บทนำ:

ถ้าเราย้อนกลับไปดูเมื่อช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้คือทีมที่มีแต่ขาขึ้น และขึ้นถึงจุดสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษได้สำเร็จ ซิตี้เป็นทีมที่ดูแล้วสมบูรณ์แบบ และนั่นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในโลกฟุตบอล ถ้าเราลองที่จะหาเหตุผลว่าทำไมแมนฯ ซิตี้ถึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ คำตอบแรกที่จะผุดขึ้นมาในหัวใครหลาย ๆ คนก็คงเป็นการที่ทีมเรือใบสีฟ้ามีกุนซือ อย่าง เป็ป กวาดิโอล่า กุนซือจอมพลิกสถานการณ์ทีมอยู่

แต่ถึงเป็ปจะเป็นกุนซือสมองเพชรแค่ไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่แมนฯ ซิตี้มีการเงินที่ดี และมีงบประมานอย่างเหลือเฟือให้ช็อปปิ้งนักเตะทุกปีนั้นส่งผลโดยตรงกับความสำเร็จของพวกเขาอย่างมาก การทุ่มเงินซื้อเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มาจากดอร์ตมุนด์ก็เป็นเพียงอีกตัวอย่างหนึ่งของข้อดีในการมีเงินเยอะเท่านั้น

เรารู้สึกว่าเราควรพูดถึงการคว้าแชมป์ลีกของซิตี้ในปีก่อนให้มากกว่านี้หน่อย รวมถึงเรื่องของเหตุผลต่าง ๆ ว่าทำไมกองหน้าที่เนื้อหอมที่สุดในโลกในตอนนี้อย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์  ถึงเลือกที่จะเซ็นสัญญากับทีมเรือใบสีฟ้า แทนที่จะเป็นทีมอื่น ๆ บนโลก ที่ล้วนอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมกันทั้งนั้น บทความนี้ท่านไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เราลองไปดูกันเลย

แมนฯ ซิตี้ และ พรีเมียร์ลีก; เรื่องราวความรักของจริงยิ่งกว่าละคร

อย่างที่ทราบกันดีว่า พรีเมียร์ลีกคือลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปและอาจจะแข็งแกร่งที่สุดในโลกด้วยในปัจจุบัน ซึ่งก็ยังเป็นข้อถกเถียงในหมู่แฟน ๆ อยู่ว่าลีกไหนกันแน่ ที่เป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น อย่างน้อยก็ในอังกฤษ     ที่พรีเมียร์ลีกถือเป็นจุดสูงสุดของฟุตบอล และเฉพาะทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่านั้น ที่จะมีวาสนาได้จับถ้วยใบนี้

และถ้าเราจะบอกคุณว่า มีทีมทีมหนึ่ง ที่คว้าแชมป์ในลีกสุดหินนี้ได้ถึงสี่ครั้งจากห้าปีหลังสุด คุณจะเชื่อหรือไม่ เพราะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำสิ่งที่เราพูดไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เป็นการเข้ามาของเป็ป กวาดิโอล่า ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของทีม และพัฒนาทีมให้ก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ เพราะปีนี้นั้นเป็นเพียงปีที่ห้าของเป็ปกับซิตี้เท่านั้น เราลองมาดูกันว่าเป็ปมีวิธีอย่างไร ในการผูกขาดแชมป์ลีกได้ขนาดนี้

Vincent Kompany holds up the Premier League trophy 2012

ภาพการฉลองแชมป์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2020

แชมป์ลีกสี่สมัยในห้าปี

ลองย้อนเวลากลับไปสัก 5 ปี ในฤดูกาล 2017/2018 ของซิตี้นั้น ถือว่าทีมทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติ โดยการเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่เก็บได้ถึง 100 คะแนนในฤดูกาลเดียว ไม่แปลกใจที่พวกเขาจะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนั้นได้ รวมถึงป้องกันแชมป์ได้อีกสมัยในปีถัดไปด้วย

หลังจากพลาดแชมป์ไปในปี 2019/2020 แมนฯ ซิตี้ก็กลับมาคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้งในปีถัดมา โดยทิ้งห่างอันดับสองอย่างแมนฯ ยูไนเต็ดถึง 12 คะแนน คว้าแชมป์ลีกสมัยที่สามในรอบสี่ปีได้สำเร็จ แต่สถิติของพวกเขามันยังไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้

รีวิวฤดูกาล 2021/2022 แบบสั้น ๆ :

ถ้าจะให้เราสรุปฤดูกาล 2021/2022 ในประโยคเดียว ก็คงเป็นการขับเคี่ยวกันจนถึงนัดสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ  ลิเวอร์พูล โดยเป็นทีมเรือใบสีฟ้าที่เฉือนปาดหน้าคว้าแชมป์ไปได้ด้วยระยะห่างเพียงแต้มเดียวเท่านั้น คว้าแชมป์เป็นสมัยที่สีในรอบห้าปีล่าสุดได้สำเร็จ เรียกได้ว่าแทบจะแชมป์แบบผูกปีแล้ว

พวกเขายิงประตูได้มากที่สุดในลีก ยิงไปถึง 99 ประตู และยังเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกด้วย เสียไปเพียง 26 ประตูเท่านั้น เป็นความสมบูรณ์แบบทั้งสองด้านที่หาทีมไหนจะมาเลียนแบบได้ยาก ลำพังทำได้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ยากมากแล้ว แต่ทัพเรือใบสีฟ้ากลับทำได้ทั้งสองอย่างพร้อมกันในฤดูกาลนี้

การยึดครองลีกอังกฤษของเป็ปด้วยการทำทีมที่ยอดเยี่ยม

เราได้พูดถึงเรื่องที่แมนฯ ซิตี้ มีเงินถุงเงินถังให้ใช้จ่ายไปนิดหน่อยแล้วด้านบน แต่สิ่งที่เรายังไม่ได้พูดถึงก็คือเรื่องที่แฟนบอลสามารถดูออกได้ไม่ยากว่ากุญแจสำคัญของความสำเร็จนี้คืออะไร ซึ่งคำตอบก็คือเป็ป กวาดิโอล่า

ยอดกุนซือที่ถูกขนานนามว่าเป็นกุนซืออัจฉริยะแห่งยุค เป็ปก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมของแมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาล 2016/2017 โดยก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ใช่กุนซือโนเนมแต่อย่างใด เพราะเขาคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วนแล้วทั้งบาเยิร์น มิวนิก และ บาร์เซโลน่า

การเข้ามาของเป็ปทำให้แมนฯ ซิตี้ ประสบความสำเร็จในลีกในทันที และแซงหน้าแมนฯ ยูไนเต็ดกับทีมยักษ์ใหญ่อื่น ๆ อีกมากมาย ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในเกาะอังกฤษแทน อย่างไรก็ดีก็ใช่ว่าชีวิตของเขาและแมนฯ ซิตี้จะสมบูรณ์แบบไปเสียหมด ถึงแม้เขาจะคว้าแชมป์กับแมนฯ ซิตี้มามากมาย ก็ยังมีอยู่ถ้วยหนึ่งที่เขายังไม่สามารถนำมาสู่ เอติฮัด สเตเดียม ได้ นั่นก็คือถ้วยหูใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เราลองมาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในถ้วยใบนี้ในทุก ๆ ปี

2021-12-07 Fußball, Männer, UEFA Champions League, RB Leipzig - Manchester City FC 1DX 2556 by Stepro

ถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก; ความล้มเหลวของเป็ปและเรือใบสีฟ้า

ในตอนนี้ ถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ก็คงจะเป็นเหมือนอินฟินิตี้สโตนก้อนสุดท้ายที่ธานอสอย่างเป็ปยังไม่เคยได้ จริงอยู่ที่เขาเคยคว้าแชมป์ถ้วยนี้มาแล้วกับบาร์เซโลน่า แต่นั่นมันก็สิบปีมาแล้ว และเขาก็ยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยใบนี้กับแมนฯ ซิตี้ เลย อันที่จริง แมนฯ ซิตี้ไม่เคยคว้าถ้วยใบนี้ได้เลยต่างหาก นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา

หากคุณมีทั้งกุนซือที่เก่งที่สุดในโลก และขุมกำลังนักเตะที่ดีที่สุดในโลก คุณก็คงหวังให้ทีมนี้เดินหน้าคว้าทุกแชมป์ที่เป็นไปได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก

ความจริงก็คือ พวกเขาเข้าใกล้และเกือบที่คว้าถ้วยบิ้กเอียร์ไปนอนกอดได้หลายครั้งแล้ว แต่โชคชะตาก็ไม่เคยเข้าข้างพวกเขาเลย เช่นในปี 2020/2021 ที่พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก และเป็นต่อในรอบชิงชนะเลิศทุกประตู แต่สุดท้ายก็จบด้วยการรับเหรียญรองชนะเลิศเท่านั้น

และในปีล่าสุด ที่พวกเขาจอดป้ายเพียงรอบรองชนะเลิศอีกครั้ง ด้วยฝีมือของเรอัล มาดริด แม้ว่าในเกมนั้น พวกเขาจะนำเรอัล มาดริดอยู่ถึงสองประตูจนถึงช่วงทดเจ็บในเกมที่สองก็ตาม มาถึงตรงนี้แล้ว หากเราจะสรุปง่าย ๆ ว่า ทำไมทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในยุโรปเกือบทุกปีถึงไม่เคยคว้าแชมป์ยุโรปได้เสียที คำตอบก็คงจะเป็นเพราะโชคชะตาไม่พาไปจริง ๆ

ผลพวงจากการเข้ามาของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คือหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนในยุคนี้ ที่มีแววว่าจะเก่งใกล้เคียงหรือเทียบเท่า คริสเตียโน โรนัลโด้ หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในบุนเดสลีกา ยิงประตูได้ถล่มทลาย และแสดงให้โลกเห็นแล้วว่าถ้าเป็นเรื่องยิงประตูล่ะก็ เขาไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน

แน่นอนว่าผลงานดีขนาดนี้ก็ย่อมเนื้อหอมเป็นธรรมดา ฮาลันด์มีทีมยักษ์ใหญ่หมายตามากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา  แต่สุดท้ายก็เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้ในฤดูกาล 2022/2023 และดีลแบบนี้นี่ทำให้เราเลิกสงสัยเสียที    ว่าแมนฯ ซิตี้นั้นรวยจริงหรือไม่

อย่างไรก็ดี การได้ตัวอาวุธหนักอย่างฮาลันด์เข้ามาเสริมทีมนั้นจะเพียงพอต่อการคว้าแชมป์ยุโรปหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังตอบยาก แต่เราก็ขอพูดว่าเป็ป กวาดิโอล่า มีประสบการณ์มาแล้วนับไม่ถ้วนกับกองหน้าระดับโลกมากมาย

Erling Haaland 2020

เป็ป กวาดิโอล่ากับเหล่าแนวรุกของเขา:

ฮาลันด์ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความสัมพันธ์กับเป็ปอย่างแน่นอน เพราะเป็ปนั้นมีประวัติในการทำงานกับนักเตะระดับโลกมาอยากโชกโชน และจะการันตีว่าจะใช้งานเขาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

ตัวอย่างก็เช่น ลิโอเนล เมสซี่ ในช่วงต้นการค้าแข้งของเขา ที่เป็ปเป็นคนปลุกปั้นและใช้งานเขาอย่างถูกทาง จนเขาก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่น่าจะเก่งที่สุดตลอดกาล เป็ปโดดเด่นมากในเรี่องที่เขาสามารถดึงความสามารถของนักเตะที่มีออกมาได้ถึงขึดสุด และนั่นก็คือสิ่งที่เขาทำกับเมสซี่ คือการขยับเมสซี่มาเล่นในตำแหน่ง “ฟอลส์ไนน์”  และเราก็คงไม่ต้องพูดบ้างว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เพราะโลกได้แต่ตกตะลึงกับผลงานของเมสซี่ภายใต้ตำแหน่งใหม่ของกวาดิโอล่า

อ่าน:  ท็อตแนม 2023/24 รีวิวพรีเมียร์ลีกฤดูกาล

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว มีแนวโน้มสูงเลยทีเดียวว่าฮาลันด์จะประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก เขามีทุกอย่างเพียบพร้อมที่จะประสบความสำเร็จในลีกอันดับหนึ่งของโลกแล้ว เหลือแค่รอเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเองเท่านั้น

ฮาลันด์จะสามารถช่วยให้ซิตี้คว้าแชมป์ยูฟ่าได้เสียทีหรือไม่?

เป็นคำถามที่ถามง่ายแต่ตอบยากเหลือเกิน กับคำถามที่ว่าฮาลันด์จะสามารถช่วยให้ซิตี้คว้าแชมป์ยูฟ่าได้เสียทีหรือไม่นั้น เอาเป็นว่าเราก็จะลองตอบดูก็แล้วกัน

แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้เป็นทีมที่ขาดแคลนนักเตะเกมรุกเลย แม้ว่าจะเป็นตอนที่ยังไม่มีฮาลันด์ก็ตาม แต่นี้เป็นเรื่องของสปิริตและขวัญกำลังใจของทีมที่การมีฮาลันด์เข้ามาจะช่วยได้มาก ในการบุกถล่มทีมในยุโรปให้ราบเป็นหน้ากลอง

ฟุตบอลพลิกล็อกได้เสมอ และนั่นแหละคือเสน่ห์ของมัน ซิตี้ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าพวกเขาจะคว้าแขมป์ได้แบบ 100% เพราะในเกมฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทีมที่เก่งแค่ไหนก็ยังอาจจะเล่นไม่ดีในวันสำคัญได้ ตัวอย่างเช่นซูเปอร์ทีมอย่างเปเอสเช ที่มีทั้งเอ็มบัปเป้ เมสซี่ เนย์มาร์ ในทีม ก็ยังมีเกมที่เล่นได้อย่างหลุดฟอร์มจนแพ้และตกรอบไปในปีนี้

สรุป :

บทความในวันนี้ยาวและครอบคลุมหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่เรื่องราวของแมนฯ ซิตี้ กับการครองพรีเมียร์ลีกของพวกเขา จนมาถึงเรื่องโชคชะตาของพวกเขากับถ้วยบิ้กเอียร์ วันนี้เราได้กล่าวถึงไปหมดแล้ว นอกจากนี้ ที่น่าสนใจก็คือเมื่อมีฮาลันด์เข้ามาในลีก นั่นทำให้ชีวิตของซิตี้และพรีเมียร์ลีกยิ่งง่ายขึ้นไปอีก

และนี่ก็คือทั้งหมดในวันนี้ เราขอขอบคุณทุกท่านมากที่ติดตามอ่านบทความของเราจนจบ ท่านสามารถติดตามพวกเราไว้ได้ และเราสัญญาว่าเราจะนำคอนเทนต์ฟุตบอลที่น่าสนใจว่าเขียนให้ทุกท่านอ่านกันอีกอย่างแน่นอน

Leave A Reply