- Southampton vs Aston Villa Preview: Villa เพื่อลงโทษนักบุญที่ได้รับการผลักไส?
- Brighton vs Leicester Preview: นกนางนวลยังคงไล่ล่ายุโรป แต่ต้องชนะกับสุนัขจิ้งจอกที่หดหู่
- Manchester City vs Crystal Palace Preview: Palace มุ่งหวังที่จะก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มเติมบนท้องถนน
- Arsenal vs Brentford Preview: Gunners Welcome Bees ใน Vital London Derby
- ผู้รักษาประตูพรีเมียร์ลีกที่ดีที่สุดและสถิติของพวกเขา
- Nottingham Forest vs Everton Preview: Toffees หวังว่าจะรบกวนการผลักดัน UCL ของ Forest
- Tottenham vs Eintracht Frankfurt 1-1 รายงาน: All to Play for Germany หลังจาก North London Draw
- Lyon vs Manchester United 2-2 รายงาน: Late Show ออกจากการผูกนี้อย่างประณีต
Author: admin
ท่ามกลางปัญหามากมายที่เชลซีในขณะนี้ กุนซืออย่างโทมัส ทูเคิล น่าจะอยากจะทำให้ทีมมั่นใจว่าใครก็ตามที่จะมาซื้อสโมสรของเขาไปจะได้เห็นทีมลงเล่นในศึกยูฟ่าฯ ถ้วยใหญ่อย่างแน่นอน และคงฟอร์มที่ดีของทีมต่อไปให้ได้ ส่วนเบรนต์ฟอร์ดก็ยังคงต้องการมีแต้มในเกมนี้ เพื่อหนีการตกชั้นในฤดูกาลนี้ให้ได้
ในเกมนี้ ทีมหนีตกชั้นอย่างเบิร์นลีย์จะต้องเจอกับงานหนักระดับทีมลุ้นแชมป์อย่างซิตี้ ชอน ไดช์ และลูกทีม โชคไม่ค่อยดีนักที่จะต้องเจอกับซิตี้ในช่วงเวลาที่ทัพเรือใบสีฟ้ากำลังเอาจริง และกำลังต้องการแต้มเป็นอย่างมาก เพื่อโอกาสในการคว้าแชมป์ของทีม
เจ้าบ้านไบรท์ตันกำลังเล็งที่จะหยุดสถิติแพ้รวดหกนัดติดในเกมวันเสาร์นี้ ก่อนที่จะไปตั้งหลักกันใหม่ในช่วงพักเบรกทีมชาติเป็นเวลาสองอาทิตย์ ด้านนอริชเกมก่อนสามารถยันเสมอเบิร์นลีย์ได้สำเร็จก็จริง แต่พวกเขายังคงรั้งอันดับสุดท้ายของตารางเช่นเดิม ทั้งสองทีมน่าจะต้องใส่กันแบบเต็มอัตราศึกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของฝ่ายตน
เบรนต์ฟอร์ดจะสามารถทำสถิติคว้าชัยในลีกสามเกมติดได้ หากพวกเขาสามารถบุกไปชนะเลสเตอร์ถึงถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดียมได้ ในเกมวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ปัจจุบันทีมเยือนอยู่ในอันดับที่สิบห้าของตาราง มีแต้มเหนือโซนตกชั้นอยู่แปดคะแนน ส่วนเจ้าบ้านรั้งอันดับสิบสองของตาราง นำเบรนต์ฟอร์ดอันดับสิบห้าอยู่เพียงสามคะแนน แต่อย่างไรก็ดี พวกเขายังลงเล่นน้อยกว่าถึงสามนัด พลพรรคจิ้งจอกถูกตั้งความหวังว่าพวกเขาจะสามารถลุ้นท็อปโฟร์ได้ในปีนี้ แต่ในปีนี้พวกเขาทำผลงานได้ผิดกับมาตรฐานของพวกเขา เก็บได้เพียง 33 คะแนนเท่านั้น จากการลงเล่น 26 เกม ทำได้แค่เพียงรั้งอันดับสิบสองของตารางเท่านั้น
สตีเว่น เจอร์ราร์ด สามารถพลิกสถานการณ์ของวิลล่าในฤดูกาลนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในอันดับเก้าของตารางแล้ว และก็เป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่าฟอร์มการเล่นของทีมนั้นดีขึ้นมาก ทีมสิงห์ผงาดจะต้องเจอกับทัพปืนใหญ่ในเกมนี้ โดยทีมปืนใหญ่นั้นกำลังต้องการชัยชนะด้วย จากการที่พวกเขาเพิ่งแพ้ลิเวอร์พูลมา 2-1
พลพรรคหมาป่ากลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังจากเก็บชัยชนะแบบคลีนชีตได้ทั้งสองนัด ในสองเกมล่าสุดกับวัตฟอร์ดและเอฟเวอร์ตัน และน่าจะอยากให้ทีมรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ให้ได้ ในเกมที่จะเปิดบ้านเจอกับลีดส์ในเกมนี้ เกมเยือนนี้จะไม่ง่ายสำหรับลีดส์แน่นอน จากการที่พวกเขายังตามหาชัยชนะต่อเนื่องในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้อยู่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะออกไปเยือนคริสตัล พาเลซ ที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค ในวันจันทร์นี้ เพื่อที่จะทิ้งช่องว่างห่างอันดับสองอย่างลิเวอร์พูลหกคะแนนอีกครั้ง ด้านฝั่งพาเลซเคยชนะแมนฯซิตี้ มาแล้วในเลกแรกที่เจอกัน ในนัดที่ซิตี้เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ไป 2-0 และปาทริก วิเอร่า กุนซือใหญ่ของทีมก็คงไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะในตอนนี้พวกเขาเข้าใกล้โซนฟุตบอลยุโรปเข้าไปทุกที และมีหวังเล็ก ๆ ที่ทีมจะได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปในปีหน้า หากเก็บแต้มได้ในนัดน
ทีมขุนค้อนกําลังเล็งที่จะหยุดฟอร์มบู่ของพวกเขาให้ได้เร็วที่สุด ส่วนทีมเยือนน่าจะอยากคงฟอร์มที่ดีในปัจจุบันเอาไว้ให้ได้ ในเกมลีกที่จะพบกันในวันอาทิตย์นี้ สถานการณ์ในฤดูกาลนี้ของเวสต์แฮมนั้นแย่ลงเอามาก ๆ หลังแพ้ไปถึงสามเกมในช่วงแปดวัน (รวมทุกรายการ) โดยเริ่มจากความพ่ายแพ้ในบอลถ้วยเอฟเอคัพให้กับเซาแธมป์ตัน และความพ่ายแพ้ต่อเซบีย่าในศึกยูโรป้าลีก ในรอบน็อคเอาต์นัดแรก แอสตัน วิลล่า (36 แต้ม –อันดับที่ 9) ดูเหมือนจะเดินหน้าได้อย่างมั่นคงในการคุมทีมของสตีเวน เจอร์ราร์ด
เซาแธมป์ ตันจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของวัตฟอร์ดในช่วงบ่ายวันอาทิตย์นี้เพื่อกลับมาหาชัยชนะอีกครั้ง หลังจากแพ้ในเกมลีกมาสองนัดติด จากความพ่ายแพ้สองนัดล่าสุดส่งผลให้ทัพนักบุญหล่นมาอยู่ในอันดับสิบของตาราง ส่วนทีมเยือนก็แพ้มาสองนัดติดเช่นกัน และหล่นไปอยู่อันดับ 19 แล้ว โดยตั้งแต่ขึ้นปีใหม่มา ทีมนักบุญฟอร์มดีขึ้นอย่างมาก เก็บชัยชนะได้ถึงเจ็ดเกม จากสิบเกมที่พวกเขาลงเล่นในปี 2022 ด้านวัตฟอร์ดตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าสู่ยุคของ รอย ฮอดจ์สันนั้น พวกเขาแพ้ไปถึงหกเกมจากแปดเกมล่าสุด และถึงทีมแตนอาละวาดจะมีเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้นกว่าเดิม พวกเขาก็ยังมีปัญหาเรื่องความผิดพลาดส่วนบุคคล และเสียประตูง่าย ๆ ในเกมที่แพ้วูล์ฟไปถึง 4-0 ในวันพฤหัสที่ผ่านมา โดยพวกเขามีตัวความหวังคือเอมมานูเอล เดนนิส และโจชัว คิง ในการที่จะยิงเพื่อทําแต้มให้กับทีม
ทั้งสองฝ่ายนั้นพ่ายในเกมก่อนหน้ามาทั้งคู่ โดยนอริชแพ้ให้กับเชลซี และลีดส์แพ้ให้กับวิลล่าในคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา ส่วนสถิติ เฮดทูเฮดระหว่างทั้งสองทีมนับตั้งแต่ปี 1935 ลีดส์มีสถิติดีกว่าเล็กน้อย เก็บชัยชนะได้ 24 ครั้ง เสมอกัน 16 ครั้ง และแพ้ให้นอริชไป 20 ครั้ง สําหรับทีมนกขมิ้นของ ดีน สมิธ ตอนนี้จะต้องเร่งเครื่องทําผลงานให้ดีได้แล้ว ก่อนจะสายเกินไปและตกชั้น เพราะพวกเขายังตามหลังโซนปลอดภัยอยู่ถึงห้าคะแนน แถมลงเล่นมากกว่าอันดับ 17 อย่างเอฟเวอร์ตันอยู่ถึงสามเกม ยิ่งทําให้สถานการณ์ยากกว่าเดิมอีก จากการที่พวกเขาแพ้ไปถึง 11 เกมในช่วง 14 เกมหลังสุด พวกเขาอาจจะต้องชนะถึงหกจากสิบเกมสุดท้ายในลีก เพื่อความอยู่รอดในฤดูกาลหน้า