะลดความผิดพลาดที่คู่แข่งของพวกเขาอาจจะใช้ลงโทษพวกเขาได้ และเซาธ์เกตยังมีแผนการเล่นที่ยืดหยุ่นเอามาก ๆ กุนซือทีมชาติอังกฤษจะยังต้องการนักเตะจอมขยันในเกมนี้เพื่อคอยช่วยแดนกลางของทีมอีกด้วย ฟอร์ม: สหรัฐอเมริกา ทีมชาติสหรัฐอเมริกาจะได้เจอกับทีมชาติอังกฤษโฉมใหม่ในปี 2022 ซึ่งแตกต่างจากทีมที่พวกเขาเคยเจอเป็นอย่างมากในอดีต เกมนี้จะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีและเกร็ก เบอร์ฮัลเตอร์จะปลุกระดมลูกทีมของเขาให้บดขยี้ทีมชาติอังกฤษให้ได้ นอกจากนี้ ทีมชาติสหรัฐอเมริกายังจะได้เปรียบในเกมนี้อีกด้วยหากพวกเขาพยายามที่จะครองบอลเอาไว้ให้ได้ แทนที่จะเล่นฟุตบอลแบบโยนยาว ซึ่งทีมชาติอังกฤษนั้นค่อนข้างเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้น ประวัติศาสตร์ของคู่นี้บอกว่าอังกฤษนั้นเหนือกว่า แต่ทีมชาติสหรัฐอเมริกาก็ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ ตลอด 11 เกมล่าสุดของทั้งสองทีม ทีมชาติสหรัฐอเมริกาเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้ตลอด 3 เกมที่พวกเขาลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปมากมายในปัจจุบัน แต่ยังไงก็ตามทีมชาติอังกฤษก็น่าจะเอาชนะในเกมนัดนี้ไปได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เกมที่ง่ายสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด โครเอเชีย 2-1 แคนาดา สนาม: คาห์ลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม โครเอเชียจะมองหาโอกาสในการเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ ซึ่งจะทำให้พวกเขาขยับเข้าใกล้โอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์เข้าไปอีกขั้น คู่แข่งของพวกเขาคือแคนาดา ซึ่งเป็นอีกทีมที่หวังที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปเช่นเดียวกัน สำหรับแคนาดาแล้ว การที่พวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้นั้น พวกเขาจำเป็นจะต้องเก็บแต้มแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกให้ได้ซะก่อน ฟอร์ม: โครเอเชีย โครเอเชียดูพร้อมซะยิ่งกว่าพร้อมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเขาเก็บชัยชนะได้ 4 นัดติดต่อกันในตอนนี้และเพิ่งแพ้ไปแค่เกมเดียวตลอดทั้งปี ชัยชนะ 4 เกมติดต่อกันนั้นมีเกมที่พวกเขาเอาชนะทีมแชมป์โลกสมัยล่าสุดอย่างฝรั่งเศสและเดนมาร์กด้วย พวกเขาเป็นตัวเต็งที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปพร้อมกับเบลเยียมและมีสิทธิ์ที่จะจองตั๋วในรอบต่อไปได้ก่อนที่ทั้งสองทีมจะโคจรมาพบกันอีกด้วย ฟอร์ม: แคนาดา แคนาดาได้สิทธิ์ลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของประวัติศาสตร์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีนัก หลังจากที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกแล้ว แคนาดาก็มีฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอโดยสลับกันแพ้ชนะตลอด 4 เกมหลังสุด โดยพวกเขาไม่สามารถหาฟอร์มเก่งที่พาพวกเขาทะลุมาถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เลย การก้าวขึ้นมาลงเล่นในเวทีที่ยิ่งใหญ่ระดับฟุตบอลโลกนั้นอาจจะถือว่าเป็นอะไรที่ใหญ่เกินตัวสำหรับพวกเขาและมันก็ถือเป็นเรื่องที่ยากยิ่งในการเจอกับยอดทีมอย่างโครเอเชีย ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ทั้งสองทีมนั้นจะพบกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ต้องการผลการแข่งขันที่ดีกลับออกมา แคนาดาจะพยายามเน้นเกมรับให้แน่นที่สุด ในขณะที่จะพยายามใช้ความเร็วในการสวนกลับเพื่อต่อกรกับคู่แข่งในชุดตราหมากรุกที่น่าจะพยายามขึงเกมด้วยการครองบอลในแดนกลางให้ได้มากที่สุด ทีมชาติแคนาดาจะสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อและมีสิทธิ์ที่จะสร้างปัญหาให้กับทีมตราหมากรุกได้เหมือนกัน แต่โครเอเชียนั้นมีประสบการณ์ในเกมระดับนี้มาแล้วมากมายและมิดฟิลด์ระดับเวิร์ลด์คลาสอย่างลูก้า โมดริชที่คอยคุมแดนกลางให้กับทีมนั้นน่าจะสามารถเก็บชัยชนะในเกมนี้ให้กับโครเอเชียไปได้

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด แคเมอรูน 0-2 เซอร์เบีย สนาม: อัล จานูบ สเตเดี้ยม แคเมอรูนจะเจอกับเซอร์เบียในเกมรอบแบ่งกลุ่มจีนัดที่สอง โดยพวกเขาน่าจะหวังที่จะเก็บชัยชนะให้ได้ เพราะชัยชนะในเกมนี้อาจจะเป็นสามคะแนนสำคัญช่วยให้พวกเขาทะลุไปถึงรอบ 16 ทีมสุดในฟุตบอลโลกหนนี้ได้ ส่วนทางฝั่งของเซอร์เบียก็เป็นทีมเต็งที่จะคว้าชัยในเกมนัดนี้ เนื่องจากพวกเขาดูมีภาษีดีกว่าในการที่จะจบอันดับสองของกลุ่มตามหลังตัวเต็งของรายการอย่างบราซิล ฟอร์ม: แคเมอรูน แคเมอรูนโชว์ผลงานได้ดีพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก โดยการเอาชนะได้ถึง 5 จาก 6 เกมในรอบแบ่งกลุ่มและเอาชนะอัลจีเรียได้ในรอบเพลย์ออฟ แต่ฟอร์มของพวกเขาก็ไม่ได้ถือว่าดีที่สุด เนื่องจากชัยชนะในเกมรอบเพลย์ออฟเหนืออัลจีเรียของพวกเขานั้นถือเป็นชัยชนะนัดที่ 2 จาก 7 เกมเท่านั้น พวกเขาแพ้มา 3 เกมและเสมอไปอีก 2 โดยตอนนี้พวกเขากำลังแพ้มา 2 เกมติดต่อกันหลังจากที่พ่ายให้กับอุซเบกิสถานและเกาหลีใต้ในเกมนัดกระชับมิตร แน่นอนว่าแคเมอรูนนั้นมีนักเตะมากความสามารถมากพอที่จะสร้างปัญหาให้กับเซอร์เลีย แต่พวกเขาจำเป็นจะทุ่มสุดพลังในเกมนี้ แต่สถิติล่าสุดกลับบอกว่าความเป็นไปได้นั้นน้อยเอามาก ๆ ฟอร์ม: เซอร์เบีย ฟอร์มของเซอร์เบียนั้นดูดีกว่าฟอร์มของแคเมอรูนเป็นอย่างมาก ตลอด 8 เกมที่พวกเขาลงเล่นในปีนี้ พวกเขาเอาชนะไปได้ถึง 5 เกม โดยแพ้ไปแค่ 2 และเสมออีกหนึ่งเกม ตลอด 8 เกมนั้นพวกเขาทำได้ 11 ประตูและเสียไป 8 ประตู สถิติในเกมรับของพวกเขานั้นก็ไม่ได้ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุด เนื่องจากพวกเขาเก็บคลีนชีทไปได้เพียง 3 จาก 8 เกมเท่านั้น พวกเขาจะลงสนามในเกมนี้ด้วยเหล่ากองหน้าที่กำลังอยู่ในช่วงเข้าฝักและพร้อมที่จะพังประตูใส่ทุกทีม ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร โดยสรุปแล้ว เซอร์เบียน่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะในเกมนี้ไปได้ เนื่องจากแคเมอรูนน่าจะไม่สามารถต้านทานเกมรุกที่ดุดันของทีมจากยุโรปตะวันออกได้และพวกเขาก็ไม่น่าจะเป็นฝ่ายที่ขึ้นเกมรุกใส่เซอร์เบียได้เช่นกัน

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด บราซิล 3-1 สวิตเซอร์แลนด์ สนาม: สเตเดี้ยม 974 บราซิลและสวิตเซอร์แลนด์จะโคจรมาพบกันในเกมรอบแบ่งกลุ่มจีนัดที่สอง โดยทั้งสองทีมต่างก็เล็งที่จะคว้าตั๋วผ่านเข้ารอบต่อไปในนัดนี้ เพราะดูแล้วทั้งสองฝ่ายก็น่าจะเก็บชัยชนะในนัดแรกมาได้ทั้งคู่ บราซิลจะลงสนามในเกมนี้ในฐานะทีมเต็งที่จะเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ ในขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ก็หวังที่จะจบอันดับที่สองตามหลังทีมแซมบ้า ฟอร์ม: บราซิล เห็นได้ชัดเลยว่าทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์โลกนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มจัดจ้านเอามาก ๆ เจ้าของแชมป์โลก 5 สมัยยังไม่แพ้ใครเลยในปีที่ผ่านมา เกมล่าสุดที่พวกเขาแพ้นั้นต้องย้อนกลับไปถึงเกมนัดชิงชนะเลิศโคปา อเมริกาที่พวกเขาพ่ายให้กับอาร์เจนติน่าเมื่อเดือนกรกฏาคมเมื่อปีที่แล้วเลยทีเดียว นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาลงเล่น 15 เกมโดยที่ยังคงไร้พ่าย โดยแบ่งเป็นเก็บชัยชนะได้ 12 เกมและเสมอไปอีก 3 เกม ตอนนี้ พวกเขากำลังเก็บชัยชนะได้ 5 นัดติดต่อกันและยิงประตูได้อย่างน้อย 4 ประตูจาก 4 ใน 5 เกมหลังสุดอีกด้วย มันไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงยกให้พวกเขานั้นเป็นตัวเต็งที่จะกลับบ้านไปพร้อมกับถ้วยแชมป์โลกสมัยที่ 6 ฟอร์ม: สวิตเซอร์แลนด์ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์จะมองหาโอกาสในการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่สามติดต่อกันและพวกเขาก็มาถูกทางแล้วหากพวกเขาพลิกล็อคเอาชนะทีมเต็งอย่างบราซิลได้ สวิตเซอร์แลนด์นั้นอยู่ในช่วงที่ฟอร์มแย่เอามาก ๆ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พวกเขาแพ้ไปถึง 4 เกมและเสมออีก 1 เกมจาก 5 เกมแรกในปี 2022 แถมยังมีเกมรับที่หละหลวมเอามาก ๆ ฟอร์มสุดย่ำแย่นี้ยังรวมถึงความพ่ายแพ้ 3 เกมติดต่อกันในรายการยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกอีกด้วย แต่จากนั้น สวิตเซอร์แลนด์ก็คืนฟอร์มกลับมาได้ก่อนที่จะลงเล่นในฟุตบอลโลกด้วยการเก็บชัยชนะไปได้ 3 เกมติดต่อกัน โดยเป็นการเอาชนะหนึ่งในทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอย่างโปรตุเกสและสเปนอีกด้วย พวกเขาเป็นทีมที่สามารถสร้างปัญหาให้กับทีมใหญ่ ๆ ได้และพวกเขาก็อยากที่จะสร้างปัญหาให้กับทีมอย่างบราซิลในเกมนี้อย่างแน่นอน ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร นี่จะเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่ทั้งสองทีมจะเจอกันอีกครั้งในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งพวกเขาเคยอยู่ในกลุ่มเดียวกันในฟุตบอลโลก 2018 และเป็นครั้งที่สามที่พวกเขาเจอกันในฟุตบอลโลก โดยทั้งสองครั้งที่ทั้งสองทีมเจอกันนั้นจบลงด้วยผลเสมอ แต่ในเกมนี้ พวกเราจะได้เห็นบราซิลโชว์ของในเกมที่จะเจอกับสวิตเซอร์แลนด์อย่างแน่นอน

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด เบลเยียม 2-0 โมร็อกโก สนาม: อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม เกมนัดนี้จะเป็นเกมนัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่มสำหรับทั้งสองทีมและเมื่อถึงจุดนี้ เบลเยียมจำเป็นที่จะต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อจะการันตีการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในขณะที่โมร็อกโกก็ยังอยากที่จะยืดความหวังที่จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เอาไว้ต่อไปให้ได้ ฟอร์ม: เบลเยียม เบลเยียมหวังที่จะทะลุไปให้ถึงรอบลึก ๆ ในช่วงยุคทองของพวกเขาในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว พวกเขาทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศและพวกเขาก็หวังที่จะไปให้ไกลกว่านั้นและคว้าแชมป์โลกในยุคที่พวกเขามีนักเตะมากพรสวรรค์อยู่เต็มทีม ในสถิติในรายการยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกนั้นพวกเขาเก็บชัยชนะได้ 3 เกม เสมอ 1 แพ้ 2 ตลอด 6 เกม พวกเขาพังประตูไปได้ 11 ประตู แต่สถิติในแนวรับของพวกเขานั้นถือว่าเป็นอะไรที่น่าเป็นห่วง ใน 6 เกมนั้น พวกเขาเสียไปถึง 8 ประตูและเก็บคลีนชีทได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น พวกเขาจำเป็นจะต้องขันแนวรับให้แน่นขึ้นก่อนที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ฟอร์ม: โมร็อกโก โมร็อกโกกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มค่อนข้างดีก่อนที่จะลงเล่นในฟุตบอลโลกหนนี้ พวกเขาลงเล่นไป 12 เกมตลอดปี 2022 และเก็บชัยชนะไปได้ถึง 8 เกม แพ้เพียงแค่ 2 เกมเท่านั้นและยิงประตูไปถึง 19 ประตูตลอด 12 เกม พวกเขากลับต้องพบว่าตัวพวกเขาเองนั้นถูกจับมาอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งสุด ๆ คู่กับทีมปีศาจแดงแห่งยุโรปที่มีดีกรีเป็นถึงทีมที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศเมื่อฟุตบอลโลกครั้งก่อน และพวกเขาก็อาจจะไม่สามารถรอดพ้นจากการตกรอบในรอบแบ่งกลุ่มนี้ได้ เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะเก็บผลการแข่งขันที่ดีเหนือคู่แข่งได้ก่อนที่จะต้องตกรอบกลับบ้าน หากอย่างน้อย พวกเขาเก็บผลเสมอในเกมนี้ได้ พวกเขาก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วก่อนที่จะลงเล่นเกมรอบแบ่งกลุ่มในนัดสุดท้าย ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองทีมนี้เจอกันนั้นต้องย้อนกลับไปในปี 2008 ซึ่งเป็นโมร็อกโกที่เก็บชัยชนะเหนือเบลเยียมไปได้อย่างสบาย ๆ ด้วยสกอร์ 3-1 โมร็อกโกหวังที่จะให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง แต่มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด 14 ปีที่ผ่านมา เบลเยียมจะเป็นฝ่ายขึงเกมบุกใส่โมร็อกโกด้วยศักยภาพของทีมที่เหนือกว่าและจะสามารถเก็บชัยชนะไปได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งจะถือเป็นการการันตีการผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ของพวกเขาอีกด้วย

Read More

ผลการแข่งขันที่คาด อาร์เจนติน่า 3-0 เม็กซิโก สนาม: ลูเซล ไอคอนิค สเตเดี้ยม เกมในกลุ่มซีนี้จะถือเป็นเกมที่ทีมระดับท็อปจากอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้จะมาเจอกัน แต่เมื่อดูจากสถานการณ์โดยรวมแล้วน่าจะเป็นอาร์เจนติน่าที่เป็นตัวเต็งที่จะเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ไปได้ เพื่อที่จะจองพื้นที่ในรอบน็อคเอ้าต์และไปให้ถึงแชมป์ในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ให้จงได้ อีกฟากหนึ่งเป็นเม็กซิโกที่พยายามจะสร้างปัญหาให้กับอาร์เจนติน่าในฐานะทีมรองบ่อนและอย่างน้อยก็หวังที่จะแพ้ให้น้อยที่สุด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประตูได้เสียและมีผลไปถึงการแย่งอันดับที่สองของกลุ่ม ฟอร์ม: อาร์เจนติน่า อาร์เจนติน่าจะลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด พวกเขายังไม่แพ้ใครในเกมทีมชาติมาร่วม 3 ปีเข้าให้แล้ว สถิติไร้พ่ายของพวกเขายาวนานถึง 35 เกมและในช่วงเวลานั้น พวกเขาพังประตูไปได้ถึง 70 ประตู (เฉลี่ยแล้วยิง 2 ประตูต่อ 1 เกม) หากพวกเขายังคงสถิติไร้พ่ายนี้ได้อีก 7 เกมข้างหน้า พวกเขาจะกลายมาเป็นแชมป์โลกทีมต่อไปอย่างแน่นอน ฟอร์ม: เม็กซิโก เม็กซิโกถือว่ามีฟอร์มในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ดีเนื่องจากพวกเขาแพ้เพียงแค่ 2 จาก 14 เกมหลังสุดในฟุตบอลโลกและยังมีแต้มเท่ากับแคนาดาอีกด้วย แต่พวกเขาเข้ารอบมาในฐานะอันดับสองของทวีปเนื่องจากประตูได้เสียที่แย่กว่า แต่ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของพวกเขานั้นกลับไม่ได้ดีแบบนั้น พวกเขาเอาชนะได้เพียงแค่เกมเดียวตลอด 3 เกมหลังสุดและในรอบ 10 เกมหลังสุดพวกเขาก็เอาชนะได้เพียง 4 เกมเท่านั้น นี่มันไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน ทิศทางของเกมนี้จะเป็นอย่างไร ทีมฟ้าขาวจะขึงเกมบุกเข้าใส่และเป็นฝ่ายครองเกมด้วยนักเตะที่มีลีลามากมายในทีม และประกอบด้วยการมีลิโอเนล เมสซี่ที่ถือเป็นใจกลางของทุก ๆ อย่างของทีม จะเป็นผู้บัญชาการเกมรุกเข้าใส่ทีมจังโก้อย่างแน่นอน หน้าที่ของเม็กซิโกก็คือหยุดเมสซี่ให้ได้ เช่นเดียวกับนักเตะอย่างโรดริโก้ เดอ ปอล, อังเคล ดิ มาเรียและเลาตาโร่ มาร์ติเนซ มันถือเป็นงานที่แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเม็กซิโก้และคุณภาพโดยรวมของคู่แข่งนั้นก็ถือว่าดูดีกว่าพวกเขาหลายเท่าตัวเลยทีเดียว ตามสถิติแล้ว ทั้งสองทีมนั้นเคยเจอกันในฟุตบอลโลกมาแล้ว 3 ครั้ง และเป็นอาร์เจนติน่าที่เก็บชัยชนะรวดทั้ง 3 เกม นัดล่าสุดที่ทั้งสองทีมนั้นเจอกันนั้นจบลงด้วยชัยชนะของอาร์เจนติน่าด้วยสกอร์ 3-1 ในฟุตบอลโลกปี 2010 และผลการแข่งขันของคู่นี้ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นเดิม

Read More

การสิ้นสุดการแข่งขันของรอบแบ่งกลุ่มนั้นคาดว่าจะเป็นการเริ่มต้นการแข่งขันเพื่อชิงถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกทองคำอันเลื่องชื่อ ในช่วงต้นเดือนธันวาคมจะเป็นการเปิดฉากการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย ของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ แชมป์ของฝรั่งเศสในปี 2018 ทำให้มันกลายเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันที่ชาติจากยุโรปคว้าแชมป์โลกได้ แต่บราซิลและอาร์เจนติน่าจะมองหาทางทำลายสถิติดังกล่าวนับตั้งแต่ฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดในดินแดนเอเชียในปี 2002 อันที่จริงแล้ว แชมป์ของฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้มักจะอยู่จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยอันดับที่ 1 ของกลุ่มของพวกเขาและจะต้องสังเกตการณ์ดูแชมป์ของแต่ละกลุ่มในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ แล้วเกมน็อคเอาต์จะออกมาเป็นอย่างไรล่ะ? ใครจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์? เราจะพยายามดูว่าทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไรกัน รอบ 16 ทีมสุดท้าย เนเธอร์แลนด์ VS สหรัฐอเมริกา ในแง่ของดีกรีและชื่อชั้นในฟุตบอลโลก นี่คือการปะทะกันระหว่างเดวิดกับโกลิอัท เมื่อยักษ์ที่ตื่นขึ้นมาพบกับทีมที่กำลังพัฒนาอยู่ชัด ๆ ทีมดัตช์คุ้นเคยกับเกมในระดับนี้มากกกว่าในฐานะทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 3 ครั้งและพวกเขาก็น่าจะเล็งที่จะส่งทีมสหรัฐที่มีไม่เคยลงเล่นหรือเก็บชัยชนะในเกมรอบน็อคเอาต์ได้เลยในฟุตบอลโลกกลับบ้าน จากการที่มีนักเตะที่มีคุณภาพและประสบการณ์อย่างเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, เฟรงกี้ เดอ ยองและเมมฟิส เดปาย อาร์เจนติน่า VS เดนมาร์ก หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนการแล้วล่ะก็ อาร์เจนติน่าก็มีคิวที่จะเจอกับเดนมาร์กที่สนามอัล เรย์ยานในรอบ 16 ทีมสุดท้ายในวันที่ 3 ธันวาคม อาร์เจนติน่าเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ ซึ่งพวกเขาก็น่าจะผ่านลูกทีมของแคสเปอร์ ฮูลมันด์ไปได้ ถึงแม้ว่าทีมชาติเดนมาร์กจะเป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการยูโรเมื่อปีที่แล้วและมีสถิติที่เกือบเพอร์เฟ็คในรอบคัดเลือก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเทียบกับคุณภาพและความกระหายชัยชนะของอาร์เจนติน่าในปีนี้ได้เลย ฝรั่งเศส VS เม็กซิโก หากทีมแชมป์เก่าอย่างฝรั่งเศสสามารถจบอันดับ 1 ของกลุ่มดีได้ เม็กซิโกก็อาจจะเป็นทีมที่รอพวกเขาอยู่หากพวกเขาสามารถจบอันดับ 2 รองจากอาร์เจนติน่าได้ในกลุ่มซี แน่นอนว่าทัพเลอ เบลอส์จะยังคงเจ็บปวดอยู่กับความพ่ายแพ้ต่อเม็กซิโกในฟุตบอลโลกปี 2010  ที่ทำให้พวกเขาต้องตกรอบแบ่งกลุ่มไปด้วยสกอร์ 2-0 ได้เป็นอย่างดี แต่ในการรีแมตช์ครั้งนี้ พวกเขาน่าจะเป็นฝ่ายแก้แค้นได้ในที่สุด อังกฤษ VS เซเนกัล อังกฤษเป็นทีมที่เล่นได้ดีเสมอเมื่อเป็นการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ และหากพวกเขาจบในอันดับ 1 ในกลุ่มบีได้ เซเนกัลอาจเป็นทีมที่ยืนอยู่ในเส้นทางที่จะก้าวไปสู่รอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกอีกครั้ง เซเนกัลกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวามากหลังจากที่พึ่งคว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ได้ในปีนี้และตั้งเป้าที่จะเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศให้ได้เหมือนฟุตบอลโลก 2002 แต่พวกเขามีสิทธิ์ที่จะพบกับอังกฤษ ทีมที่รู้ว่าจะต้องทำยังไงจึงจะเก็บชัยชนะได้ในเกมที่อึดอัด อย่างไรก็ตาม นี่ควรเป็นเกมการแข่งขันที่ชิงไหวชิงพริบกันพอสมควร เนื่องจากเซเนกัลยังมีนักเตะชั้นนำจากทั่วโลกอีกด้วย แต่ยังไงก็ตาม ทีมสิงโตคำรามยังดูจะมีภาษีดีกว่าในการที่จะผ่านเข้ารอบไปได้. สเปน VS โครเอเชีย เกมที่ทีมยุโรปทั้งสองทีมต้องโคจรมาเจอกันนั้นมีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นในรอบ…

Read More

โดยปกติแล้ว ฟุตบอลโลกจะจัดขึ้นในฤดูร้อนตลอด แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ที่เพิ่งลงเตะกันไปได้ไม่นาน ในวันนี้ เราหยิบหกทีมที่เราคิดว่าจะได้รับผลกระทบจากฟุตบอลโลกครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดีหรือแย่ก็ตาม และแน่นอนว่าหกทีมเหล่านี้จะต้องวางแผนให้ดีในช่วงเลกสองของฤดูกาลที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม ในเกมวันบ็อกซิ่งเดย์ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง สารบัญ : ทีมหัวตาราง ทีมท้ายตาราง ช่วงพักเบรกฟุตบอลโลกจะส่งผลกระทบต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างไร เพื่อจะให้เห็นภาพว่าช่วงพักเบรกฟุตบอลโลกจะส่งผลกระทบต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างไร เรามาลองดูเหล่าทีมที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการแสดงผลกระทบของฟุตบอลโลกกันดีกว่า ทีมหัวตาราง อาร์เซน่อล หากคุณถามว่า “ฟุตบอลโลกจะส่งผลกระทบต่อพรีเมียร์ลีกยังไง?” หลาย ๆ คนคงจะบอกคุณว่าอาร์เซน่อล ตอนนี้ ทีมเดอะ กันเนอร์สกำลังครองจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่ถือว่ามีอะไรแปลกใหม่ในหลาย ๆ รูปแบบ ตามสถิติแล้ว ผลงานของพวกเขาคือการออกสตาร์ทที่ดีที่สุดอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกหลังจากผ่านไป 13 เกม อาร์เซนอลโฉมใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากสามปีของการลองผิดลองถูกและการสร้างแนวความคิดจากมิเกล อาร์เตต้าและทีมงานโค้ชของเขา ตอนนี้พวกเขาถือเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ตัวจริงและถูกมองว่าเป็นทีมที่จะสามารถครองจ่าฝูงไปจนคว้าแชมป์ได้สำเร็จอีกด้วย แต่ด้วยการแข่งขันฟุตบอลโลกที่บีบให้ต้องลีกต้องหยุดพัก หลายคนกลัวว่าผลกระทบของบอลโลกที่กระทบต่อพรีเมียร์ลีกนั้นจะเป็นสิ่งที่ทัพปืนใหญ่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงความกลัวในหมู่แฟนบอล แต่กลับเป็นความกลัวจากเหล่านักวิจารณ์ที่ยกย่องงานที่อาร์เตต้าทำได้ในฤดูกาลนี้ โปรเจ็คของอาร์เตต้านั้นเริ่มต้นขึ้นแล้วหลังจากที่เขาคุมทีมอาร์เซน่อลมา 3 ปี “เชื่อมั่นในกระบวนการ” ถึงแม้ว่าจะมีฐานแฟนบอลที่เสียงแตกออกกันไปก็ตาม เมื่อพิจารณาจากจุดนี้แล้ว มันไม่มีทางรู้ได้เลยว่าทีมของเขานั้นจะรักษาโมเมนตั้มเอาไว้ได้หรือไม่ โดยคาดว่าอาร์เซน่อลจะเสียนักเตะในทีมชุดใหญ่ไปอย่างน้อย 8 คน ไม่ว่าจะเป็นกาเบรียล เชซุส (บราซิล), อารอน แรมส์เดล (อังกฤษ), โธมัส ปาร์เตย์ (กาน่า), กรานิต ชาก้า (สวิตเซอร์แลนด์), แมตต์ เทิร์นเนอร์ (สหรัฐอเมริกา), บูคาโย่ ซาก้า (อังกฤษ), ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ (ญี่ปุ่น) และวิลเลี่ยม ซาลิบา (ฝรั่งเศส) นักเตะคนอื่นอย่างกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (บราซิล), กาเบรียล มากัลเญส (บราซิล) และเบน ไวท์ (อังกฤษ) ต่างก็มีสิทธิ์ที่จะถูกเรียกติดทีมชาติอีกด้วย อาร์เตต้าต่างแสดงความกังวลถึงเรื่องความฟิตของนักเตะทั้งหมดนี้ ซึ่งเขาต้องอยู่กับทีมอาร์เซน่อลโดยปราศจากนักเตะตัวหลักที่รักษาอาการบาดเจ็บต่าง ๆ นักเตะบางคนที่คาดว่าจะออกจากฟุตบอลโลกที่กาตาร์จากการประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การที่นักเตะหลายคนออกจากทีมไปช่วยทีมชาตินี้จะทำให้อาร์เตต้ามีบางอย่างที่น่ากังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้กำลังทำแต้มไล่จี้เข้ามาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เหลือตามหลังอาร์เซน่อลเพียงสองคะแนนเท่านั้นและประสบการณ์ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า รวมถึงขนาดของทีมเรือใบสีฟ้าของเขานั้นทำให้พวกเขายังคงกุมความได้เปรียบเหนืออาร์เซน่อลเสมอ ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูลเริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยฟอร์มที่ย่ำแย่อย่างน่าประหลาดใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเสริมทัพในปีนี้ไปเยอะกว่าปีที่แล้วก็ตาม พวกเขาปล่อยตัวหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของทีมอย่างซาดิโอ…

Read More