Author: admin

แอสตัน วิลล่า วิลล่าเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ลีกด้วยความขมอมเปรี้ยว อย่างแรกเลยคือสตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีมที่สร้างความตื่นเต้นให้กับทีมด้วยการถอดไทรอน มิงส์ออกจากตำแหน่งกัปตันทีมและส่งต่อให้จอห์น แม็คกินน์ พวกเขาแพ้ในเกมเปิดสนามพรีเมียร์ลีกให้กับเอเอฟซี บอร์นมัธที่กลับขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกในสไตล์การเล่นที่หนักแน่นซึ่งทำให้แฟนบอลในวิลล่า ปาร์คต้องสั่นไหว พวกเขาเป็นทีมเต็งที่จะเอาชนะในเกมนั้นได้และความล้มเหลวในการที่พวกเขาไม่สามารถคว้าชัยได้นั้นได้ส่งเสียงเตือนดังไปทั่วเบอร์มิ่งแฮมเลยล่ะ ในความพยายามของพวกเขาที่จะสกัดกั้นกระแสนี้ พวกเขาจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของแฟรงค์ แลมพาร์ดและเอฟเวอร์ตันที่โชว์ฟอร์มได้ดีในเกมที่พวกเขาพ่ายให้กับเชลซีจากจุดโทษจอร์จินโญ่ไปอย่างเฉียดฉิว เอฟเวอร์ตัน แฟรงค์ แลมพาร์ดและลูกทีมของเขาทำได้ดีในเกมที่พ่ายให้กับเชลซี อดีตสโมสรเก่าของเขาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าการเสริมทัพใหม่ที่พวกเขาได้ทำในช่วงตลาดซื้อขายในช่วงซัมเมอร์จะทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาในการปรับตัวมากขึ้น แต่ทีมของเขาก็ยังดูเหนียวแน่นและน่าเกรงขามมากกว่าเดิมอยู่ดี จากการสูญเสียนักเตะอย่างริชาร์ลิซอนไปให้กับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ใครๆ ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นเอฟเวอร์ตันควานหานักเตะใหม่เข้ามาเสริมทีม แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น มันน่าสนใจที่จะเห็นว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะเป็นยังไง เนื่องจากทั้งสองฝั่งยังไม่มีคะแนนแม้แต่แต้มเดียวในลีกเลย ผลการแข่งขันที่คาด แอสตัน วิลล่า 1-1 เอฟเวอร์ตัน ต่ำ 2.5 ลูก เสมอ 

Read More

อาร์เซน่อล เหล่าเดอะ กันเนอร์สมีจิตวิญญาณที่ดีในพรีเมียร์ลีกในช่วงนี้ ตรงกันข้ามกับฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขาต้องพ่ายแพ้พร้อมกับฟอร์มที่ย่ำแย่เอามากๆ อาร์เซน่อลได้คว้าชัยชนะถึงถิ่นเซลเฮิร์สท์ ปาร์คเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มิเกล อาร์เตต้าและลูกทีมของเขาดูเฉียบคมขึ้น, ฟิตขึ้นและมีระเบียบวินัยมากขึ้น ดูทรงแล้วพวกเขานั้นไม่เหมือนกับอาร์เซน่อลเมื่อหลายปีเลยล่ะ กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้าดาวรุ่งของพวกเขายังไม่ได้โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในพรีเมียร์ลีก แต่เขาก็ยังมีโอกาสที่ดีในการโชว์ฟอร์มแจ่มให้เหมือนกับฟอร์มนัดก่อนหน้านี้ของเขา นัดถัดมาของพวกเขาเป็นการดวลกับอดีตแชมป์ลีกอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่ไม่ได้แทบจะไม่ได้ซื้อตัวนักเตะในตลาดซื้อขายนักเตะเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาเลย อาร์เซน่อลจะพยายามสร้างปัญหาให้กับเลสเตอร์ให้มากขึ้นด้วยชัยชนะนัดที่ 2 ติดต่อกันของฤดูกาล เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยเหตุผลบางบางประการ เหล่าผู้บริหารของเลสเตอร์ ซิตี้ได้ตัดสินใจที่จะอยู่เงียบๆ ในตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เหล่าแฟนบอลและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ต้องแปลกใจเนื่องจากฟอร์มที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องจากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนี้ รายงานของความเป็นไปได้ในการขายนักเตะที่มีศักยภาพของพวกเขาอย่างเจมส์ แมดดิสันและเวสลี่ย์ โฟฟาน่าก็ดูจะไม่จางหายไปเลย รายงานหลายฉบับในอังกฤษได้นำเสนอว่าเชลซีกำลังพยายามที่จะให้ราคาเซ็นเตอร์แบ็คของเลสเตอร์เป็นเงินมากถึง 85 ล้านปอนด์ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยฟอร์มที่น่าเบื่อของพวกเขาในเกมกับเบรนท์ฟอร์ด พวกเขาจะต้องลงไปควานหานักเตะในตลาดซื้อขายนักเตะเพื่อหลีกเลี่ยงฟอร์มที่ย่ำแย่ที่ซ้ำซากจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาจะไปเยือนอาร์เซน่อลที่เปี่ยมไปด้วยพลังงาน, มีชีวิตชีวาและมีทุกอย่างพร้อมที่จะลุยในตอนนี้ เลสเตอร์เจองานหนักเลยล่ะ ผลการแข่งขันที่คาด อาร์เซน่อล 3-1 เลสเตอร์ ซิตี้ สูง 2.5 ลูก อาร์เซน่อลต่อ -1 ลูก

Read More

นี่ไม่ได้เขียนผิดใช่มั้ย? ใช่แล้ว พวกคุณไม่ได้ตาฝาดหรอก คำว่าอาร์เซน่อลและประโยคของการคว้าแชมป์ลีกนั้นอยู่ในประโยคเดียวกันจริง ๆ ไม่เลย นี่ไม่ใช่โพสต์หลอกเรียกยอดไลก์หรืออะไรพวกนั้นหรอก เพราะในบทความนี้ยังมีเนื้อหาสำคัญแทรกอยู่ มันเป็นความจริงที่ไม่น่าเชื่อ ว่าในตอนนี้ เป็นเวลากว่าเกือบ 20 ปีแล้วที่อาร์เซน่อลไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกและคุณต้องย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 2003/04 เลยทีเดียวเพื่อย้อนดูครั้งล่าสุดที่ไอ้ปืนใหญ่คว้าแชมป์ลีกได้อย่างมีสไตล์ด้วยการคว้าแชมป์แบบ ‘ไร้พ่าย’ นั่นเอง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาร์เซน่อลก็ตกต่ำลงจากมาตรฐานเดิมของพวกเขาเองและเฝ้าดูอริทีมอื่นครองลีก ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเชลซีสนุกกับการคว้าแชมป์ลีกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเป็นการแย่งแชมป์ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูล ตอนนี้ อาร์เซน่อลกลายเป็นทีมตัวตลกและทุกวันนี้ พวกเขาไม่สามารถคว้าตั๋วลงเล่นในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกได้ด้วยซ้ำ เหล่าเดอะ กันเนอร์สใช้เวลาถึง 5 ฤดูกาลโดยไม่ได้ลงเล่นในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก แถมพวกเขายังพลาดโอกาสทองในการจบท็อปโฟร์เมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่างน่าผิดหวังอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อลกำลังมองหาทางแก้ไขและดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลายเป็นทีมโฉมใหม่หลังจากที่ลงทุนไปมากมายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สโมสรจากลอนดอนเหนือกลับมาเป็นสโมสรที่ใช้เงินในตลาดซื้อขายนักเตะมากที่สุดอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเขาเลือกที่จะเสริมทัพอย่างชาญฉลาดแทน ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ บ่อนพนันถูกกฏหมายก็มีตัวเต็งอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ลีก และเมื่อเทียบกับอัตราต่อรองทั้งหมด อาร์เซน่อลมีอัตราต่อรองที่ 30.00 เท่าในการคว้าแชมป์ลีกได้และเราจะให้เหตุผล 4 ข้อที่ว่าทำไมมันถึงอาจจะเกิดขึ้นก็เป็นได้ ตอนนี้ พวกเขามีเชซุสอยู่ในทีม อาร์เซน่อลเซ็นสัญญาคว้าตัวกาเบรียล เชซุสด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาในช่วงซัมเมอร์และนี่ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของสโมสร หากคุณมองตามความหมายทางศาสนาของเชซุสแล้ว อาร์เซน่อลก็ได้คว้าตัว “ผู้ช่วยชีวิต” เข้ามาเพื่อช่วยเหลือทีมในความทุกข์ยาก เป็นไปได้ว่าดาวยิงทีมชาติบราซิลอาจจะตอบแทนสโมสรได้อย่างเต็มความคาดหมาย เขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาทำอะไรได้บ้างในสนาม เขาทำประตูไปแล้ว 7 ประตูในช่วงปรีซีซั่น รวมถึงแฮตทริกในเกมกับเซบีญ่า ด้วยความสามารถในการเล่นตรงกลางและแม้กระทั่งปีก เขาจะนำเสนอมิติที่แตกต่างออกไปให้กับอาร์เซน่อลในด้านของเกมรุกและความคล่องแคล่วของเขาสามารถช่วยให้ทีมทำประตูได้มากขึ้นอีกด้วย ในเกมกับคริสตัล พาเลซ เชซุสโชว์ฟอร์มได้ดีเลยล่ะ โดยมีสถิติการเลี้ยงบอลผ่านสำเร็จ 6 ครั้งและเอาชนะคู่แข่งด้วยความเร็วอย่างสบาย ๆ สิ่งเดียวที่ขาดหายไปสำหรับดาวยิงชาวบราซิลคือประตูเท่านั้น ฤดูกาลที่แล้ว ศูนย์หน้าทุกคนของอาร์เซน่อลทำประตูรวมกันได้เพียง 9 ประตูเท่านั้นและหากเชซุสสามารถช่วยยิงเพิ่มให้ได้ประมาณ 2 เท่าของจำนวนนั้นได้ ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับไอ้ปืนโต? อย่าลืมว่าเชซุสเคยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกมาถึง 4 สมัยกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และบางทีมันอาจจะมีโชคดีที่ตามมาพร้อมกับชื่อของเขาก็เป็นได้ มีขนาดของทีมที่ใหญ่และดีขึ้น ขนาดของทีมมักจะเป็นตัววัดของทีมระดับท็อปอยู่เสมอและหากไม่มีขนาดทีมที่ใหญ่พอแล้วล่ะก็ ทีมมักจะประสบปัญหาในตอนที่นักเตะบางคนในทีมชุดหลักของพวกเขาไม่สามารถลงสนามได้ด้วยเหตุผลบางประการ ตัวอย่างเช่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลที่มีนักเตะที่ยอดเยี่ยมคอยทดแทนในทุก ๆ ตำแหน่งอยู่เสมอ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อลประสบปัญหาในเรื่องของขนาดทีมเป็นอย่างมากและเรื่องนี้มักจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงท้ายฤดูกาล โธมัส ปาร์เตย์และคีแรน เทียร์นี่ย์ได้รับบาดเจ็บจนทำให้พวกเขาไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้จนถึงขั้นต้องปิดเทอมจบฤดูกาลไปและทีมก็ตกต่ำตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา โดยเป็นโมฮาเหม็ด เอลเนนี่และนูโน่ ตาวาเรส…

Read More

พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022/23 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วและนัดเปิดฤดูกาลทั้ง 10 คู่ก็ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับพวกเราเป็นอย่างมาก หากมีอะไรที่จะต้องพูดแล้วล่ะก็ นั่นก็คือว่าพวกเราพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ที่น่าสนใจและพวกเราจะอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยถึงประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญให้หมดเลยล่ะ ถือว่าตามคาดสำหรับการที่ทีมเต็งอย่างอาร์เซนอลจะบุกไปคว่ำคริสตัล พาเลซด้วยสกอร์ 2-0 ในทำนองเดียวกัน แชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็เอาชนะเวสต์แฮมไป 2-0 โดยพวกเขาได้ประตูจากนักเตะใหม่ป้ายแดงอย่างเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ทั้ง 2 ลูก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สยังคงพัฒนาต่อไปภายใต้การคุมทีมของอันโตนิโอ คอนเต้และถล่มเซาแธมป์ตันไป 4-1 ถึงแม้ว่าจะเสียประตูก่อนก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจที่สุดเกิดขึ้นกับลิเวอร์พูล ซึ่งพวกเขาพลาดท่าไม่สามารถเอาชนะฟูแล่ม ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาใหม่ได้และต้องเป็นฝ่ายตามหลังถึงสองครั้งสองครากว่าจะไล่ตีเสมอและเก็บ 1 แต้ม มาได้      แต่ประเด็นที่กำลังเป็นกระแสกันอยู่ในตอนนี้คือเรื่องของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเอริค เทน ฮากพาทีมพ่ายให้กับไบรท์ตันไป 2-1 คาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สำหรับกุนซือชาวดัตช์แล้ว นี่คงจะเป็นการประเดิมสนามที่ไม่ค่อยจะน่าจดจำเท่าไรนัก  ในขณะที่เรากำลังทบทวนทุก ๆ เหตุการณ์จากเกมในสัปดาห์แรกของพรีเมียร์ลีก ต่อไปนี้คือ 5 ประเด็นที่โดดเด่นมากที่สุดตลอดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาร์เซน่อลดูพร้อมสำหรับฤดูกาลนี้เอามาก ๆ จริงอยู่ที่พวกเราไม่สามารถสรุปอะไรได้มากนักหลังจากผ่านไปเพียงแค่เกมแรก แต่เราสามารถตัดสินได้จากสิ่งที่พวกเราเห็นในสนามและนั่นก็แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของอาร์เซนอลที่เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค หลายครั้งที่พวกเขาดูกระวนกระวายและไม่มั่นใจในเกมเยือน แต่เหล่าเดอะ กันเนอร์สก็เริ่มแข็งแกร่งมากในเกมกับคริสตัล พาเลซและน่าจะเป็นฝ่ายขึ้นนำตั้งแต่ผ่านไป 3 นาทีแรกของเกมด้วยซ้ำ นอกจากนี้ อาร์เซนอลยังทำได้ดีในการเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ โดยผู้รักษาประตูอย่างแอรอน แรมส์เดลโชว์ฟอร์มเซฟเจ๋ง ๆ ไป 2 ครั้งเพื่อช่วยให้ทีมของเขายังอยู่ในเกม ในตำแหน่งอื่น ๆ วิลเลี่ยม ซาลิบา นักเตะหน้าใหม่ได้เปิดตัวด้วยดีด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมซึ่งจะทำให้มิเกล อาร์เตต้ามีไอเดียในแนวรับมากมายเลยล่ะ เมื่อดูในตารางการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง ทีมปืนใหญ่มีโปรแกรมการแข่งขันที่ค่อนข้างเบาใน 5 เกมหน้าและผลการแข่งขันของทั้ง 5 เกมนั้นจะบอกได้ว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาในฤดูกาลนี้นั้นจะเป็นของจริงหรือไม่ อย่าเพึ่งคาดหวังอะไรจากทีมลูกกรอกคะนองของมิเกล อาร์เตต้ามากนัก แต่อย่างไรพวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าคราวนี้พวกเขาน่ะเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม ระวังเออร์ลิ่ง ฮาลันด์เอาไว้ให้ดี! เขาเป็นคนที่ทุกๆ คนกำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ แถมยังมีเหตุผลที่ดีในการพูดถึงอีกด้วย เหล่าแฟนบอลและเหล่านักวิจารณ์ต่างพากันล้อเลียนฮาลันด์อย่างรวดเร็วหลังจากเกมที่ยากลำบากกับลิเวอร์พูล ซึ่งเขามีปัญหาและดูเหมือนจะฟอร์มของเขาจะมีสนิมขึ้นที่หน้าปากประตู แล้วจากนั้น เจ้าหนูคนนี้ทำอะไรในเกมนัดเปิดตัวในพรีเมียร์ลีกกับเวสต์แฮมล่ะ? เขาโชว์ฟอร์มอุดปากพวกนักวิจารณ์ยังไงล่ะ ฮาลันด์เบิกสกอร์แรกให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้จากลูกจุดโทษและจากนั้นก็ปิดเกมด้วยการจบสกอร์สุดนิ่งจากการแอสซิสต์ที่ยอดเยี่ยมของเควิน เดอ…

Read More

พรีเมียร์ลีกกลับมาเปิดฤดูกาลใหม่อีกครั้งและก็เช่นเดียวกับเหล่าพวกคุณผู้อ่านทั้งหลายนั้นแหละครับ พวกเราต่างก็กระตือรือร้นที่จะบันเทิงและตื่นเต้นไปกับลีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเหมือน ๆ กัน แน่นอนว่าพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022/23 จะต้องเป็นอะไรที่เจ๋งแน่ ๆ เลยล่ะ เนื่องจากสโมสรในพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่กำลังสร้างเสริมทัพแบบบ้าคลั่งและยังพยายามอย่างเต็มที่ในการเก็บตัวนักเตะที่พวกเขามีเอาไว้ให้ได้ อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้และเชลซีเป็นสโมสรที่ใช้เงินกันอย่างสนุกสนาน ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงมองหานักเตะรายใหม่เข้ามาอยู่ แต่พวกเขาก็ได้เซ็นสัญญานักเตะบางคนที่โดดเด่นมาบ้างแล้ว ลิเวอร์พูลอาจจะปล่อยนักเตะตัวหลักบางคนออกไป แต่พวกเขาก็ทำได้ดีในการซื้อนักเตะระดับคุณภาพเพื่อทดแทนส่วนที่ขายออกไป น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ได้ควานหาเหล่านักเตะไปทั่วโลกโดยได้นักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไตโว อโวนิยี่และเจสซี่ ลินการ์ดที่ย้ายเข้ามาร่วมทีม อีกทีมที่มีความกระตือรือร้นมากในตลาดซื้อขายนี้คือท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส อันโตนิโอ คอนเต้ได้เข้ามาถ่ายเลือดใหม่ให้กับสโมสรแล้วและเขาก็ได้ดึงนักเตะคนสำคัญมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้หลายคนเลยทีเดียว ริชาร์ลิซอน, อีแวน เปริซิชและดีเจด สเปนซ์เป็นเพียงแค่นักเตะบางส่วนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ เราจะพามาการซื้อตัวและพูดคุยเรื่องสิ่งที่โดดเด่นที่สุดเกี่ยวกับดีลนั้น ๆ นี่คือหลังจากที่เราตรวจสอบในแต่ละดีลของแต่ละสโมสรอย่างรอบคอบมาแล้ว นี่คือ 10 ดีลการซื้อตัวที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกจนถึงปัจจุบัน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปเชลซี) ปีกซ้ายทีมชาติอังกฤษอาจเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในตำแหน่งของเขาและเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ ที่เป็ป กวาร์ดิโอล่ายอมปล่อยนักเตะที่มีความสามารถระดับนี้ออกจากทีม อดีตนักเตะลิเวอร์พูลรายนี้ดูเหมือนจะสูญเสียความไว้วางใจจากผู้จัดการทีมตั้งแต่ตอนเปิดฤดูกาลที่แล้วและจะพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตำแหน่งตัวจริงของเขาในนามทีมชาติด้วยการย้ายไปสิงห์ลอนดอนด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ เขาน่าจะเป็นนักเตะที่ดีกว่าใครก็ตามที่เขาต้องแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมด้วยอย่างแน่นอน เรากล้าพูดได้ว่าเชลซีได้คว้าตัวนักเตะที่สำคัญต่อทีมมากที่สุดคนหนึ่งก่อนที่จะเปิดฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (บาร์เซโลน่าไปแอสตัน วิลล่า) ถึงแม้ว่าในตอนแรก ปีกพ่อมดทีมชาติบราซิลจะถูกยืมตัวมาที่สโมสร แต่ตอนนี้เขาได้รับการยืนยันแล้วว่าแอสตัน วิลล่าได้เซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาแบบถาวร ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นกับบาร์เซโลน่า ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นเป็น 17 ล้านปอนด์ ถือเป็นการซื้อตัวที่ชาญฉลาดเลยทีเดียวกับตัวนักเตะเกรดระดับนี้ คูตินโญ่ถูกมองว่าเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบที่จะเข้ามาแทนที่ของแจ็ค กรีลิชและจากผลงานที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก เขาสามารถยกระดับแอสตัน วิลล่าได้แบบสบาย ๆ อีฟส์ บิสซูม่า (ไบรท์ตันไปท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส) ในที่สุด ดาวเตะทีมชาติมาลีก็ได้ย้ายตามความฝันของเขามาอยู่กับสโมสรที่ได้ลงเล่นในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 30 ล้านปอนด์จากไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ความเก่งกาจของเขาในเรื่องของลูกกลางอากาศ, เทคนิคและความแข็งแกร่งของร่างกาย ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับอันโตนิโอ คอนเต้ ถึงแม้ว่าสเปอร์สจะมีทางเลือกอื่นในแดนกลาง แต่การมีตัวสำรองที่สามารถทดแทนตัวจริงได้ก็ย่อมดีกว่า และพวกเขาก็ได้ตัวบิสซูม่ามาในราคาสุดถูกด้วย คาลิดู คูลิบาลี่ (นาโปลีไปเชลซี) เดอ ลอเรนติส หัวหน้าฝ่ายผู้บริหารของนาโปลีได้ยื่นข้อเสนอใหม่ให้กับกองหลังทีมชาติเซเนกัลก่อนที่เขาจะตัดสินใจขอย้ายทีม แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอเพื่อย้ายไปสานฝันของเขาในการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก…

Read More

พรีเมียร์ลีกเป็นที่โด่งดังจากการที่มีเหล่าทีมยักษ์ใหญ่มากมายและความบันเทิงระดับพรีเมียมที่คงเส้นคงวา นับตั้งแต่ที่ทางลีกได้ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1992 ลีกได้สร้างภาพลักษณ์ของลีกที่เต็มไปด้วยความดราม่า, ความบันเทิงสุดเร้าใจและประตูมากมายก่ายกอง ถึงแม้ว่าลีกนี้จะเป็นลีกที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดในโลก แต่ก็สามารถชดเชยด้วยประเด็นสำคัญ ๆ ที่คอยจะสร้างอารมณ์ร่วมก่อนเกมและจังหวะของเกมอยู่เสมอ ซึ่งนำไปสู่การแข่งขันในลีก ช่วงเวลาของความยอดเยี่ยม, การปะทะกันด้วยความรุนแรง, ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บและการแย่งแชมป์กันกันนั้นเป็นแหล่งที่มาหลักของดราม่ามากมายในลีก คาแรคเตอร์ของนักเตะอย่างรอย คีน, โจอี้ บาร์ตันและโชเซ่ มูรินโญ่ต่างมีชื่อในด้านการสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำในแง่ลบก็ตาม ใครจะลืมการปะทะกันระหว่างรอย คีนกับปาทริค วิเอร่าหรือการปะทะกันระหว่างโชเซ่ มูรินโญ่กับอาร์แซน เวนเกอร์ได้กันล่ะ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงช่วงเวลาที่น่าจดจำเพียงบางส่วนของพรีเมียร์ลีกเท่านั้น บทความนี้จะเลือก 10 ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกมาให้ทุก ๆ ท่านได้รับชมกันเดี๋ยวนี้เลย การลื่นของสตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์ระดับตำนานของลิเวอร์พูลนั้นเป็นที่รักของยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ไซด์มาเสมอ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปแล้วเขาก็น่าจะยังคงเศร้าที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกกับหงส์แดงได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอดีตห้องเครื่องไดนาโมนั้นจะยังคงผิดหวังที่ไม่สามารถพาทีมความแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ตลอดระยะเวลาของเขาที่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์มาอย่างยาวนาน เหตุการณ์ที่ติดตาที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะมองย้อนกลับไปถึงความผิดพลาดในเกมที่พบกับเชลซีที่หยิบยื่นแชมป์ลีกให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปแบบต่อหน้าต่อตา สิ่งที่ทำให้การลื่นครั้งนี้มีชื่อเสียงมากขึ้นก็คือการที่มิดฟิลด์ชาวอังกฤษได้กระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมของเขาไม่ให้ปล่อยให้แชมป์ลีกหลุดมือไปจากมือของพวกเขา มันก็แอบเป็นตลกร้ายเหมือนกัน ที่กลับเป็นเขาเสียเองที่ทำให้แชมป์นั้น “หลุดมือ” ไป เจอร์ราร์ดถูกไล่ออกหลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามได้เพียง 38 วินาทีในเกมแดงเดือดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเหตุการณ์ของมิดฟิลด์ระดับตำนานอีกครั้งและมันก็ไม่ใช่เรื่องในแง่บวกอีกแล้ว การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูลนั้นถือเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดของฤดูกาลสำหรับแฟน ๆ ส่วนใหญ่และกับนักเตะทั้งสองฝ่ายด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเจอร์ราร์ดจะไม่สนใจการแข่งขันนัดนี้เลยเนื่องจากเขาโดนควักใบแดงไล่ออกจากสนามหลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไปไม่ถึง 40 วินาที เรายังไม่แน่ใจว่ากองกลางชาวอังกฤษกินอะไรไปก่อนเกม แต่ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะทำให้ตัวเองถูกไล่ออกโดยเสียบหนักใส่นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คันโตน่ากระโดดถีบแฟนบอลด้วยท่ากังฟูคิก ตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นเป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง เขาดึงปกคอขึ้นสูงและทำให้แน่ใจว่าเขาโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดเท่าที่อีโก้ที่สูงลิ่วของเขา แต่ปัญหาคือเขามีจุดเดือดที่ต่ำเอามาก ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ในเกมนัดที่ปิศาจแดงออกไปเยือนคริสตัล พาเลซในปี 1995                            อดีตซูเปอร์สตาร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดวิ่งไปที่ข้างสนามและกระโดดถีบยอดอกแฟนบอลแบบเต็มแรง จนถึงวันนี้ ภาพนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในภาพที่บ้าคลั่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก การให้สัมภาษณ์แถลงข่าว ‘เดอะ สเปเชี่ยล วัน’ ของโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมจอมโวชาวโปรตุเกสเพิ่งได้รับการประกาศให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซีและต้องเผชิญหน้ากับสื่อมวลชนด้วยความจำเป็น กุนซือชาวโปรตุกีสเข้ามาในห้องแถลงข่าวและพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่ไม่สะทกสะท้านกับงานที่ต้องเอาแชมป์กลับมาสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ให้เชลซี นอกจากนี้ เขายังประกาศว่าเขาเป็น ‘เดอะ สเปเชี่ยล วัน’ หลังจากที่ย้ำเตือนให้พวกเขานึกถึงแชมป์ยุโรปของเขากับปอร์โต้ ความสับสนระหว่างลูกบอลกับลูกบอลชายหาดของเปเป้ เรย์น่า อดีตผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลมีช่วงเวลาที่ตลกขบขันในพรีเมียร์ลีกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามไม่มีโมเมนต์ไหนที่จะใกล้เคียงกับเหตุการณ์ลูกบอลชายหาดในตำนานอีกแล้ว โดยเป็น ดาร์เรน…

Read More

พรีเมียร์ลีกเป็นลีกในฝันของนักเตะหลายคน ความแข็งแรงในด้านการเงินและข้อเสนอจากสปอนเซอร์จำนวนมหาศาลที่สโมสรได้รับช่วยให้พวกเขาสามารถใช้เงินเหล่านั้นในตลาดการซื้อขายได้อย่างสบาย ๆแต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการใช้เงินซื้อตัวอย่างบ้าคลั่งในทุกวันนี้ นักเตะบางคนก็ยังถือว่าคุ้มราคาและตอบแทนสโมสรได้มากกว่าที่พวกเขาถูกประเมินค่าเอาไว้ ยิ่งการประเมินมูลค่าของนักเตะสูงแค่ไหน ความคาดหวังที่มีต่อตัวนักเตะเองก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น นักเตะที่ถูกเซ็นสัญญาคว้าตัวเข้ามาด้วยเงินก้อนโตนั้นหมายถึงเขาจะเป็นนักเตะตัวหลักและถูกคาดหวังว่าจะเป็นดาวดังของทีม แต่อย่างไรก็ตาม การเซ็นสัญญากับนักเตะด้วยเงินก้อนโตนั้นก็ไม่ได้ผลเสมอไป ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะแรงกดดันจากความคาดหวังที่มีต่อตัวนักเตะคนนั้น ๆ ด้วย สุขใดไหนจะเทียบการที่สโมสรได้เห็นนักเตะที่ซื้อมาแบบไม่มีความคาดหวังสูง กลับกลายเป็นนักเตะตัวสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของสโมสร นักเตะอย่างเจมี่ วาร์ดี้และแม็กซ์ คิลแมนเป็นตัวอย่างสำคัญของนักเตะที่สามารถไต่เต้าจากระดับนอกลีกไปจนถึงระดับของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ เรายังมีเอริค คันโตน่าที่เป็นดั่งเทพเจ้าในสนาม และยังมีตัวอย่างนักเตะอีกหลายคนที่ทำกำไรให้กับสโมสรของพวกเขา แต่วันนี้เราจะจำกัดตัวนักเตะให้เหลือเพียง 10 คนเท่านั้น ถึงแม้ว่าความหมายของคำว่าความคุ้มค่านั้นยังคลุมเครือ และแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี และเป็นหน้าที่ของสโมสรและตัวนักเตะที่ยังเป็นคำถามอยู่ แต่มันก็พอมีจุดตัดสินอยู่ นั่นก็คือฟอร์มของตัวนักเตะเทียบกับความคาดหวังและราคาที่ซื้อมา ดังนั้น ลิสต์นี้จะเป็นการรวบรวมนักเตะที่เซ็นสัญญามาด้วยราคาที่ค่อนข้างต่ำ แต่กลับโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ เปาโล ดิ คานิโอ้ (เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ & เวสต์แฮม) แน่นอนว่าดาวยิงตำนานทีมชาติอิตาลีนั้นไม่จำเป็นต้องมีการบรรยายสรรพคุณอะไรมากมายนัก สโมสรแรกของเขาในอังกฤษคือเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ที่ที่เขาต้องถูกแบนไปถึงสองปีจากเหตุการณ์ปะทะกับผู้ตัดสินอย่างพอล อัลค็อก เขาถูกขายให้กับเวสต์แฮมด้วยค่าตัวราว ๆ 1.6 ล้านปอนด์ในปี 1999 นักเตะชาวอิตาลีรายนี้ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและเอาชนะใจสโมสรใหม่และแฟนบอลแห่งใหม่ของเขาด้วยการทำประตูและแอสซิสต์แบบสุดน่าตื่นเต้น ดิ คานิโอ้ทำประตูได้ 51 ประตูจาก 141 เกมจากทุกรายการที่ลงสนามให้กับเวสต์แฮม ลูกวอลเลย์สุดมหัศจรรย์ของเขากับวิมเบิลดันนั้นจะถูกจดจำตลอดไป วิธีที่เขายิงลูกนั้นได้จะยังคงเป็นปริศนาสำหรับเราตลอดไป โดยรวมแล้ว ก็ต้องถือว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยสวมเสื้อเวสต์แฮม แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (ฮัลล์ ซิตี้ & ลิเวอร์พูล) แบ็คซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์เป็นที่รู้จักในเรื่องของพลังงาน, ความเหนียวแน่นและความสามารถของเขาในการผ่านบอลเข้ากรอบเขตโทษ ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญาเขามาด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์จากฮัลล์ ซิตี้ในปี 2017 และบรรดานักวิจารณ์และแฟน ๆ หลายคนคาดหวังในตัวเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม แบ็คชาวสก็อตเติบโตขึ้นลัพัฒนาฝีเท้าได้เรื่อย ๆ จนกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของลิเวอร์พูล เขาคว้าแชมป์ในประเทศมาบ้างแล้วพร้อมกับแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกและพรีเมียร์ลีกอีกอย่างละ 1 สมัย โรเบิร์ตสันและเทรนต์ อาร์โนลด์ประสานงานกันและช่วยให้เกมรุกของลิเวอร์พูลเฉียบคมมากยิ่งขึ้น มันยากที่จะเชื่อว่าทางสโมสรนั้นใช้เงินเพียง 8 ล้านปอนด์ในการมีแบ็คซ้ายและขวาที่โดดเด่นเช่นนี้ ลูคัส ราเดเบ้ (ลีดส์ ยูไนเต็ด) ในตอนที่ลูคัส ราเดเบ้ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษ เขาแทบจะไม่ได้ทำให้เหล่าแฟนบอลตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย โดยเขาถูกเซ็นสัญญาคว้าตัวมาจากยักษ์ใหญ่จากแอฟริกาใต้อย่างไคเซอร์ ชีฟส์ในปี 1994…

Read More

ตอนนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในยุโรป เรื่องนี้ต้องให้เครดิตกับเป็ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือผู้ซึ่งเปลี่ยนโฉมสโมสรที่ไม่เคยได้ลืมตาอ้าปากแห่งนี้ให้กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกที่ดุดันที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม การปฏิวัติของสโมสรแห่งนี้นั้นเกิดขึ้นก่อนที่กุนซือชาวสเปนจะเข้ามาคุมทีมซะอีก ก่อนที่อัจฉริยะชาวสเปนจะเข้ามา เหล่าเรือใบสีฟ้าก็ได้เริ่มคว้าแชมป์บ้างแล้ว ตามจริงแล้ว พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปก่อนแล้ว 2 สมัย กุนซืออย่างโรเบอร์โต้ มันชินี่และมานูเอล เปเยกรินี่ควรได้เครดิตกับการเริ่มกับสิ่งที่เรารู้ดีในทุกวันนี้ในฐานะกองกำลังที่หยุดไม่อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งสองกุนซือสามารถก้าวไปถึงความสำเร็จของพวกเขาได้นั้นมาจากคุณภาพของกองหน้าตัวหลักที่พวกเขาสรรหามาได้ในขณะนั้น นักเตะอย่างมาริโอ บาโลเตลลี่, เอดิน เชโก้, เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์, คาร์ลอส เตเบซและดาวยิงระดับตำนานอย่างเซอร์คิโอ้ กุน อเกวโร่ต่างก็มีส่วนในการถล่มประตูให้กับเรือใบสีฟ้า กองหน้าคู่หูชาวอาร์เจนไตน์อย่างเซอร์คิโอ้ อเกวโร่และคาร์ลอซ เตเบซนั้นต่างเป็นดาวยิงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเนื่องจากพวกเขาเล่นด้วยความเพรียบพร้อมทั้งทางด้านสภาพร่างกายและลูกล่อลูกชนของนักเตะจากอเมริกาใต้ที่ด้านทางเรือใบสีฟ้าไม่เคยมีมาก่อน คาร์ลอซ เตเบซได้ย้ายสลับขั้วจากคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในดีลที่ปกคลุมไปด้วยความขัดแย้งครั้งใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดีลเสร็จสิ้นลงและดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ก็ให้คำมั่นสัญญากับแฟนบอลเรือใบสีฟ้าว่าจะช่วยสโมสรใหม่ของเขาคว้าแชมป์ให้ได้ตามที่พวกเขาต้องการ เขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมร่วมกับดาวยิงทีมชาติเวลส์อย่างเคร็ก เบลลามี่ การประสานงานของพวกเขาสร้างความดีอกดีใจให้กับแฟนบอลและสร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งทุกทีมในลีก เซอร์คิโอ้ อเกวโร่ถูกคว้าตัวมาจากแอตเลติโก้ มาดริดด้วยความหวังว่าเขาจะสานต่อจากงานของเพื่อนร่วมชาติของเขาที่ย้ายออกไป ดาวยิงร่างเล็กคนนี้ยังเป็นกองหน้าในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิมเพราะเขามีฟอร์มที่ดีกว่าดาวยิงเพื่อนชาวอาร์เจนไตน์ของเขาซะอีก แถมยังมีเทคนิคมากกว่าและสถิติของเขาในพรีเมียร์ลีกก็ยังไม่มีใครเทียบได้จนถึงปัจจุบันอีกด้วย น่าเสียดายสำหรับอเกวโร่ที่อาชีพการค้าแข้งในตำนานของเขาต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากปัญหาของจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่บาร์เซโลน่า ในทางกลับกัน เตเบซก็ได้เข้าสู่การฝึกสอนการเป็นโค้ชหลังจากที่แขวนสตั๊ดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การเซ็นสัญญาคว้าตัวดาวยิงเลือดนอร์วีเจี้ยนอย่างเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ได้ทำให้มีการเอาการเอาเขาเปรียบเทียบกับคู่หูดาวจากอเมริกาใต้อย่างชัดเจน ทั้งแฟนบอล, ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจารณ์ต่างแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับค่าตัวของศูนย์หน้าทีมชาตินอร์เวย์เมื่อเปรียบเทียบกับดาวยิงรุ่นก่อนของเขา บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่การพิจารณาให้ละเอียดยิ่งขึ้นและเสนอการวิเคราะห์ในหัวข้อที่จำเป็น ประสิทธิภาพหน้าปากประตู เพื่อความชัดเจน ดาวยิงทั้ง 3 คนนั้นมีประสิทธิภาพในแบบของตัวพวกเขาเอง ทั้งสามเล่นเป็นกองหน้าและสามารถยิงประตูได้ในยามที่ทีมต้องการ ถึงแม้ว่าคู่ของอเกวโร่และเตเบซจะมีความสามารถในการถอยลงมาล้วงบอลและได้รับคำชมว่าเป็นกองหน้าที่หลายคนรู้จักมากกว่าก็ตาม นี่คือสิ่งที่เออร์ลิ่ง ฮาลันด์แทบจะไม่เคยทำเลย แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ประเด็นในที่นี้ คาร์ลอส เตเบซมีประสิทธิภาพน้อยที่สุดเมื่อเราเปรียบเทียบเขากับอีก 2 ดาวยิง ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์ยิงไป 84 ประตูในพรีเมียร์ลีกตลอดช่วงเวลาของเขาในสีเสื้อของเวสต์แฮม ยูไนเต็ดและกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและซิตี้จากทั้งหมด 202 เกม นั่นคืออัตราส่วนประตูที่ 0.41 ต่อ 90 ซึ่งด้อยกว่าเพื่อนร่วมชาติของเขาที่ยิงได้ 187 ประตูจาก 275 เกมในพรีเมียร์ลีกด้วยอัตราส่วน 0.67 ต่อ 90 ในส่วนของเออร์ลิ่ง ฮาลันด์นั้นยังไม่เคยฟาดแข้งในพรีเมียร์ลีก เพราะงั้นเขาจึงไม่สามารถเทียบกับสถิติของดาวยิงทั้งสองนั้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม สถิติที่น่าสะพรึงของดาวยิงวัย 22 ปีในแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นก็คู่ควรกับความกังวลของเหล่าแนวรับคู่แข่งอย่างแน่นอน กองหน้ารายนี้ยิงไปแล้ว 23 ประตูในการแข่งขันระดับท็อปในเวทียุโรปด้วยจำนวนเกมที่ลงเล่นไปเพียง…

Read More

ยังคงอยู่ในช่วงของการนับถอยหลังสู่การเปิดฤดูกาลใหม่ของลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษ ในบทความนี้ เราจะหันเหความสนใจไปที่ท้ายตารางของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก การแข่งขันเพื่อหลีกเลี่ยงการตกชั้นนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดเมื่อเทียบกับการแข่งขันทั้งหมดในลีก ฤดูกาลที่แล้ว เราเห็นทีมอย่างเบิร์นลี่ย์, วัตฟอร์ดและนอริช ซิตี้ต่างกลับลงไปเล่นในแชมป์เปี้ยนชิพ การแข่งขันนั้นห่างไกลจากคำว่าขาดมาก เนื่องจากลีดส์ ยูไนเต็ด, เซาแธมป์ตันและเอฟเวอร์ตันนั้นเวียนกันมาจมอยู่ในโซนตกชั้นตลอดฤดูกาล บางทีการพูดถึงเอฟเวอร์ตันนั้นก็มีความสำคัญมากที่สุดเนื่องจากพวกเขาเป็นทีมใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ ที่หนีตกชั้นทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็กลับมาท็อปฟอร์มในเวลาที่เหมาะสมและอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ฤดูกาล 2022/23 ดูเหมือนจะน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีกจากสิ่งที่เราเห็นในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาและเราน่าจะมีเซอร์ไพรส์มากกว่านี้ในการแย่งพื้นที่ในโซนตกชั้น ในขณะที่ทีมอย่างบอร์นมัธและน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์นั้นเป็นทีมที่มีโอกาสที่จะตกชั้นมากที่สุด แต่ลีดส์และเซาแธมป์ตันก็อาจจะอยู่ในลีกสูงสุดนานเกินไปแล้วก็เป็นได้ ตัวอย่างเช่นลีดส์เป็นทีมที่เคลื่อนที่ในพื้นที่เกมรุกได้ดีมาเสมอ แต่กองหลังของพวกเขานั้นค่อนข้างรั่ว ด้วยการย้ายออกของนักเตะตัวหลักอย่างคัลวิน ฟิลลิปส์และราฟินญ่าที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้และบาร์เซโลน่าตามลำดับ มันค่อนข้างยากที่จะจินตนาการว่าพวกเขาะอยู่รอดปลอดภัยจากการตกชั้น ในขณะเดียวกัน เซาแธมป์ตันก็ร่อแร่มา 2-3 ฤดูกาลแล้ว และการที่พวกเขาไม่มีความเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายก็เกือบจะทำให้พวกเขาต้องตกชั้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะเห็นว่าเจมส์ วอร์ด เพราส์และทีมของเขาเป็นยังไงในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง ฟูแล่มเป็นอีกหนึ่งทีมที่มีสิทธิ์ที่จะตกชั้น ทีมจากลอนดอนตะวันตกเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้มาซักระยะหนึ่งแล้ว เข้า ๆ ออก ๆ ลีกอยู่เป็นประจำ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยผลงานที่น่าประทับใจในฤดูกาลที่แล้ว บางทีพวกเขาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็เป็นได้และนี่คือ 7 สโมสรที่น่าจับตามองในศึกการแย่งพื้นที่ในโซนตกชั้นในฤดูกาลหน้านี้ เอเอฟซี บอร์นมัธ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นทีมที่น่าจับตามอง แต่ก็ไม่ควรจะแปลกใจที่บอร์นมัธติดอยู่ในลิสต์นี้ ทัพเดอะ เชอร์รี่ส์จบอันดับสองในแชมเปี้ยนชิพในฤดูกาลที่แล้วโดยตามหลังฟูแล่มและเคยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมา 2-3 ฤดูกาลแล้ว พรีเมียร์ลีกดูแตกต่างออกไปมากตั้งแต่ที่พวกเขาตกชั้นและมันก็น่าสนใจว่าพวกเขาจะพาตัวเองกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อย่างไร สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์เคยคุมทีมในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว (กับฟูแล่ม) นั้นไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับความโหดร้ายของพรีเมียร์ลีก คราวนี้เขากลับมาพร้อมกับทีมบอร์นมัธพร้อมกับความพยายามในการแก้หน้าจากความผิดพลาดจากครั้งล่าสุดของเขากับฟูแล่ม เดอะ เชอร์รี่ส์ถูกหมายหัวว่าเป็นทีมที่จะตกชั้นลงไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพมากที่สุดจากบริษัทรับพนันถูกกฏหมายหลายสำนัก พวกเขาจะต้องดิ้นรนอย่างดุเดือดเลยล่ะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาได้ลงเล่นในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งลีกในปี 1992 พวกเขาสามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาในพรีเมียร์ลีกได้โดยผ่านการลงเล่นในรอบเพลย์ออฟหลังจากเอาชนะฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์มาได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้เซ็นสัญญานักเตะที่ยอดเยี่ยมมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะนักเตะอย่างไตโว่ อโวนิยี่และเจสซี่ ลินการ์ด แต่ถึงกระนั้น มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีศักยภาพพอที่จะอยู่ในลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้าได้อยู่ดี ฟูแล่ม สโมสรจากลอนดอนตะวันตกกลับมาอยู่ในลีกสูงสุดเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้จนนับไม่ถ้วนแล้ว และพวกเขาดูแข็งแกร่งขึ้นและอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าที่จะอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่จะถึงนี้ ทีมเจ้าสัวได้เซ็นสัญญาซื้อตัวนักเตะเข้ามามากมาย โดยเฉพาะอันเดรียส เปเรย์ร่า อดีตมิดฟิลด์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กองกลางชาวบราซิลโชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงที่เขาถูกยืมตัวไปเล่นในลีกบ้านเกิดและทำให้สโมสรคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ เขาย้ายเข้ามาผนึกกำลังร่วมกับอเล็กซานดาร์ มิโตรวิชในการช่วยให้ฟูแล่มอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกอีก 1 ฤดูกาล …

Read More

ในขณะที่เรายังคงนับถอยหลังสู่การเปิดฤดูกาลของ ‘ลีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด’ ของโลกอีกครั้ง มันจำเป็นที่จะต้องให้ความกระจ่างมากขึ้นในประเด็นสำคัญที่เหล่าผู้อ่านของเราอาจต้องการ หนึ่งในนั้นคือแฟนตาซีพรีเมียร์ลีก (FPL) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่สาวกของพรีเมียร์ลีกจะได้ทดสอบความรู้เกี่ยวกับลีก ผู้จัดการทีมแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกจะเริ่มรวบรวมนักเตะ 15 คนของพวกเขาสำหรับฤดูกาลที่จะมาถึง มันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องการที่จะมีทีมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแข่งขันในวันเปิดฤดูกาลและอาจจะพังได้หากไม่มีคำแนะนำที่เหมาะสม พรีเมียร์ลีกมีผู้เล่นร่วมสี่ร้อยคน ดังนั้นการตัดสินใจเลือก 15 คนสุดท้ายนั้นจะต้องใช้ความเอาใจใส่และรอบคอบพอสมควรเลยล่ะ แฟนตาซีพรีเมียร์ลีกนั้นให้ความสำคัญกับการหาสมดุลระหว่างเหล่านักเตะชั้นยอดและดาวรุ่งในวงการมาโดยตลอด ช่วงเวลาระหว่างการเปิดให้เล่นแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกอีกครั้งและเกมแรกของฤดูกาลนั้นน่าตื่นเต้นอยู่เสมอ เนื่องจากมันจะทำให้ผู้จัดการทีมมีเวลาเพียงพอในการเลือกและจัดทีมของพวกเขา หรือแม้แต่สร้างรูปแบบแผนการเล่น และหลังจากเปลี่ยนแปลงทุก ๆ อย่างแล้ว คุณต้องจัดตัวนักเตะ 15 คนสุดท้ายของคุณ เพื่อที่จะแข่งกับผู้จัดการคนอื่นต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่านักเตะคนไหนที่จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงและลงแข่งตั้งแต่เกมนัดเปิดฤดูกาล ถึงแม้ว่าฟอร์มในปรีซีซั่นอาจจะช่วยได้ในบางครั้ง แต่มันก็ไม่เพียงพอในลีกอย่างพรีเมียร์ลีก แชมป์และรองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลมีเกมในช่วงต้นฤดูกาลที่น่าจะสามารถเอาชนะได้ไม่ยาก แชมป์เก่าจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของบอร์นมัธและน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาได้ในเกม 5 เกมแรกของพวกเขาในขณะที่ยอดทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ก็จะเริ่มฤดูกาลในการแย่งแชมป์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้อีกครั้งด้วยการเจอกับฟูแล่ม ส่วนทัพปืนใหญ่ที่แอคทีฟเป็นอย่างมากในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้จะเปิดม่านฤดูกาลใหม่ด้วยการออกไปเยือนที่เซลเฮิร์สท์ ปาร์คเพื่อโม่แข้งกับคริสตัล พาเลซ จากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ต่อไปนี้คือ 10 นักเตะตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำให้ทีมแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกของคุณแน่นและแข็งแกร่งมากขึ้น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ – £13.0m ปีกซูเปอรสตาร์ของหงส์แดงนั้นถือเป็นตัวเลือกที่น่าไว้วางใจที่สุดสำหรับผู้จัดการทีมแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่มาตลอด 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา เอาล่ะ ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วล่ะ ราคาของดาวยิงทีมชาติอียิปต์นั้นไม่ได้ถูกเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักเตะที่แพงที่สุดในตลาดแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกก็ตาม มันก็มักจะคุ้มที่จะเสี่ยงไปกับดาวยิงวัย 29 ปีคนนี้อยู่ดีนั่นแหละ ดาวยิงฉายาฟาโรห์นั้นเป็นนักเตะที่มีคะแนนสูงสุดในแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยคะแนนมากถึง 265 คะแนน ซาล่าห์จะกลับมายิงเปรี้ยงปร้างอีกครั้งหลังจากที่ต่อสัญญาใหม่เพื่อรับเงินก้อนโตกับลิเวอร์พูลไปเมื่อช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา! ซอน ฮึง มิน – £12.0m พ่อมดชาวเกาหลีใต้คนนี้ถือเป็นนักเตะอีกคนที่ไว้ใจได้ในแฟนตาซีพรีเมียร์ลีก ค่าตัวของปีกจอมพังประตูคนนี้เพิ่มขึ้นจากฤดูกาลก่อนและมันก็เป็นอะไรที่เหมาะสมแล้วจริง ๆ การันตีด้วยรางวัลดาวซัลโวร่วมที่ 23 ประตูพร้อมกับ 18 แอสซิสต์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ดาวยิงวัย 29 ปีคนนี้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยม แลกกับราคา £12m ที่ต้องใช้เพื่อที่จะเพิ่มเขาลงไปในทีมของคุณ หนึ่งในข้อได้เปรียบในการซื้อตัวดาวยิงของสเปอร์สก็คือว่าเขาจะมีโอกาสได้ลงเล่นมากกว่านักเตะของลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้เนื่องจากการที่คล็อปป์และกวาร์ดิโอล่านั้นมักจะโรเตชั่นนักเตะอยู่เสมอและด้วยการระเบิดฟอร์มเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มั่นใจได้เลยว่าซอนนั้นจะอยู่ในทีมแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกของใครหลาย ๆ คนเลยล่ะ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ – £11.5m เรือใบสีฟ้านั้นทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำถึงแม้ว่าจะไม่มีศูนย์หน้าธรรมชาติก็ตาม อย่างไรก็ดี ในช่วงซัมเมอร์นี้ พวกเขาตัดสินใจที่จะใช้บริการของดาวยิงชาวนอร์เวย์อย่างเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ถึงแม้ว่าเราจะไม่แนะนำให้คุณซื้อนักเตะที่พึ่งย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกใหม่ ๆ…

Read More