Author: admin

คริสตัล พาเลซ ทีมปราสาทเรือนแก้วอาจจะต้องไปทำบุญ 9 วัดซะแล้วหลังจากทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดสะเปะสะปะในเกมที่เอทิฮัด สเตเดี้ยม ปาทริค วิเอร่าและลูกทีมของเขาออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมและจบครึ่งแรกด้วยการตุนสกอร์นำไว้ก่อนถึง 2-0 ในเกมที่ออกไปเยือนแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พวกเขากลับไม่สามารถรักษาสกอร์นั้นได้เนื่องจากเกมรับที่หละหลวมของพวกเขาเอง พวกเขาขึ้นนำไปด้วยด้วยการทำเข้าประตูตัวเองโดยจอห์น สโตนส์และหนีห่างออกไปเป็น 2-0 อย่างรวดเร็วจากลูกโหม่งที่ยอดเยี่ยมของโยอัคคิม แอนเดอร์เซ่นจากลูกตั้งเตะของเอเซ่ แต่อย่างไรก็ตาม เกมรุกที่ดุดันของซิตี้ทำให้เราได้เห็นแบร์นาโด้ ซิลวาทำประตูตีตื้นไล่มาจากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษ จากนั้นก็ตามมาด้วยแฮตทริกในครึ่งหลังที่สุดยอดของเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ซึ้งเขาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและความแข็งแกร่งในเหมาทั้ง 3 ประตูเพื่อปิดเกม เกมนัดถัดไปของคริสตัล พาเลซคือการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของเบรนท์ฟอร์ด ทีมที่พึ่งเสมอกับเอฟเวอร์ตันมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เบรนท์ฟอร์ด เหล่าผึ้งพิฆาตยังคงมีฤดูกาลที่สม่ำเสมอต่อไป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเล่นในบ้านและตกเป็นฝ่ายตามหลังเอฟเวอร์ตันไปก่อน แต่ความรู้สึกภายในสนามนั้นก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่ายังไงซะ พวกเขาจะสามารถทำประตูตีเสมอได้อย่างแน่นอนและพวกเขาก็ทำได้จริง ๆ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงินเป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 24 จากลูกยิงสุดสวยของแอนโธนี่ กอร์ดอนซึ่งมีข่าวหนาหูในเรื่องการย้ายออกจากสโมสรพร้อมกับเงินก้อนโต แต่อย่างไรก็ตาม ประตูในช่วงท้ายเกมจากวิทาลี่ ยาเนลต์นั้นก็ช่วยให้สกอร์กลับมาเสมอกันจนได้ จนจบเกม ทั้งสองฝ่ายแบ่งแต้มกันไปทีมละ 1 คะแนนซึ่งก็ถือว่าเป็นผลการแข่งขันที่สมเหตุสมผลแล้ว เกมนัดถัดไปของเหล่าผึ้งพิฆาตนั้นถือเป็นเกมนัดสำคัญในการเจอกับคริสตัล พาเลซ ที่หวังจะคืนฟอร์มหลังจากที่พึ่งพลาดท่าให้กับแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างน่าผิดหวังในสัปดาห์ที่แล้ว ผลการแข่งขันที่คาด คริสตัล พาเลซ 2-1 เบรนท์ฟอร์ด สูง 1.5 ลูก รองครัสตัล พาเลซ +1 ลูก

ปัญหาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในตำแหน่งกองกลางนั้นเกิดขึ้นและยังคงอยู่มายาวนานเกือบสิบปีแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแทบจะทุกตำแหน่งในสนามนั้นดูเหมือนว่าจะมีปัญหาทั้งหมดในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในช่วงหลัง แต่ก็ไม่มีตำแหน่งไหนที่ดูจะอาการหนักไปกว่าตำแหน่งแดนกลางอย่างแน่นอน ตั้งแต่สมัยที่โชเซ่ มูรินโญ่กุมบังเหียนอยู่ที่สโมสร พวกเขาจำใจต้องต้องทนดูทีมของพวกเขาพึ่งพามิดฟิลด์ตัวรับกลาง 2 คนในการคุมแดนกลาง ซึ่งส่วนใหญ่คือสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์และเฟร็ด นักเตะทั้ง 2 นั้นได้ใช้การเล่นในแบบของพวกเขาเองโดยการใช้ความแข็งแกร่งทางกายภาพและแรงขับเคลื่อนมาสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่การขาดความแม่นยำในการผ่านบอลและความคิดสร้างสรรค์เป็นปัญหาใหญ่และมันมีมูลค่ามากกว่าสิ่งที่พวกเขาหยิบยื่นให้กับสโมสรซะอีก เฟร็ด นักเตะที่ถูกคว้าตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 52 ล้านปอนด์นั้นไม่ได้โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาจากชัคตาร์ โดเน็ตสค์เลย แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องความขยันของเขานั้นไม่มีใครสงสัยอยู่แล้วล่ะ ความท้าทายหลักของห้องเครื่องทีมชาติบราซิลก็คือความเร็ว, ความสามารถในการคุมแดนกลาง, คุมเกมและสร้างโอกาสให้กับกองหน้า แต่อย่างไรก็ตาม คู่หูดีกรีทีมชาติสก็อตแลนด์ของเขานั้นเลวร้ายกว่านั้นมาก สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ เด็กปั้นจากอะคาเดมี่ชื่อดังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้แสดงให้เห็นว่าเขามีแพสชั่นและความปรารถนาที่จะอยู่ที่สโมสรก็จริง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีฝีเท้าและความสามารถที่เพียงพอสำหรับเหล่าแฟนบอลและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตามหาหรือยังคงไล่ล่านักเตะตัวเลือกแรกของเทน ฮากอย่างเฟรงกี้ เดอ ยอง ซึ่งเชื่อกันว่ามิดฟิลด์ชาวดัตช์มีคุณสมบัติทั้งหมดที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จกับสโมสรและที่สำคัญที่สุดคือเขากำลังอัพเกรด 2 ทางเลือกในปัจจุบันของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ดีลนั้นก็ดูไม่น่าจะเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากเขายืนกรานที่จะอยู่ต่อกับบาร์เซโลน่า คาเซมิโร่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในตำแหน่งของเขาในยุคนี้และความสำเร็จและสถิติของเขาก็เป็นอะไรที่ชัดเจนในตัวของมันเองอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าความสมเหตุสมผลของดีลนี้คือการที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นแทบจะสิ้นหวังในการหาแดนกลางที่มีคุณภาพและเนื่องจากดีลในการคว้าตัวเดอ ยองนั้นดูเหมือนจะเป็นไปได้ค่อนข้างยากมากแล้ว ข้อเสนอที่ล่อตาล่อใจนั้นก็ช่วยให้ห้องเครื่องทีมชาติบราซิลเลือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาเป็นจุดหมายต่อไป ไม่น่าแปลกใจเลยที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทุ่มเงินก้อนโตเพื่อให้ได้ตัวมิดฟิลด์ที่มีคุณภาพในแดนกลางหลังจากฟอร์มการเล่นที่หมดอาลัยตายอยากใน 2 เกมแรกของฤดูกาล การได้เห็นพวกเขาแพ้ไบรท์ตันและเบรนท์ฟอร์ดโดยเสียไปถึง 6 ประตูและทำได้เพียงประตูเดียวนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครหลายคนคาดหวังเลยแม้แต่น้อย ในบทความนี้ เราจะมาพิจารณาถึงดีลที่เราจะได้เห็นกองกลางทีมชาติบราซิลวัย 30 ปีย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ข้อดีและข้อเสียของดีลนี้และสิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสามารถคาดหวังได้จากตัวเขาในอนาคตต่อจากนี้ ข้อดีของดีลนี้ มันโอเคที่จะบอกว่านี่เป็นดีลที่ดีมากสำหรับทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรอัล มาดริดจะได้เงินสดก้อนโตสำหรับนักเตะวัย 30 ปี ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะได้ตัวกองกลางจอมตัดเกมที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว โดยเจ้าตัวยังสามารถสอดขึ้นมาทำประตูได้อยู่บ้างเป็นครั้งคราวอีกด้วย แถมเขาจะยังเข้ามาเป็นตัวอัพเกรดการเสริมแกร่งให้กับทีมเป็นอย่างมาก เทียบกับนักเตะเก่าที่พวกเขามีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเขาจะได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากค่าเหนื่อยที่รับอยู่ก่อนหน้านี้ที่เรอัล มาดริด คาเซมิโร่ต้องการเวลาในการลงเล่นมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการติดทีมชาติเพื่อเดินทางไปเล่นฟุตบอลโลกที่กาตาร์และการเข้ามาของคามาวิงก้าและชูอาเมนี่จะขัดขวางความเป็นไปได้นั้นของเขาอย่างแน่นอน เนื่องจากเรอัล มาดริดกำลังมองหาการสร้างทีมเพื่ออนาคต แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการตัวคาเซมิโร่มากกว่าที่เขาต้องการทีม พวกเขากำลังขาดไอเดีย, ขวัญกำลังใจและในแดนกลางนั้นก็ต้องการใครสักคนที่จะลงเล่นโดยใส่เต็มที่และทำได้หลายสิ่งอย่างในแดนกลางได้ซึ่งคาเซมิโร่เป็นคนที่ทำแบบนั้นมาตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ปล่อยมิดฟิลด์ออกจากทีมไปหลายคนและพวกเขาต้องการนักเตะใหม่เพิ่มในแดนกลางเป็นอย่างมาก การได้ตัวคาเซมิโร่ ในความคิดเห็นของเรานั้นเท่ากับมิดฟิลด์ระดับคุณภาพอย่างแท้จริงถึง 2 คน เขายอดเยี่ยมระดับนั้นเลยล่ะ ข้อเสียของดีลนี้ ความสิ้นหวังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมักจะทำให้พวกเขาต้องสูญเสียเงินก้อนโตอยู่เป็นประจำ เนื่องจากหลาย ๆ สโมสรต่างมองมันเป็นโอกาสในการหาเงินก้อนโต การขาดการเตรียมการในตลาดซื้อขายนั้นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจและถือเป็นฝันร้ายเลยล่ะ…

3 เกมแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ทำให้เราได้เห็นเชลซีจมอยู่ในอันดับที่ 12 โดยมีคะแนนอยู่ 4 คะแนนจาก 3 เกมแรกของพวกเขา ในช่วง 3 เกมแรกนั้นพวกเขายิงได้ 3 ประตูโดยมีเพียงประตูเดียวที่มาจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ ในแง่ของการสร้างโอกาส เชลซีมีอัตราในการสร้างโอกาสทำประตู (ต่อประตู) อยู่ที่ 4.1 ตามสถิติของ FotMob ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นอันดับที่ 10 ในลีก จนถึงตอนนี้ เชลซีมีนักเตะที่ทำประตูอยู่ 3 คนในฤดูกาลนี้และในทั้ง 3 คนนั้นก็ไม่มีกองหน้าเลยแม้แต่คนเดียว รีซ เจมส์และจอร์จินโญ่เป็นชื่อที่เราคุ้นหูในเรื่องของการทำประตูให้กับเชลซี คูลิดู คูลิบาลี่เป็นอีกคนที่ทำประตูได้ในการลงสนามให้กับเชลซีในบ้านของพวกเขาในฤดูกาลนี้ เกมที่ออกไปเยือนลีดส์ ยูไนเต็ดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เชลซีพ่ายให้กับลูกทีมของเจสซี่ มาร์ชด้วยสกอร์ 3-0 ถือเป็นฟอร์มที่พวกเขาโดนคู่แข่งกดดันตลอดและไม่สามารถหาทางตอบโต้ได้เลยหลังจากที่ออกสตาร์ทเกมได้ดี ซึ่งพวกเขาได้ราฮีม สเตอร์ลิงส่งบอลเข้าไปกองอยู่ก้นตาข่ายได้แต่ก็ไม่ได้ประตูเพราะล้ำหน้า เมื่อจบเกมการแข่งขัน เชลซีมีโอกาสยิงทั้งหมด 14 ครั้งและมีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นที่เข้ากรอบ โดยทีมสิงโตน้ำเงินครามอัตราในการสร้างโอกาสทำประตู (xG/Expected goals) ได้เพียง 0.88 ประตูเท่านั้น เมื่อเทียบกับลีดส์ที่ยิงตรงกรอบ 6 ครั้งและมีอัตราในการสร้างโอกาสทำประตู (xG/Expected goals) ถึง 2.22 ประตู น่าจะพอสรุปได้ว่าเชลซีไม่สามารถสร้างโอกาสที่จะแจ้งได้มากเท่าที่ควร แม้ว่าจะมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงถึง 61% ก็ตาม ศูนย์หน้าที่พร้อมใจกันตีนบอดของเชลซี – หรือการไม่มีศูนย์หน้าที่แท้จริง สิ่งสำคัญที่สุดคือกองหน้าของเชลซีไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งมากพอ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สิงห์บลูส์กำจัดทั้งโรเมลู ลูกากูและติโม แวร์เนอร์ออกจากสโมสร นักเตะทั้ง 2 คนนั้นถือเป็นนักเตะส่วนเกินของแผนการเล่นของโธมัส ทูเคิ่ลสำหรับฤดูกาลใหม่และได้มอบหน้าที่ศูนย์หน้าตัวหลักให้กับไค ฮาเวิร์ตซ์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมันรายนี้ยังทำประตูไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้ และโดยภาพรวมเขาก็ไม่ได้ผลงานดีนัก เขาอาจจะเล่นได้ดีบ้างเป็นครั้งคราว อย่างเช่นในช่วง 45 นาทีในเกมกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ซึ่งในเกมนั้นเขาก็พลาดโอกาสทองในการพาทีมของเขาขึ้นนำอีกด้วย ฮาเวิร์ตซ์ยิงไป 13 ประตูจาก 45 เกมเมื่อฤดูกาลที่แล้วและจบฤดูกาลด้วยการเป็นดาวซัลโวร่วมกับโรเมลู ลูกากูที่ตอนนี้ถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับอินเตอร์ มิลานและเมสัน เมานท์ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมันอาจจะเหมาะกับแทคติคระบบของทูเคิ่ล แต่ผลงานในตำแหน่งที่เขาลงเล่นนั้นยังแย่มากและเมื่อคุณมองดูฟอร์มของลูกากูและแวร์เนอร์ที่ยิงรวมกันได้ถึง 23 ประตูจากทุกเกมที่ลงสนามให้กับเชลซีเมื่อฤดูกาลที่แล้วนั้นไม่ได้อยู่กับสโมสรแล้ว ความกดดันในการให้เขาเป็นแกนนำของศูนย์หน้าตัวหลักนั้นก็เพิ่มมากขึ้น…

ลิเวอร์พูล นี่ไม่น่าจะเป็นการออกสตาร์ตที่เจอร์เก้น คล็อปป์วาดฝันไว้เท่าไรนัก ตอนนี้ทีมของเขาไม่ชนะใครมาสามนัดติดแล้ว และโดนคู่ปรับอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแซงเหยียบหัวในตารางคะแนนไปแล้ว หลังจากที่ทีมหงส์แดงพลาดท่าแพ้ให้กับพวกเขาไป 2- เหล่านักวิเคราะห์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การขาดซาดิโอ มาเน่ ดูเหมือนจะสร้างปัญหาให้ทีมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องเกมรุก แม้ว่าจะมีนักเตะแนวรุกรอลงสนามอยู่มากมาย ทั้งโม ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ หลุยส์ ดิอาซ ลิเวอร์พูลชุดนี้ก็ยังดูทื่อและไม่อันตรายเอาเสียเลย ส่วนเกมรับก็ใช่ว่าจะดี สองนักเตะดาวดังของทีมอย่างเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต่างก็ถูกเจาะเป็นบ่อน้ำมันอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้  สาเหตุคาดว่ามาจากการขาดความเร็วและความแข็งแกร่งในเกมรับของทั้งคู่ แต่อย่างไรก็ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ก็อาจจะได้พักหายใจเล็กน้อยในเกมหน้า เพราะพวกเขามีโปรแกรมลงเตะกับบอร์นมัธที่ฟอร์มออกทะเลไปไกลในช่วงสองเกมหลังที่เจอกับทีมระดับท็อปทั้งคู่ ประกอบกับการได้เล่นในบ้านด้วย เกมนี้สามแต้มคงไม่หนีไปไหนไกล บอร์นมัธ               แม้ว่าทีม เดอะ เชอรรี่ส์ จะออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างสวยงามด้วยการปราบแอสตัน วิลล่าไปได้ 2-0 แต่พวกเขาก็มาโชคร้ายตรงที่ตารางแข่งนั้นใจร้ายกับพวกเขาเหลือเกิน เพราะสองนัดหลังจากนั้น พวกเขาต้องเจอทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อลที่กำลังร้อนแรงแบบติด ๆ กัน สองอาทิตย์ติด ในเกมแรกพวกเขาทำอะไรทีมเรือใบสีฟ้าไม่ได้เลย และก็แพ้ไปตามระเบียบ ส่วนในเกมที่สองที่พวกเขากลับมาเฝ้ารังรับการมาเยือนของทีมปืนใหญ่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย การขาดความแน่นอนและคุณภาพในเกมรับส่งผลให้อาร์เซนอลถล่มพวกเขาแบบคาบ้านไปถึง 3-0 เกมต่อไปของบอร์นมัธคือเกมที่จะต้องออกไปเยือนแอนฟิลด์ นรกของทีมเยือน บวกกับพวกเขาจะลงเตะกับลิเวอร์พูลที่กำลังกระหายสามแต้มแรกของฤดูกาลแบบสุดขีดอีก โดยสรุปแล้ว เราไม่คิดว่าบอร์นมัธจะมีแต้มออกมาได้ในเกมนี้ ผลการแข่งขันที่คาด ลิเวอร์พูล 3-0 บอร์นมัธ สูง 2.5 ประตู ต่อลิเวอร์พูล -2

เซาแธมป์ตัน ทัพนักบุญเริ่มที่จะตั้งหลักได้แล้ว หลังจากออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ได้ไม่ค่อยดีนัก ลูกทีมของราล์ฟ ฮัสเซนฮุตเทิลก็ได้เฮปลดล็อกกันสักที ในเกมที่พวกเขาบุกไปชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ถึงถิ่นคิง พาวเวอร์ สเตเดียม ในสองเกมก่อนหน้านั้น พวกเขาไม่ชนะใครเลย และเก็บได้เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น โดยในนัดเปิดฤดูกาลพวกเขาโดนทีมไก่เดือยทองถล่มไปถึง 4-1  ส่วนในนัดที่สองก็เกือบแพ้คาบ้านให้กับลีดส์แล้ว หลังจากโดนนำไปก่อนถึงสองประตู แต่ก็กลับมาตีเสมอได้ 2-2 ชนิดหืดขึ้นคอ ในเกมที่สามพวกเขาก็โดนนำไปก่อนอีกครั้ง จากลูกฟรีคิกสุดสวยของเจมส์ แมดดิสัน แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ยอมแพ้และสู้ต่อได้อย่างยอดเยี่ยม และได้เช อดัมส์ ที่ซัดคนเดียวสองประตูพาทีมแซงกลับมาชนะไปได้ 2-1 เก็บสามคะแนนแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ ส่วนในนัดนี้นั้น พวกเขาจะเปิดสนามเซนต์ แมรี่ สเตเดียมต้อนรับการมาเยือนของทีมปีศาจแดงที่กำลังคึกสุดขีด จากการที่พวกเขาเพิ่งเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูลมาได้ในเกมก่อนหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีใครเชื่อหรือคาดหวังว่าทีมปีศาจแดงจะเล่นได้ดีขนาดนั้น ในเกมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อดูจากอาการของทีมที่เพิ่งโดนเบรนท์ฟอร์ดยิงซะไม่เหลือชิ้นดีไปถึง 4-0 ก็คงต้องยกความดีความชอบให้กับ เอริก เทน ฮาก ที่กู้สถานการณ์ของทีมกลับมาได้ แม้ว่าจะต้องจัดตัวแบบค้านสายตาแฟน ๆ หรือค้านสายตาเหล่านักข่าวก็ตาม การเปลี่ยนไลน์อัพของเทน ฮากนั้นได้ผลทันที ส่วนหนึ่งก็มาจากฟอร์มที่ดีของนักเตะในวันนั้นด้วย โดยทีมได้ เจดอน ซานโช่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซัลโวคนละหนึ่งประตู ช่วยให้ทีมปีศาจแดงเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ถอนแค้นจากลิเวอร์พูลในฤดูกาลที่แล้วได้สำเร็จ เกมต่อไปของพวกเขาจะเป็นการออกไปเยือนเซาแธมป์ตัน และจะเป็นการพิสูจน์ว่าชัยชนะนัดที่แล้วนั้นเป็นของจริงหรือไม่ หรือแค่ฟลุคเท่านั้น ผลการแข่งขันที่คาด เซาแธมป์ตัน 1-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูง 2.5 ประตู ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด -1

วูล์ฟ ทีมหมาป่าเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยฟอร์มที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง หลังจากที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะในเกมนัดแรกของฤดูกาลได้ เกมในนัดที่ออกไปเยือนท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สนั้นมักจะเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพบกับสเปอร์สที่ค่อนข้างเฉื่อยชา แต่แนวทางการเล่นที่ไร้ประสิทธิภาพของพวกเขาในเกมนี้แทบจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าบ้านไม่ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เบาใจได้ในเรื่องของฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของนักเตะใหม่ป้ายแดงอย่างมัทเธอุส นูเนซ ประตูเดียวจากไอค่อนแห่งสเปอร์สอย่างแฮร์รี่ เคนคือทั้งหมดที่ทำให้เห็นว่าทีมไหนรู้ว่าจะต้องทำอะไรเพื่อชัยชนะ ประตูจากความฉลาดปราดเปรื่องของศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษนั้นคือสิ่งที่อันโตนิโอ คอนเต้ต้องการ วูส์ฟจะเปิดสนามโมลินิว สเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของนิวคาสเซิลในเกมที่ดูท่าจะดุเดือดอย่างแน่นอน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้พูดถึงระบบการเล่นของนิวคาสเซิลที่พัฒนาขึ้นทีละน้อยและถึงแม้ว่าพวกเขาจะตกเป็นรองทางฝั่งของแชมป์เก่าในบ้านของตัวเอง แต่พวกเขาก็สามารถสร้างปัญหาให้กับเรือใบสีฟ้าได้ เอ็ดดี้ ฮาวและลูกทีมของเขานั้นกำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม นักเตะเหล่านี้เข้ามาเปลี่ยนทีมและการประเมินพวกเขาต่ำเกินไปในตอนนี้นั้นก็เท่ากับความล้มเหลว ถึงแม้ว่าจะตามหลังอยู่ 1 ประตู แต่การตอบสนองกลับที่ยอดเยี่ยมและความมุ่งมั่นของพวกเขาก็ทำให้นิวคาสเซิลพลิกแซงกลับมานำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถึง 3-1 ถึงแม้ว่าเกมจะจบลงด้วยผลเสมอกันไปแบบสุดมัน ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของพวกเขานั้นจะยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจของคู่แข่งนัดถัด ๆ ไปของพวกเขาอย่างแน่นอน เกมถัดไปของนิวคาสเซิลคือการออกเดินทางไปเยือนวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ผลการแข่งขันที่คาด วูล์ฟ 1- 3 นิวคาสเซิล สูง 2.5 ลูก ต่อนิวคาสเซิล -1 ลูก

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ จนถึงตอนนี้ ทีมเจ้าป่ากำลังสนุกกับการหวนคืนสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งของพวกเขา หลังจากออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยการพ่ายให้กับนิวคาสเซิ่ล 2-0 อย่างน่าผิดหวัง พวกเขาก็กลับมาทำได้ดีโดยการเฉือนเอาชนะเวสต์แฮมในบ้านด้วยประตูของไตโว อโวนิยี่ เกมนัดล่าสุดของพวกเขาในการออกเดินทางไปเยือนถิ่นกูดิสัน ปาร์คเพื่อบุกไปคว้าชัยชนะจากเอฟเวอร์ตันกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ และถือว่ามีโอกาสดีเลยสำหรับทีมเจ้าป่าที่พวกเขาจะเก็บสามคะแนนเต็มได้ แต่อย่างไรก็ตาม ประตูในช่วงท้ายเกมของเดมาราย เกรย์ทำให้ความหวังที่จะคว้าสามคะแนนของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์พังทลายลงไป แม้ว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนจากประตูของเบน จอห์นสันก็ตาม เกมนัดต่อไปสำหรับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์คือการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส แน่นอนว่าเกมนี้จะเป็นการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาและผลการแข่งขันของนัดนี้จะเป็นการวัดพัฒนาการของพวกเขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส อันโตนิโอ คอนเต้กำลังพยายามเสริมความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนสเปอร์สที่มีฟอร์มที่ย่ำแย่ก่อนหน้านี้ให้ดุดันยิ่งกว่าเดิม หลังจากผลเสมอ 2-2 ในเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ความคาดหวังกับท็อตแน่มนั้นก็เพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้ว่าสเปอร์สจะไม่ได้โชว์ฟอร์มได้ในระดับสูงสุด แต่ความมุ่งมั่นยามลงสนามของพวกเขานั้นก็ถือว่าน่าชื่นชมมากเลยล่ะ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษอย่างแฮร์รี่ เคนกลายมาเป็นฮีโร่ของทีมเอาไว้อีกครั้งจากประตูโทนของเขาในเกมนี้เพียงพอต่อการเก็บ 3 แต้มให้กับทีม เกมถัดไปของสเปอร์สคือการออกเดินทางไปพบกับน้องใหม่อย่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มันน่าจะเป็นอีก 1 บททดสอบของอันโตนิโอ คอนเต้และพวกเขาก็น่าจะเอาชนะได้แบบไม่ยากเย็นมากนัก ผลการแข่งขันที่คาด น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-2 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส สูง 1.5 ลูก ต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส -1 ลูก

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเรือใบสีฟ้ากำลังอยู่ในฟอร์มมาตรฐานของพวกเขาและเราก็คาดว่าพวกเขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ และน่าจะเก็บ 3 แต้มที่เซนต์ เจมส์ ปาร์คได้ในเกมที่พวกเขาออกไปเยือนนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องในชีวิตจริงนั้นกลับผิดคาด เมื่อทัพสาลิกาดงระเบิดฟอร์มเก่งออกมารับมือกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ และพวกเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เทศกาลการถล่มประตูเริ่มต้นจากอิลกาย กุนโดกันเบิกสกอร์แรกให้ทีมเยือนออกนำไปก่อน ตามมาด้วยลูกเปิดสุดแม่นยำของแซงต์-แม็กซิแม็งให้กับมิเกล อัลมิร่อนทำประตูตีเสมอได้ เจ้าบ้านบุกใส่ซิตี้อย่างต่อเนื่องและการที่เรือใบสีฟ้าไม่สามารถปิดพื้นที่ของเจ้าบ้านได้ส่งผลให้คัลลั่ม วิลสันยิงประตูแซงขึ้นนำก่อนที่คีแรน ทริปเปียร์จะซัดฟรีคิกสุดสวยนำห่างออกไปเป็น 3-1 แต่อย่างไรก็ตาม ประตูจากเออร์ลิ่ง ฮาลันด์และแบร์นาร์โด้ ซิลวาก็เพียงพอแล้วที่ซิตี้จะเก็บ 1 คะแนนออกจากถิ่นเซนต์ เจมส์ ปาร์ค มาได้  ผลการแข่งขันนัดนั้นแสดงให้เห็นว่าทำไมแมนเชสเตอร์ ซิตี้จึงเป็นแชมป์ลีกจากการที่ยังสามารถเก็บแต้มออกมาได้แม้ในวันที่หลาย ๆ อย่างไม่เป็นใจให้กับพวกเขา คริสตัล พาเลซ พลพรรคปราสาทเรือนแก้วโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ หลังจากที่พ่ายให้กับอาร์เซน่อลคาบ้านไป 2-0 ด้วยฟอร์มที่น่าผิดหวัง พวกเขาก็กลับมาเก็บแต้มจากลิเวอร์พูลถึงถิ่นแอนฟิลด์และเอาชนะแอสตัน วิลล่าไปได้ แอสตัน วิลล่าเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนด้วยลูกยิงของโอลลี่ วัตกิ๊นส์แต่ก็ถูกตีเสมอโดยวิลฟรีด ซาฮา ดาวยิงทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ที่ซัดไป 2 ประตูในเกมนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด สุดท้ายแล้วคริสตัล พาเลซก็ปิดเกมด้วยลูกยิงปิดกล่องจากมาเตต้าที่ซัดประตูจากลูกโยนเข้ากรอบเขตโทษที่แม่นยำจากไทริค มิตเชลล์ เกมนัดต่อไปของปาทริค วิเอร่าคือการออกเดินทางไปแมนเชสเตอร์เพื่อลงฟาดแข้งกับแชมป์เก่า ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 คริสตัล พาเลซ สูง 2.5 ลูก ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ -1 ลูก

เชลซี พลพรรคสิงโตน้ำเงินครามน่าจะยังงุนงงและหาเหตุผลไม่ได้กับการที่พวกเขาปล่อยให้ตัวเองพลาดท่าในถิ่นเอลแลนด์ โร๊ดไปแบบหมดสภาพเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยผลการแข่งขันที่ดี แต่ฟอร์มการเล่นของนักเตะก็ค่อนข้างน่าผิดหวังและไม่คงเส้นคงวาเลย นอกเหนือจากจำนวนเงินมหาศาลที่พวกเขาจ่ายออกไปเพื่อคว้าตัวเป้าหมายสำคัญในตลาดการซื้อขายที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามาสำหรับโธมัส ทูเคิ่ลและลูกทีมของเขา ความพ่ายแพ้ต่อลีดส์ถึง 3-0 ของพวกเขานั้นถือเป็นความเจ็บปวดที่ปลุกให้พวกเขากลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง การขาดการจัดการในสนาม, เกมรุกที่ตื้อตันและที่ทีมไม่ได้ซัลโวประตูมาสักพักแล้วนั้นทำให้ทูเคิ่ลต้องเครียดหนักเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าเขามีงานอีกมากมายที่จะต้องสะสางเพื่อให้ทีมของเขากลับมาคืนฟอร์มให้ได้ เกมนัดถัดไปของพวกเขาจะเป็นการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของเลสเตอร์ ซิตี้ที่ฟอร์มไม่สู้ดีนัก แต่พวกเขาจะไม่สามารถส่งเซ็นเตอร์แบ็คตัวใหม่อย่างคาลิดู คูลิบาลี่ลงสนามได้เนื่องจากเจ้าตัวยังติดโทษแบนจากการโดนใบแดงในเกมกับลีดส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  เลสเตอร์ ซิตี้ มันยากที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในถิ่นคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เลสเตอร์นั้นมีตลาดซื้อขายในช่วงซัมเมอร์ที่ซบเซาเอามาก ๆ และมีข่าวลือหนาหูว่านักเตะตัวหลักหลาย ๆ คนของพวกเขาต้องการที่จะย้ายออกจากสโมสร แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องที่พวกเขาออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้อย่างย่ำแย่นั้นถือเป็นเรื่องหนึ่ง นอกเหนือจากการที่เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงของทีมพึ่งต่อสัญญาใหม่กับทีมไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลสเตอร์ก็ยังคงต้องการนักเตะตัวรุกและนักเตะใหม่ในแนวรับเพิ่มอีกอยู่ดี ความพ่ายแพ้ในบ้านต่อเซาแธมป์ตันนั้นพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว 2 ประตูจากศูนย์หน้าที่เกิดในเมืองเลสเตอร์อย่างเช อดัมส์นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่านักบุญเก็บ 3 แต้มเต็มได้ เกมถัดไปของจิ้งจอกสยามคือการเดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อพบกับเชลซีที่พึ่งแพ้ให้กับลีดส์อย่างหมดรูปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั่นเอง ผลการแข่งขันที่คาด เชลซี 2-0 เลสเตอร์ ซิตี้ สูง 1.5 ลูก ต่อเชลซี -1.00 ลูก

ไบรท์ตัน เหล่านกนางนวลโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ฤดูกาลที่แล้วเราเห็นมาบ้างแล้วกับสิ่งที่เกรแฮม พ็อตเตอร์กำลังสร้าง แต่ด้วยการปล่อยตัวนักเตะที่ดีของทีมออกไปในช่วงตลาดซื้อขายฤดูร้อนที่ผ่านมานั้นก็ทำให้หลายฝ่ายคาดคิดว่าฟอร์มของพวกเขาจะดร็อปลงไป หลังจากออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยการบุกไปคว่ำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไบรท์ตันยังคงเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายสูงสุดในฤดูกาลนี้ได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากการเสมอกับนิวคาสเซิ่ลในบ้านของตัวเองอย่างน่าผิดหวัง เหล่านกนางนวลรู้ดีว่ามีเพียงชัยชนะในเกมกับเวสต์แฮมเท่านั้นที่จะสร้างความมั่นใจให้กับความคาดหวังที่พวกเขาวางเอาไว้ในตอนนี้ ประตูจากลูกจุดโทษของแม็คอัลลิสเตอร์และการจบสกอร์สุดคมจากเลอันโดร ทรอสซาร์นั้นก็เพียงพอที่จะเอาชนะเวสต์แฮมและทำให้เดวิด มอยส์ต้องตกที่นั่งลำบาก เวสต์แฮมลงสนามด้วยความมั่นใจเต็มร้อยหลังจากที่เก็บชัยชนะเหนือวีบอร์กในเกมยูโรป้า คอนเฟเร้นซ์ ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม ไบรท์ตันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่า ไบรท์ตันจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของลีดส์ ยูไนเต็ดที่กำลังคึกหลังจากที่พวกเขาเพิ่งถล่มเชลซีมาได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลีดส์ ยูไนเต็ด เจสซี่ มาร์ชกำลังทำหน้าที่ได้อย่างมหัศจรรย์กับทีมแห่งยอร์คเชียร์และคุณจะต้องอยากเห็นแน่ ๆ เลยล่ะ หลังจากที่พาทีมรอดพ้นจากการตกชั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลีดส์ก็เป็นทีมเต็งที่จะตกชั้นในฤดูกาลนี้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะยังพึ่งเปิดฤดูกาลก็ตาม แต่พลังงานและจิตวิญญาณของทีมก็ทำให้พวกเขาเก็บได้ถึง 7 จาก 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดแรกของฤดูกาล เกมนัดล่าสุดของพวกเขาที่เอาชนะเชลซีไปได้ถึง 3-0 นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน เหล่ายูงทองเป็นฝ่ายที่กดดันใส่เชลซีและสมควรที่จะเก็บ 3 คะแนนอย่างแน่นอน เกมถัดไปของลีดส์นั้นจะออกเดินทางไปยังทางใต้ของอังกฤษเพื่อพบกับไบรท์ตัน ทีมที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงและกำลังบินสูงอยู่ในอันดับที่ 5 ของตารางคะแนน ซึ่งอยู่ห่างจากอันดับที่ 4 ของตารางเพียงแค่เอื้อม แน่นอนว่าจะต้องเป็นเกมที่น่าตื่นเต้นและชัยชนะในเกมนี้จะขึ้นอยู่กับว่าฝั่งไหนเป็นฝั่งที่ใช้โอกาสได้ไม่เปลืองไปมากกว่ากัน   ผลการแข่งขันที่คาด ไบรท์ตัน 1-2 ลีดส์ สูง 2.5 ลูก รองลีดส์ +1.00 ลูก