สารบัญ

• บทนำ
•  ตำนานชีวิตลูกหนังของเปเล่
• ชีวิตในช่วงแรก/เส้นทางการค้าแข้งในสโมสร
• ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ระดับโลก
•  นักเตะที่สามารถทัดเทียมกับเปเล่ได้

โลกฟุตบอลต้องสั่นสะเทือนเมื่อมีข่าวว่าเปเล่ ตำนานลูกหนังทีมชาติบราซิลถูกหามส่งโรงพยาบาล จากนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่านักเตะระดับตำนานวัย 82 ปีถูกย้ายไปยังการดูแลในช่วงระยะสุดท้ายเนื่องจากการรักษามะเร็งของเขานั้นไม่ได้ผล แต่เปเล่เองก็ได้ให้ความมั่นใจกับแฟน ๆ ด้วยการออกมาบอกว่าเขานั้นไม่ได้เป็นอะไรมาก และ ไม่ต้องเป็นห่วงเขา

เขาออกมาแถลงการณ์ผ่านทางอินสตาแกรมด้วยการขอบคุณแฟนบอลทั่วโลกสำหรับความห่วงใยและให้คำมั่นสัญญากับทุก ๆ คนว่าเขากำลังเข้ารับการรักษาอย่างเคร่งครัด

“แด่สหายทั้งหลาย ผมอยากจะฝากบอกให้ทุก ๆ คนใจเย็น ๆ และมองโลกในแง่บวกเอาไว้ ผมยังแข็งแรงดี แถมยังมีความหวังและผมยังทำตามการรักษาอยู่เป็นประจำ ผมอยากจะขอขอบคุณทีมแพทย์และพยาบาลทุก ๆ คนที่ช่วยกันดูแลผมเป็นอย่างดี

“ผมมีความเชื่อมั่นใจพระเจ้าและทุก ๆ ข้อความที่มาพร้อมกับความรักที่ผมได้รับจากทั่วโลกนั้นทำให้ผมมีพลังงานอย่างเต็มเปี่ยมพร้อมกับดูบราซิลในฟุตบอลโลกครั้งนี้อีกด้วย!

“ขอบคุณสำหรับทุก ๆ สิ่ง”

ตำนานชีวิตลูกหนังของเปเล่

เอ็ดสัน อรานเตส โด นาสซิเมนโต้ หรือในชื่อที่รู้จักกันทั้งโลกอย่าง “เปเล่” ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาล โดยเฉพาะในยุคเก่า

สำหรับคนที่เคยดูเขาลงเล่นนั้นมักจะพูดถึงพรสวรรค์และความยอดเยี่ยมของเขาพร้อมกับถ้วยรางวัลและสถิติประตูมากมายก็บ่งบอกถึงความสุดยอดของเขาอยู่แล้ว

เส้นทางการค้าแข้งกับสโมสร

หลังจากที่สร้างชื่อในช่วงแรกของการค้าแข้งในการลงเล่นฟุตซอล (ฟุตบอลในร่ม) เปเล่ก็ได้ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรซานโตส เอฟซีในวัย 15 ปีและไม่เพียงแค่เขาจะผ่านการคัดตัวเท่านั้น มันเห็นได้ชัดว่าเขานั้นมีศักยภาพพอที่จะกลายมาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกด้วยซ้ำ

เปเล่เซ็นสัญญานักเตะอาชีพแรกในวัย 15 ปีและสร้างอิมแพคให้กับสโมสรแรกของเขาได้ทันที ในเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเกมแรกที่เจอกับโครินเธี่ยนส์ เดอ ซานโต้ เปเล่ยิงประตูแรกให้กับซานโตสพร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นถือเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น

ในวัย 16 ปี เปเล่ก็ได้กลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของซานโตส เอฟซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและกลายมาเป็นดาวซัลโวในฤดูกาลปี 1957 ด้วยสถิติการยิง 41 ประตูจากการลงเล่น 38 เกม

ถ้วยแชมป์รายการแรกกับซานโตสของเปเล่นั้นมาในปี 1958 ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์แคมเปโอนาโต้ เปาลิสต้า เขาจบทัวร์นาเมนต์นั้นด้วยตำแหน่งดาวซัลโวด้วยสถิติ 58 ประตูตลอด 38 เกมที่ลงสนามและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครสามารถทำลายสถิติของเขาได้อีกเลย

ในช่วงเวลาไม่ถึงปีหลังจากที่เขาลงเล่นในเกมระดับอาชีพ เปเล่ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งของเขา

เกมแรกของเขาที่ลงเล่นให้กับบราซิลนั้นเป็นเกมที่บราซิลเจอกับอาร์เจนติน่าซึ่งเขาทำประตูแรกในเกมเปิดตัวให้กับทีมชาติได้อีกด้วย จนถึงวันนี้ เขายังคงเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้กับทีมชาติบราซิลในวัยเพียง 16 

ทั้งโลกได้รู้จักกับเปเล่ในฟุตบอลโลก 1958 ซึ่งเขาได้ประกาศศักดามาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในวงการลูกหนัง

เขาไม่สามารถลงเล่นสองเกมแรกในฟุตบอลโลกได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เขาเจอก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม แต่เขาลงเล่นได้ในเกมนัดที่สามของทัวร์นาเมนต์ เขากลายมาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่เคยลงเล่นในฟุตบอลโลกในเวลานั้นในเกมที่เขาลงสนามเจอกับสหภาพโซเวียต

หนึ่งในไฮไลท์ของทัวร์นาเมนต์นี้เกิดขึ้นในเกมรอบรองชนะเลิศที่พวกเขาเจอกับฝรั่งเศส เขายิงแฮตทริคใส่ฝรั่งเศสและกลายมาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงแฮตทริคได้ในฟุตบอลโลก แต่เปเล่ยังไม่หยุดแค่นั้น

เขายังเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศอีกด้วย แต่พวกคุณคงจะไม่รู้อะไรหรอกเพราะว่าเขานั้นโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นอีกครั้งด้วยการเหมา 2 ประตูในเกมที่พวกเขาเอาชนะเจ้าภาพอย่างสวีเด่นไปได้ด้วยสกอร์ 5-2 เขาจบทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งแรกของเขาในวัยเพียง 17 ปีด้วยสถิติ 6 ประตูจาก 4 เกมที่ลงสนาม

โดยปกติแล้ว เหล่าสโมสรที่ดีที่สุดในยุโรปมักจะต้องการนักเตะมากพรสวรรค์มาอยู่ในทีมของพวกเขาและพวกเขาก็ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อคว้าลายเซ็นของเขามาร่วมทีมให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีประโยชน์

ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ระดับโลก

ในปี 1961 ประธานาธิบดีของบราซิลในเวลานั้นอย่างจานิโอ ควอดรอสได้ออกมาประกาศว่าเปเล่นั้นเป็น “สมบัติของประเทศชาติอย่างเป็นทางการ” เป็นการขัดขวางไม่ให้เขาออกไปลงเล่นให้กับสโมสรอื่นนอกประเทศนั่นเอง

ในฟุตบอลโลกปี 1962 เปเล่กลับมาเป็นดาวเด่นแห่งทีมชาติบราซิลอีกครั้ง ด้วยวัย 21 ปี ไม่มีใครกล้าปฏิเสธสถานะนักเตะที่ดีที่สุดในโลกและเขาก็โชว์ฟอร์มระดับคุณภาพออกมานับตั้งแต่เกมแรกที่พวกเขาเจอกับเม็กซิโก เปเล่แอสซิสต์ให้บราซิลพังประตูแรกของเกม จากนั้นเขาก็โชว์เลี้ยงผ่านนักเตะ 4 คนไปพังประตูที่ 2 ให้กับบราซิล

น่าเสียดายที่อาชีพการค้าแข้งของเปเล่นั้นจบเร็วเกินไปหน่อย เขาได้รับบาดเจ็บในเกมนัดที่สองที่บราซิลเจอกับเช็คโกสโลวาเกียและถูกถอดชื่อออกจากตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ที่เหลือ แต่ทีมชาติบราซิลนั้นก็ยังคงมีนักเตะระดับคุณภาพมากพอที่จะไปต่อโดยไม่มีเปเล่ และเป็นการ์รินช่าที่ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่น ช่วยให้ทีมชาติของเขาคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

ในฟุตบอลโลกปี 1970 เปเล่ไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เขาโชว์ฟอร์มได้ดีตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์และกลายมาเป็นนักเตะคนแรกและคนเดียวที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ 3 สมัยติดต่อกัน

เขาทั้งยิงทั้งจ่ายในแต่ละเกมที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกและจบทัวร์นาเมนต์ด้วยสถิติ 4 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ตลอด 6 เกม ซึ่งรวมถึง 2 แอสซิสต์กับอีก 1 ประตูในเกมที่บราซิลเอาชนะอิตาลีไปได้ด้วยสกอร์ 4-1

เกมนี้เป็นนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นในฟุตบอลโลกให้กับบราซิลด้วย และเขาก็จบทุกอย่างไปได้อย่างสวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยล่ะ

เปเล่ยุติการค้าแข้งในนามทีมชาติด้วยการพังไป 77 ประตูจากการลงสนาม 92 นัด ซึ่งทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของทีมชาติบราซิลอีกด้วย

ตลอด 19 ฤดูกาลที่เขาลงเล่นให้กับซานโตส เปเล่ทำไปได้ถึง 643 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 659 เกม ซึ่งถือเป็นสถิติที่มากที่สุดที่นักเตะจะพังประตูให้กับสโมสรเดียวในเวลานั้น เขายังคว้าแชมป์ไปอีกถึง 25 รายการให้กับสโมสรในช่วงเวลานั้น

สโมสรสุดท้ายที่เขาลงเล่นนั้นคือสโมสรนิวยอร์ค คอสมอส ซึ่งเขาลงสนามไป 64 เกมพร้อมกับยิงไปอีก 37 ประตู

เปเล่แขวนสตั๊ดจากวงการลูกหนังด้วยการยิงไปได้ 775 ประตูจากการลงสนามไป 840 เกม เขาเป็นนักเตะที่น่าดึงดูดตาดึงดูดใจทุกครั้งที่เขาได้บอลและเขาก็ทำได้ทุก ๆ อย่างในสนาม ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเลยล่ะ

แน่นอนว่าเปเล่นั้นเป็นนักเตะที่ไม่มีใครเทียบได้และคุณก็จะต้องกดดันอย่างหนักเลยล่ะในการที่จะหานักเตะที่ดีเทียบเท่ากับเปเล่ แต่ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลนั้นยังพอมีนักเตะที่พอจะเทียบชั้นกับเปเล่ได้อยู่บ้าง

ดิเอโก้ มาราโดน่า

มาราโดน่าถือเป็นนักเตะคนแรกที่ก้าวขึ้นมาท้าทายมรดกของเปเล่ เช่นเดียวกับเปเล่ ดาวยิงระดับตำนานของอาร์เจนติน่านั้นคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เท่ากับเปเล่

เขาแบกทีมพาประเทศของเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปครองได้ในปี 1986 พร้อมด้วยสถิติยิงไป 5 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ตลอดจนถึงเกมนัดชิงชนะเลิศ

ลิโอเนล เมสซี่

แน่นอนว่านักเตะที่ทำลายสถิติที่ทำประตูมากที่สุดให้กับ 1 สโมสรของเปเล่นั้นจะต้องอยู่ในลิสต์นี้อย่างแน่นอน

ลิโอเนล เมสซี่ยังคงมองหาโอกาสในการคว้าแชมป์โลกสมัยแรกของเขาให้กับอาร์เจนติน่า แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา หากว่านักเตะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัยสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนี้ได้แล้วล่ะก็ มีหลายคนเลยล่ะที่จะเชื่อว่าเขานั้นได้ก้าวข้ามผ่านเปเล่ไปแล้ว

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

เช่นเดียวกับชายคนนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ยิงประตูในนามทีมชาติมากที่สุดและยังยิงประตูไปมากกว่า 800 ประตูตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขา เพราะงั้นมันจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขานั้นถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลอีกคน

โรนัลโด้ยังคงมองหาโอกาสในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในทัวร์นาเมนต์ที่น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเขาแล้วที่กาตาร์และปิดฉากมรดกลูกหนังของเขาในฐานะนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล