เกิดการพลิกล็อคครั้งใหญ่ขึ้นและนั่นเป็นเกมที่ซาอุดิอาระเบียพลิกล็อคแซงเอาชนะอาร์เจนติน่าที่กำลังมั่นใจสุดขีดไปได้ในเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลก

หลังจากครึ่งแรกที่อาร์เจนติน่าส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ถึง 4 ครั้ง แต่ 3 จาก 4 ครั้งนั้นถูกริบประตูคืนเนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า เป็นผลจากการดันไลน์ขึ้นสูงเป็นกับดักล้ำหน้าที่ยอดเยี่ยมของซาอุดิอาราเบีย อย่างไรก็ดี อาร์เจนติน่าก็ยังมั่นใจว่าพวกเขาจะเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากพวกเขาเริ่มต้นครึ่งหลังด้วยความมั่นใจแบบเดียวกับในครึ่งแรก

แต่อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน

ผู้จัดการทีมอย่างแอร์เว เรอนาร์ ผู้จัดการทีมคนแรกคว้าแชมป์แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ได้กับ 2 ประเทศนั้นโชว์ฟอร์มมหัศจรรย์พาซาอุดิอาระเบียเอาชนะอาร์เจนติน่าไปได้ พวกเขาโชว์ความเฉียบคมด้วยการพังประตูสุดสวย 2 ประตูผ่านมือเอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ มือกาวของอาร์เจนติน่าไปได้

ถือเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและเหมาะสมกับ 3 คะแนนทุกประการ

เกมนัดเปิดสนามของกลุ่มซีนั้นเป็นเกมที่สุดยอด โดยเป็นเกมแรกที่เกิดการพลิกล็อคขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้และถือเป็นหนึ่งในเกมที่พลิกล็อคที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกเลยล่ะ ซึ่งผลที่พลิกล็อคในนัดนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในเกมที่เหลือของทัวร์นาเมนต์นี้เลยล่ะ

แผนใหม่ของทีมรองบ่อน 

เรื่องนี้สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า และไม่ได้เวอร์เกินจริงเลย

อาร์เจนติน่าก้าวเท้าเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์นี้โดยที่ไม่แพ้ใครมา 36 เกมติดต่อกัน โดยชัยชนะเกมล่าสุดของพวกเขานั้นเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าชัยชนะเหนือทีมอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อนบ้านของซาอุดิอาระเบีย น่าจะทำให้ซาอุดิอาระเบียต้องหวั่นกลัวอยู่ภายในใจบ้างแหละ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงยึดมั่นในความเชื่อและแทคติกของพวกเขาตามที่แอร์เว เรอนาร์วางหมากเอาไว้ กุนซือที่มีชื่อในด้านความกล้าหาญในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ความกล้าที่จะยึดมั่นกับแผนการเล่นจนสามารถเก็บชัยชนะในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขานั้นไม่เพียงแค่จะทำให้ทีมที่เหลือในรอบแบ่งกลุ่มได้เห็นความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้ว มันยังจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมจากเอเชียให้พร้อมที่จะสู้มากขึ้นอีกด้วย

ความเปลี่ยนแปลงของทิศทางในกลุ่มซี

อาร์เจนติน่าลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ในฐานะเต็งแชมป์ร่วมกับบราซิลและแชมป์เก่าอย่างฝรั่งเศส นั่นหมายความว่าพวกเขานั้นถูกคาดหวังให้เก็บชัยชนะได้ทุกนัดในเกมรอบแบ่งกลุ่ม

ชัยชนะในเกมนี้ของซาอุดิอาราเบียนั้นได้เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างไป โดยโปแลนด์และเม็กซิโกก็พร้อมที่จะหวังลุ้นพลิกล็อคเช่นกัน และเขี่ยอาร์เจนติน่าให้ตกรอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ตอนนี้ ซาอุดิอาระเบียได้พาตัวเองมาเป็นทีมที่เตรียมกำหนดทิศทางของกลุ่มและทั้งเม็กซิโกและโปแลนด์ก็หวังที่จะคว่ำซาอุดิอาราเบียให้ได้

ซ้ำรอยฟุตบอลโลกปี 2010?

ถึงแม้ว่าเกมสุดพลิกล็อคนี้จะดูไม่เป็นใจให้กับอาร์เจนติน่า แฟนบอลของพวกเขา และเหล่าแฟนบอลของลิโอเนล เมสซี่เอาเสียเลย แต่มันก็ยังมีหวังอยู่เช่นเดียวกัน

เพราะสถานการณ์นี้คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 2010

ทีมแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 อย่างสเปนนั้นแพ้ในเกมนัดเปิดสนามให้กับสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นเจลสัน เฟอร์นันเดสพังประตูโทนในนาทีที่ 52 พวกเขากลับคืนฟอร์มและเก็บชัยชนะใน 2 นัดที่เหลือก่อนที่จะทะลุไปจนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในที่สุด

หากประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยแล้วล่ะก็ นั่นหมายความว่าเมสซี่และผองเพื่อนจะคว้าแชมป์โลกได้ต่อจากแชมป์โคปา อเมริกาแบบติด ๆ กันเลยทีเดียว ถ้าพวกเขาทำได้จริง เรื่องนี้จะทำให้ผู้จัดการทีมฟุตบอลโลกทุกคนต้องขนลุกเลยล่ะ

อ่าน:  Neymar ในพรีเมียร์ลีก: กรณีที่เป็นไปได้ของ Robinho?
Leave A Reply